สูตรแกงเผ็ดเป็ดย่าง ใส่ตะลิงปลิง อาหารไทย ต้านมะเร็ง

สูตรแกงเผ็ดเป็ดย่าง ใส่ตะลิงปลิง อาหารไทย ต้านมะเร็ง ดิฉันเพิ่งอ่านพบข่าวจากสสส. รายงานว่า มีผลงานวิจัยของมหาบัณฑิตสาขาพิษวิทยา สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบอาหารไทย 10 ตํารับ ที่มีแนวโน้มช่วยต้านมะเร็งได้ดีเยี่ยม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ“แกงเผ็ดเป็ดย่าง” ที่ดิฉันและคุณกิติภูมิจะสอนคุณปรุงกันค่ะ

สูตรแกงเผ็ดเป็ดย่าง ทราบกันดีว่า เป็นแกงไทยที่ใส่ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานลงไป เพื่อช่วยตัดเลี่ยนจากเนื้อเป็ดย่าง แต่ที่หลายคนยังไม่ทราบก็คือ ผลไม้ชนิดใดหนอ?? เมื่อนํามาปรุงแกงนี้แล้วจะอร่อย และไม่ทําให้เนื้อเป็ดเปื่อยยุ่ยจนเกินไป

ซ้ำร้ายบาง ครั้งดิฉันเห็นร้านอาหารบางแห่งใส่มะเขือพวงลงในแกงชนิดนี้ด้วย จึงต้องขออนุญาตชี้แจงกับคุณผู้อ่านว่า แกงเผ็ดเป็ดย่างไม่ใส่มะเขือพวงหรือมะเขือเปราะลงไปเด็ดขาด เพราะแกงชนิดนี้ต้องการกลิ่นและรสของผลไม้เป็นหลัก กลิ่นขื่น ๆ ของมะเขือ จะทําให้รสแกงไม่อร่อย

**อาจารย์เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ และ**
**กิติภูมิ ดวงทิพย์**

เพื่อประหยัดเวลา ดิฉันขอชวนคุณเข้าครัวปรุงแกงชนิดนี้กันเลยดีกว่าค่ะ เริ่มเตรียมวัตถุดิบจากพระเอกของงาน นั่นก็คือ “เป็ดย่าง” ควรเลือกชนิดย่างหนังกรอบ เนื้อเป็ดนุ่มไม่แห้งเกินไป ไว้ 1 ตัว เมื่อได้มาแล้ว ให้แล่ชิ้นอกและน่องติดหนังเลาะกระดูกทิ้งแยกไว้ ส่วนเนื้อเป็ดติดซี่โครงนั้นให้แล่แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กพอคําเตรียมไว้อีกส่วน

ถัดมาคือ พริกแกง ซึ่งก็คือพริกแกงสําหรับแกงเผ็ดทั่วไป เตรียมไว้สักประมาณ 1/2 ถ้วย หัวกะทิ 1 กิโลกรัม นําไปต้มไฟกลางจนแยกชั้น ตักเอาเฉพาะส่วนหน้าหัวกะทิออกมาเตรียมไว้ให้ได้สัก 3 ถ้วย กะทิกลางเตรียมไว้ 6 ถ้วย และอาจสํารองหางกะทิไว้อีกสัก 2 ถ้วย

เครื่องปรุงรส ได้แก่ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา เกลือ ตามชอบ นอกจากนี้ ยังมีพริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ ใบโหระพาสด และใบมะกรูดฉีก

สิ่งสุดท้าย ซึ่งสําคัญมากคือผลไม้ ดิฉันแนะนําให้ใช้ “ตะลิงปลิง” เป็นหลักค่ะ เพราะมีรสเปรี้ยวในตัว เมื่อนํามาปรุงจะให้รสกับน้ำแกงได้ดี แถมเนื้อตะลิงปลิง เมื่อถูกความร้อนยังนุ่มขึ้น และดูดซึมรสน้ำแกงเข้าไปไว้ในตัวได้ด้วย เวลารับประทานแล้วจะอร่อยกลมกล่อม

นอกจากนี้ยังมีองุ่นเขียว องุ่นแดงคว้านเมล็ดออก มะเขือเทศสีดาสด ล้างสะอาด แอ๊ปเปิ้ลเขียวแกะสลักเป็นดอกไม้ ผลไม้ทั้งหมดคะเนปริมาณเอาตามควรค่ะ เท่านี้เป็นอันครบเครื่อง

ส่วนเรื่องการใส่สับปะรดนั้น ดิฉันไม่สนับสนุน เพราะเมื่อนํามาปรุงจะทําให้เนื้อเป็ดเปื่อยยุ่ยเกินไป รับประทานไม่อร่อย

เริ่มแกง โดยผัดหัวกะทิที่ตักแยกไว้ในกระทะด้วยไฟกลางให้ข้นขึ้น จึงใส่พริกแกงลงผัด พอส่วนผสมข้นขึ้นอีกครั้ง เติมกะทิกลางผัดจนขึ้นเงาสวย แต่ไม่ให้กะทิแตกมันแยกชั้นเด็ดขาด! ขั้นตอนนี้หากส่วนผสมเริ่มข้นให้เติมหางกะทิที่สํารองไว้ลงไปได้

จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย อัตราส่วนการใส่น้ำตาลนั้น คือ น้ำตาลปี๊บ 1 ส่วน น้ำตาลทราย 2 ส่วน ชิมรสให้เค็มนําหวานตาม เผ็ดปะแล่ม

ปรุงรสได้ที่แล้วจึงใส่ใบมะกรูด ตามด้วยเนื้อเป็ดติดซี่โครงที่เลาะเตรียมไว้ลงไป ต้มสักพักให้น้ำแกงซึมเข้าเนื้อเป็ด จึงใส่ผลไม้ทุกชนิดลงไปต้มสักพัก รอจนตะลิงปลิงสุกดี จึงใส่พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบและใบโหระพา ปิดไฟ

สิ่งสําคัญอีกประการที่ควรทราบคือ ปริมาณน้ำแกงเผ็ดชนิดนี้จะมีไม่มากเหมือนอย่างแกงเผ็ดทั่วไป แต่ไม่ข้นเหมือนอย่างพะแนง ตักแกงที่สําเร็จแล้วใส่ถ้วย หั่นชิ้นอกเป็ดและน่องเป็ดเลาะกระดูกให้สวยงามใส่ลงในถ้วยแกง

การใส่เป็ดย่างอีกส่วนภายหลังนี้ เพื่อช่วยให้หนังเป็ดยังคงความกรอบอร่อยยามรับประทาน ยกขึ้นสํารับทันที รับประทานกับข้าวสวยช่วยเจริญอาหารได้ดีทีเดียว เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนวิธีปรุงแกงเผ็ดเป็ดย่างใส่ตะลิงปลิงค่ะ

ความรู้และสูตร : อาจารย์เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ และ กิติภูมิ ดวงทิพย์ เรียบเรียง : สิทธิโชค ศรีโช ผู้ช่วยกองบรรณาธิการ : กัญญา, เป็นเอก, นพดล ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลําเจียก ผู้ช่วยช่างภาพ : เทวัญ ตั้งแสงประทีป สไตล์ : กษมา, หมูแดง เขียนลงเว็บ เนื้อทอง ทรงสละบุญ
นิตยสาร Health & Cuisine ปี 2557 ฉบับที่ 162 (ก.ค. 57) หน้า 116-117

#ACuisine #เอควิซีน #cherrykitcook

อยากกิน อยากฟิน อยากทำ อย่าลืมติดตาม A Cuisine (เอควิซีน)

Website : https://goodlifeupdate.com/category/healthy-food