ไม่ว่าอะไรก็ทำได้ ถ้าใช้กฎ 10,000 ชั่วโมง เคล็ดลับความสำเร็จ ของผู้ประสบความสำเร็จ

มัคคอล์ม แกลดเวลล์ คอลัมนิสต์แห่งนิตยสารไทม์ กำลังจะเผย เคล็ดลับความสำเร็จ จากการสังเกตภูมิหลังของผู้ที่ประสบความสำเร็จแก่พวกเรา

มัคคอล์ม แกลดเวลล์ (Malcolm Gladwell) เป็นคนหนึ่งที่ได้ดีจากความช่างสงสัย เขาเป็นคอลัมนิสต์ประจำนิตยสาร เดอะนิวยอร์กเกอร์ และมีผลงานขายดีสองเล่ม คือ The Tipping Point : How Little Things Can Make a Big Difference และ Blink: The Power of Thinking without Thinking ในปี 2005 นิตยสารไทม์ ยกย่องมัลคอล์มให้เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลร้อยคนแรกของโลก และเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง หนังสือเล่มล่าสุดของเขา Outliers: The Story of Success ก็ขึ้นสู่อันดับหนึ่งบนชาร์ตนิวยอร์กไทมส์อีกครั้ง

มัคคอล์มเล่าว่า จุดเริ่มต้นของหนังสือเล่มนี้มาจากความสงสัยของเขาเอง เขาอยากรู้ว่าทำไมคนบางคนถึงได้ประสบความสำเร็จ เหนือกว่าคนทั่วไปหลายเท่า เขาจึงหาคำตอบด้วยการศึกษาชีวประวัติของเหล่าคนดังอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานครอบครัว สถานที่ เกิด วันเกิด และเหตุการณ์พลิกผันต่าง ๆ

เมื่อศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ มัลคอล์มก็พบข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย เช่น นักกฏหมายที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลในนิวยอร์ก มักจะมีภูมิหลังที่ใกล้เคียงกันอย่างเหลือเชื่อ ยกตัวอย่างเช่น ทุกคนล้วนเกิดในช่วงกลางทศวรรษ 1930

มัลคอล์มเล่าว่า เหตุผลของความเหลือเชื่อเหล่านั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เขาอธิบายว่า ทศวรรษ 1930 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตสูงมากในประวัติการณ์ ประกอบกับเป็นช่วงที่มีอัตราการเกิดต่ำทำให้มีจำนวนนักเรียนน้อย ครูจึงมีเวลาเหลือเฟือในการดูแลเด็ก ๆ และเมื่อถึงคราวที่เด็กๆ เหล่านั้นต้องก้าวเข้าสู่สังคมการทำงาน พวกเขาก็จะเจอคู่แข่งในวัยเดียวกันค่อนข้างน้อยเช่นเดียวกัน บริษัทจึงทุ่มเทให้พนักงานแต่ละคนได้มากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ คนที่เกิดในช่วงทศวรรษที่ 1930 จึงได้เปรียบกว่าคนทั่วไป

อย่างไรก็ดี ใช่ว่าการมีภูมิหลังที่ได้เปรียบจะเป็นเครื่องรับประกันความสำเร็จ เพราะมัลคอล์มพบว่า “ไอคิว” หรือ “ความฉลาดทางปัญญา” นั่นแทบจะไม่มีผลต่อการประสบความสำเร็จเลย เห็นได้จากการที่ไอน์สไตน์มีไอคิวเพียง 150 เท่านั้น ซึ่งคนที่มีไอคิวระดับนี้มีอยู่มากมายดาษดื่น อันที่จริงแล้ว “อีคิว” หรือ “ความฉลาดทางอารมณ์” ต่างหากที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินดโชคชะตาของคนแต่ละคน เพราะความสำเร็จมักจะต้องอาศัยความสามารถในการปรับตัว และการสร้างมนุษยสัมพันธ์เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนอย่างแรงกล้าจากคนรอบข้าง

อีกสิ่งหนึ่งที่มัลคอล์มค้นพบซึ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ แม้คุณจะเลือกปีเกิดหรือเพิ่มไอคิวให้ตัวเองไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจของความสำเร็จ ซึ่งทุกคนสามารถทำได้เท่าเทียมกันก็คือ การลงมือทำอย่างต่อเนื่องให้ได้นาน 1,000 ชั่วโมง

ผู้ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นไทเกอร์ วู้ดส์, บิล เกตส์ หรือวงดนตรีเดอะบีเทิลส์นั้น ล้วนแล้วแต่ผ่านการลงมือทำตามกฎนี้มาแล้วทั้งสิ้น

ไทเกอร์ลงสนามซ้อมตีกอล์ฟกับคุณพ่อวันละหลายชั่วโมงตั้งแต่สองขวบ บิลหมกมุ่นกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุ 13 ส่วนหนุ่มๆ แห่งวงสี่เต่าทองก็ตะลุยแสดงคอนเสิร์ตในประเทศเยอรมนีมากกว่า 1,000 รอบ ก่อนที่จะกลับมาบันทึกแผ่นเสียงที่อังกฤษและโด่งดังไปทั่วโลก

นอกจากการทุ่มเทอย่างยาวนานแล้ว ผู้ที่ประสบความสำเร็จ อย่างน่ามหัศจรรย์มักจะคิดเสมอว่า “วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน และชั่วโมงนี้ต้องดีกว่าชั่วโมงที่ผ่านมา” ดังที่ เอ็ดสเกอร์ ไวบ์ ดิจก์สตรา (Edsger Wybe Dijikstra) นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่ชาวเนเธอร์แลนด์เคยกล่าวไว้ว่า

“พยายามตั้งมาตรฐานของตัวเองให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลีกเลี่ยงการผลาญเวลาไปกับการแก้ปัญหาเก่าๆ และตั้งใจทำงานให้มากที่สุดเท่าที่ขีดความสามารถของคุณจะอำนวย

“จงทำตามนี้ เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่จะได้รู้ว่า คุณจะสามารถขยายขีดความสามารถของตัวเองออกไปได้มากแค่ไหน”

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร และไม่ว่าความฝันของคุณจะเป็นอะไร อย่าได้กล่าวคำว่า “ทำไม่ได้” หากยังไม่ได้ลงมือทำสิ่งนั้นครบ 10,000 ชั่วโมง

ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 15

ผู้เขียน/แต่ง : ไวโอเลต

ภาพ :

https://en.wikipedia.org

https://mondoweiss.net

https://www.blinkist.com

https://www.huffingtonpost.com

https://nationalpost.com

บทความน่าสนใจ

ยืดหยุ่นให้กับนิยามความสำเร็จของตัวเอง แล้วจะประสบความสำเร็จ