วันปิดเทอม

8 เคล็ดลับ เสก ” วันปิดเทอม ” ให้กลับมามีจริงอีกครั้ง!

8 เคล็ดลับ เสก ” วันปิดเทอม ” ให้กลับมามีจริงอีกครั้ง

ตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตทำงาน วันปิดเทอม อันแสนสุขตามประสาเด็กนักเรียนก็หายไปเสียอย่างนั้น ครั้นจะลาพักร้อนก็ต้องเคลียร์งานจนหัวหมุน แถมยังได้พักแบบไม่เต็มเหนี่ยวเพราะต้องคอยพะวงถึงงานกองโตที่จอดเรียงคิวเป็นหางว่าว เราจึงขออาสานำ วันปิดเทอม ของคุณกลับคืนมาอีกครั้ง

6 สัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายคุณกำลังโหยหาวันปิดเทอม
1.เพื่อนร่วมงานถามคุณบ่อยๆ ว่า “เธอดูเหนื่อยนะ” หรือ “ช่วงนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
2.คุณเอาแต่คิดเรื่องงานเช้ายันเย็น แถมยังลามเก็บเอาไปฝัน
3.คุณมีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวน้อยลงและเริ่มขาดการติดต่อกับเพื่อนเก่า
4.โทรศัพท์และแท็บเล็ตคือต้นกำเนิดความเครียดของคุณ
5.คุณเริ่มทำงานด้วยความเนือย ส่งผลให้งานผิดพลาดบ่อยๆ
6.คุณไร้ซึ่งความฝันและเป้าหมายชีวิต แถมยังลืมไปแล้วว่าทำไมคุณถึงอยากทำงานนี้ตั้งแต่แรก

 

วันปิดเทอม

Tip 1: เตรียมพร้อมก่อนปิดเทอม

ก่อนปิดเทอมคุณต้องแก้ปัญหาชีวิตตัวเองให้ได้ก่อน 3 ข้อ เริ่มจากถามตัวเองว่า “สถานที่ไหนที่คุณอยู่แล้วผ่อนคลายมากที่สุด” ต่อมา “งานอะไรที่คุณรักมากที่สุด” และสุดท้าย “เพื่อนแบบไหนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด” จากนั้นคุณก็นำตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการ เช่น หาที่อยู่แถบชานเมืองที่มีต้นไม้ร่มรื่น เลือกทำงานประจำที่รักและเลือกคบเพื่อนร่วมงานนิสัยดี วิธีนี้ฟังดูอาจจะยากหน่อย แต่รับรองว่าทุกๆ วันของคุณจะไม่ต่างอะไรกับช่วงเวลาที่เอนกายลงบนผ้าใบริมชายหาด

 

วันปิดเทอม

Tip 2: จำลองทุกวันเป็นวันท่องเที่ยว

ลองดื่มด่ำกับชีวิตประจำวันให้เหมือนกับวันท่องเที่ยวดูบ้าง ด้วยการเปลี่ยนเส้นทางไปทำงาน ถ้าคุณเคยขับรถไปทำงาน อาจเปลี่ยนไปขึ้นรถเมล์แทน ถ้าเคยขึ้นรถไฟฟ้า ก็อาจเปลี่ยนไปปั่นจักรยาน หรืออาจแวะพักระหว่างทางเพื่อจิบกาแฟร้อนๆ ก่อนเริ่มงานด้วยก็ยังได้ ส่วนช่วงหลังเลิกงานก็ลองเปลี่ยนไปลิ้มลองอาหารเมนูแปลกใหม่ที่ร้านใหม่ๆ ซึ่งไม่เพียงช่วยให้คุณปลดปล่อยความเครียดจากความจำเจได้แล้ว ยังอาจทำให้คุณเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ระหว่างทางอีกด้วย

 

วันปิดเทอม

Tip 3: จัดระบบงานให้เข้าที่

การเปิดอินเทอร์เน็ตทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืนไม่เว้นวันหยุด ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คุณไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทิม เฟอร์ริส (Tim Ferriss) บล็อกเกอร์ที่ทำงานสี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แถมพ่วงตำแหน่งนักเขียนชื่อดังในอเมริกา แนะนำวิธีง่ายๆ ว่า ให้จัดเวลาการทำงานอย่างเป็นระบบ เช่น เช็คอีเมลเพียงสองครั้งต่อวันเท่านั้น คือช่วงเช้าก่อนงานเริ่มและช่วงเย็นหลังเลิกงาน โดยตั้งค่าระบบตอบรับอัตโนมัติ ที่ทำให้คนติดต่องานเข้ามา รู้ว่าคุณจะกลับมาเช็คอีเมลอีกครั้งเมื่อไหร่ พร้อมทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้สำหรับติดต่อเรื่องด่วนหรือเรื่องฉุกเฉิน วิธีนี้ช่วยให้คุณไม่ต้องลุกลี้ลุกลนทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน แถมเหลือเวลาให้พักผ่อนอีกหลายชั่วโมง

 

วันปิดเทอม

Tip 4: หาชั่วโมงพักระหว่างวัน

เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกเหนื่อยหนักกับชีวิต ต้องการหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ แต่ตารางเวลาเจ้ากรรมดันแน่นเอี๊ยดไปหมด คุณแค่เพียงตื่นให้เช้ากว่าปกติสักชั่วโมง เพื่อทำกิจกรรมสนุกๆ เช่น พาน้องหมาไปเดินในสวน เล่นโยคะ ซื้อผักสดในตลาด ส่วนในระหว่างวัน เมื่อไหร่ที่รู้สึกเบื่อๆ คุณแค่เพียงเปิดเพลงสักหนึ่งชุดสร้างอารมณ์ให้ตัวเอง พอพักกลางวันก็นัดเพื่อนเก่ากินข้าว แต่อย่าเผลอพูดถึงเรื่องงานเชียวล่ะ ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ก็จัดตารางสั้นๆ ไปดูคอนเสิร์ต เสพงานศิลปะหรือไม่ก็ทิ้งตัวลงจิบกาแฟเบาๆ ที่ร้านกาแฟสักแห่งพร้อมหนังสือเล่มโปรดก็ยังได้ เพียงเท่านี้คุณจะพบว่าตัวเองไม่ได้มีกิจวัตรจำเจเหมือนหุ่นยนต์ที่มีแค่ ตื่น ทำงาน แล้วก็เข้านอนเท่านั้น

 

วันปิดเทอม

Tip 5: หยุดคิดล่วงหน้า

ทุกครั้งที่คุณไปเที่ยว คุณมักไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเส้นทางข้างหน้าจะพาไปเจออะไรบ้าง เพียงแค่เดินไปแล้วเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เข้ามาเท่านั้น ลองนำวิธีนี้มาใช้กับชีวิตการทำงานของคุณดูบ้าง ด้วยการมองโลกอย่างเด็กใสซื่อ ไม่ต้องคิดอะไรให้หนักสมอง ไม่ต้องไปคาดเดาว่าต่อไปหัวหน้า ลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานจะพูดอะไร อยู่กับปัจจุบันขณะก็เพียงพอแล้ว เชื่อเถอะว่าหลังจากนี้ชีวิตคุณจะมีแต่เรื่องให้เซอร์ไพรส์ทุกวัน

 

วันปิดเทอม

Tip 6: งานจบคนต้องจบ

ก่อนแบกเป้ออกไปเที่ยวแต่ละครั้ง คนส่วนใหญ่มักจะลิสต์งานที่ต้องทำไว้ แล้วไล่ทำทีละอย่างจนกว่าจะเสร็จ จากนั้นก็ปิดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ แล้วบึ่งไปเที่ยวทันที คุณสามารถนำวิธีนี้มาใช้กับชีวิตประจำของคุณได้ด้วยเหมือนกัน โดยเมื่อไหร่ที่งานในแต่ละวันจบลงตามที่ลิสต์ไว้แล้ว ให้ถอดปลั๊กเรื่องงานออกให้หมด อย่าได้บอกตัวเองเด็ดขาดว่าขอทำล่วงหน้าต่ออีกสัก 5 นาที…คุณก็รู้ว่า 5 นาทีไม่มีจริงหรอก ลองตั้งโน๊ตเตือนความจำไว้ในโทรศัพท์หรือไม่ก็แปะโพสท์อิทไว้หน้าคอมพิวเตอร์ เพื่อย้ำเตือนว่า “งานจบ คุณต้องจบ!”

 

 วันปิดเทอม

Tip 7: ไดอารี่มีส่วนช่วย

โรเบิร์ต แอมมอนส์ (Robert Emmons) นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า การจดบันทึกไดอารี่มีประโยชน์ต่อจิตใจเป็นอย่างมาก เพียงแค่เรารู้จักจดบันทึกทบทวนสิ่งดีๆ ที่ได้เจอมาในแต่ละวัน อาจเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น เพื่อนร่วมงานซื้อขนมมาแบ่ง เจอพระอาทิตย์ตกดินแสนสวย หรือได้กินสลัดร้านโปรด เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ทุกวันดูพิเศษขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ

 

วันปิดเทอม

Tip 8: ตามล่าหาสีเขียว

งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า เมื่อคนย้ายเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีสีเขียวจากธรรมชาติมากๆ จะช่วยให้สุขภาพทางใจดียิ่งขึ้น ตรงกันข้ามกับคนที่ย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองที่มีพื้นที่สีเขียวน้อย จะมีสุขภาพทางใจถดถอยลง สอดคล้องกับงานวิจัยอีกชิ้นที่ระบุว่าผู้ป่วยที่นอนในโรงพยาบาลที่มีหน้าต่างเปิดโล่งให้ได้ชมธรรมชาติมักจะหายเร็วกว่าผู้ป่วยที่นอนในห้องปิดทึบ

เกริ่นมาอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องย้ายบ้านไปแถบชานเมืองหรือลงทุนเจาะหน้าต่างบ้าน แค่เพียงออกไปสูดรับบรรยากาศในสวนสาธารณะในเมืองบ้าง นำหลอดไฟสีส้มๆ ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายมาประดับที่ทำงาน หรือถ้ายากเกินไปก็แค่นำดอกไม้สดมาประดับโต๊ะ วิธีนี้อาจไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกเหมือนออกไปเที่ยวมากนัก แต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ซื้อของที่ระลึกให้ตัวเองทุกวัน

เพียงเท่านี้ทุกๆ วันของคุณ ก็จะกลายเป็นวันปิดเทอมได้แล้ว

 


บทความน่าสนใจ

10 ข้อคิดที่ คนทำงาน ควรมีเพื่อพัฒนาตนให้ดีกว่าเดิม

วิธีคลายปวดกล้ามเนื้อ แก้อาการปวดตามเนื้อตัวคนทำงาน

มิตรภาพอบอุ่น ! หนุ่มออฟฟิศใจบุญ สอนหนังสือให้คนเร่ร่อน

Dhamma Daily: หากทำงาน แล้วรู้สึกว่ากำลังหายใจเข้า หายใจออก เรียกว่า มีสติ อยู่ไหมคะ

ฟังธรรม: พุทธวิธีควบคุมความคิด เสียงอ่าน โจโฉ

5 เคล็ดลับ สร้างสุขเรียบง่าย ในวันหยุด

 

Posted in MIND
BACK
TO TOP
A Cuisine
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.