อ๊อฟ-อัครพล ทองธราดล

งานจิตอาสาทางธรรมคือความสุขของผม : อ๊อฟ-อัครพล ทองธราดล

งานจิตอาสาทางธรรมคือความสุขของผม : อ๊อฟ-อัครพล ทองธราดล

น้อยคนนักจะรู้ว่า ผู้ประกาศข่าวมากความสามารถแห่งช่อง 8 อย่าง อ๊อฟ-อัครพล ทองธราดล จากรายการข่าวเด่นและรายการคุยข่าวค่ำ ทั้งยังได้มีเครื่องการันตีคือ รางวัลผู้ประกาศข่าวยอดเยี่ยม นอกจากชีวิตที่เป็นผู้ประกาศข่าวแล้ว คุณอ๊อฟ-อัครพลยังเป็นจิตอาสาที่อุทิศแรงกายและใจให้กับพระพุทธศาสนาอย่างทุ่มเทจนได้รับรางวัลบุคคลต้นแบบดีเด่น รางวัลบุคคลสร้างสรรค์สังคมดีเด่น และรางวัลบุคคลต้นแบบและผู้นำจิตอาสาจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ อีกด้วย แต่ทว่าชีวิตของเขาพลิกผันมาสนใจงานจิตอาสาทางธรรมได้อย่างไร ลองติดตามกันค่ะ

 

มารู้จักวัดปทุมวนารามได้อย่างไร

“ผมเคยเดินผ่าน เพราะเราจะมาเที่ยวห้างฯในสมัยวัยรุ่น หรือตอนเล่นละคร ก็แค่ผ่านมาเฉย ๆ ไม่รู้ว่าที่นี่เป็นวัดสายอรัญวาสี เป็นสายปฏิบัติจริงจัง ตอนหลังมีรุ่นน้องชวนมาสวดมนต์ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้มารู้จักกับวัดปทุมวนาราม ผ่านกลุ่มวัยรุ่นด้วยกันที่มาทำงานในวัดปทุมวนารามจึงมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มจิตอาสากลุ่มนี้

“ เพื่อนของผมอยู่ในกลุ่มนี้อยู่ก่อนแล้ว แล้วก็ชวนกันมาเพราะตอนนั้นผมเป็นนักข่าว ให้ผมมาทำสกู๊ปข่าว เลยมีโอกาสได้เจอกลุ่มบัวลอย และได้รู้จักกับพระปกรณ์วินณ์ ฐิตวํโส หรือ หลวงพี่วินณ์ท่านเป็นพระอาจารย์ที่บวชอยู่ที่นี่ และเคยทำงานสื่อมาก่อน ตอนนั้นเข้ามาทำข่าว เกี่ยวกับกลุ่มปทุมมามหาสิกขาลัย หรือกลุ่มบัวลอย ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อต้องการให้วัยรุ่นหันมาเข้าวัดและศึกษาธรรมะ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้เข้ามารู้จักกับกลุ่มบัวลอย หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ศึกษาหลักธรรมต่าง ๆ กลายเป็นการเข้ามาทีละนิด ๆ ”

 

 

หลังจากเข้ามาเป็นจิตอาสาอย่างเต็มตัวแล้ว ได้อะไรจากการเป็นจิตอาสาบ้าง

“ ผมว่าผมได้ความสุขและความสงบ เวลาเราทำงานอยู่ข้างนอกเราต้องต่อสู้กับคนนั้นคนนี้ เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองคาดหวัง แต่เรามาวัด มาทำงานจิตอาสา เรามา “ให้” โดยที่เราไม่มีตัวตน ไม่ทำอะไรได้ก็ทำ ”

 

หลังจากหันมาสนใจธรรมะ ตัวเราแตกต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างไร

“ แตกต่างหลายเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องข้างใน เมื่อก่อนเราเป็นวัยรุ่น เป็นเรื่องของฮอร์โมนเราก็จะไหลไปตามอารมณ์ต่าง ๆ  แต่พอเราโตขึ้น ได้ศึกษาและปฏิบัติมากขึ้น ธรรมนี่ล่ะที่ทำให้เราดับอารมณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น จากร้อนก็ปรับให้เบา ให้เย็น แทนที่จะปล่อยให้ร้อนต่อ สุดท้ายเราก็จะพังเอง จากการที่เราไม่มีสติ ”

 

เคยนำธรรมะมาช่วยแก้ปัญหาใหญ่ ๆ ในชีวิตไหม

“ ผมอาจจะโชคดีเพราะคุณพ่อคุณแม่มักติดตามครูบาอาจารย์ ตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ ท่านก็จะพาไปหาพระอาจารย์ หรือพระผู้ใหญ่หลาย ๆ รูป ที่เราเห็นปฏิปทาท่านแล้วเลื่อมใส คุณแม่เป็นคนที่ดึงให้ผมบวช ช่วงที่เราศึกษาธรรม ทำให้เราเข้าใจว่าปัญหาที่เราเจอนั้นเกิดจากอะไร เราหลงไหม เราโลภหรือเปล่า เราไปโกรธเขาทำไม มันก็จะค่อย ๆ คลายออกมา สุดท้ายก็เป็นตามอย่างที่พระอาจารย์ หรือพระพุทธเจ้าท่านกล่าวคือให้ดูตนเองก่อน ทันอารมณ์ตัวเองก่อนว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

 

“ วัดที่ผมไปบวชเป็นวัดสายหลวงปู่ชา สุภัทโทอยู่ที่วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ผมได้สัมผัสอะไรเยอะครับ อย่างแรกคือข้อวัตรปฏิบัติของหลวงปู่ชา ถือว่าค่อนข้างเคร่งอยู่เหมือนกัน จะเป็นเรื่องของการกวาดลาน เรื่องของการปฏิบัติ พระอาจารย์ท่านจะแนะนำแนวทางการปฏิบัติ หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านก็แนะนำว่าภายในหนึ่งเดือนต้องอ่านประวัติหลวงปู่ชา ในหนังสืออุปลมณี เป็นหนังสือเล่มหนาขนาดประมาณ 500 หน้า ท่านว่าถ้าอ่านไม่จบจะไม่ให้สึก และหนังสือเล่มนั้นก็ทำให้ผมได้คลายข้อสงสัยปัญหาชีวิตที่เจอมา เพราะท่านจะใช้ธรรมะง่าย ๆ สไตล์พระป่า คำสั้น ๆ แต่โดนใจ ทำให้ฉุกคิดได้ว่าเราไปทำอย่างนั้นทำไม
“ ตอนหลังสึกออกมาผมก็พยายามทำเหมือนตอนเป็นพระทุกอย่าง เช่น ยังมาทำวัตรเย็นที่นี่ เท่าที่จะทำได้ เสร็จจากอ่านข่าวก็รีบมาทำวัตรเย็นที่นี่ พยายามเจียดเวลามาตลอด เพื่อรักษาสภาพจิตใจที่มีความนิ่งได้อย่างต่อเนื่อง จะได้ไม่หวั่นไหว ไม่อย่างนั้นเราก็จะไหวไปตามอารมณ์ต่าง ๆ ได้ง่าย”

 

 

ทุกวันนี้ปฏิบัติอย่างไรบ้าง

“ เรื่องของการปฏิบัติที่เน้น ๆ เลยคือเรื่องของการสวดมนต์เป็นหลัก ถ้าว่างก็จะนั่งสมาธิด้วย บางครั้งระหว่างทำงานหรือว่าเบรกก่อนอ่านข่าว ผมก็จะกำหนดจิต พุท-โธ ถ้ามีโอกาสว่างก็จะเก็บสะสมไปเรื่อย ๆ อาจมีเดินจงกรมด้วย เป็นการเปลี่ยนอิริยาบถเป็นเดิน ”

 

นอกจากงานจิตอาสากลุ่มบัวลอยแล้ว มีงานจิตอาสาอื่นอีกไหม

“ ล่าสุดได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำหนังสือเสียงที่กลุ่มลูกศิษย์ของหลวงตาอินทร์ถวาย สันตุสฺสโก แห่งวัดป่านาคำน้อย จัดทำขึ้น โดยนำประวัติของท่านมาทำเป็นหนังสือเสียง ซึ่งมาจากหนังสือเรื่อง “72 ปีที่ฝังฝากไว้ในพระพุทธศาสนา” เมื่อได้ลงเสียงครั้งแรก บันทึกไป 4 ชั่วโมงยังไม่จบบทแรกเลย ได้มีโอกาสทราบประวัติของครูบาอาจารย์อย่าง หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หลวงปู่แหวน สุจิณโน สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร และหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เลยได้รู้ปฏิปทาของครูบาอาจารย์แต่ละรูป ซึ่งทำให้ทราบว่าแต่ละช่วงที่หลวงตาอินทร์ถวายได้ศึกษาธรรมจากครูบาอาจารย์แต่ละรุ่นอย่างไร ผมก็เหมือนได้ศึกษาธรรม ตอนอ่านก็ต้องท่องจำให้ได้ว่าท่านสอนอะไร ทำให้เราเหมือนได้ซึมซับเรื่องนี้ไปในตัว ”

 

 

“ หลวงตาอินทร์ถวายบอกว่าคนที่จะมาลงเสียงประวัติของท่านได้ต้องเป็นคนที่ปฏิบัติ ผมต้องอัดเสียงลงมือถือแล้วส่งให้ลูกศิษย์ท่านฟังว่าใช้ได้ไหม ผมยึดเรื่องของความชัดเจนเป็นหลัก และเป็นเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกเย็น ไม่รีบ ไปเรื่อย ๆ และอาจมีเว้นช่วง เพื่อให้ผู้ที่นั่งสมาธิได้พิจารณาธรรมจากครูบาอาจารย์ได้ หนังสือเสียงต้องเน้นที่ความสงบและชัดเจน ระหว่างที่ลงเสียงจิตต้องนิ่ง และทำสมาธิไปด้วย ระหว่างเบรกก็ต้องทำสมาธิเพื่อให้เรามีจิตใจที่เย็น ให้เราได้ใช้เสียงนี้ถ่ายทอดธรรมะของหลวงตา เพราะในปัจจุบันคนจะใช้สื่อเหล่านี้ในการเรียนรู้ธรรมะมากขึ้น บางคนอาจไม่ถูกจริตกับการอ่าน แต่ถูกจริตกับการฟัง ก็จะฟังระหว่างปฏิบัติไปด้วย”

 

ได้ทำอะไรบ้างในงานหลวงปู่มั่น มั่นคงในธรรม

“ งานมั่นคงในธรรม ซึ่งเป็นงานของหลวงปู่มั่น ผมก็ทำทุกอย่างตามที่หลวงพี่วินณ์ให้ทำ อย่างมีกิจกรรมอย่างทอดผ้าป่า เราก็มาช่วยกัน หรือแม้แต่งานวัดที่เป็นพี่ ๆ น้อง ๆ ทีมงานช่วยกันทำ ก็มาช่วยได้ทุกอย่าง อย่างล่าสุดโครงการมั่นคงในธรรมก็ได้ใช้เสียงของตนเองในการประชาสัมพันธ์ ในการบอกกล่าวว่าทางวัด ทางกลุ่มจิตอาสา หรือกลุ่มบัวลอยของเรา กำลังทำเพลงธรรมะมั่นคงในธรรม เพื่อนำธรรมะของหลวงปู่มั่นมาแปรเป็นเพลง และแต่ละเพลงก็จะเกี่ยวข้องกับแต่ละช่วงเวลาของชีวิตหลวงปู่มั่น ที่ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งท่านเห็นว่าวัดแห่งนี้มีความสงบ แล้วท่านต้องมาศึกษาธรรมกับท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ที่วัดบรมนิวาส

 

 

ท่านก็จะกลับมาจำวัดที่นี่ ซึ่งตอนที่ท่านไปศึกษาธรรมกับท่านเจ้าคุณอุบาลีฯก็จะเป็นเรื่องการพิจารณากาย เราจึงมีเพลงออกว่า “เธอเห็นโครงกระดูกของฉันไหม” เป็นการพิจารณาอาการ 32 ประการ เป็นการปฏิบัติกายคตาสติ เป็นกรรมฐานที่เราจะพิจารณาร่างกาย ตอนที่เราบวชก็จะมีคำบริกรรมกำหนดว่า “เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ” เราก็ต้องท่องคำเหล่านี้ก่อนที่จะบวช คือการพิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ว่ามันไม่เที่ยงนะ พอสึกออกมาได้เราจึงได้เข้าใจเรื่องของความไม่เที่ยง เมื่อก่อนเป็นดารา นักข่าว ก็จะติดสวย ติดหล่อ ติดดี สุดท้ายมันก็ต้องเสื่อมไปตามสภาพ

0

เคยคิดจะบวชตลอดชีวิตบ้างไหม

“ ตอนที่มีเหตุปัญหาก็คิดและอธิษฐานไว้ว่า ถ้ายังไม่ตายก็จะขอบวชยาวอยู่เหมือนกัน แต่ก็เคยถามครูบาอาจารย์ถึงเรื่องนี้ ท่านบอกว่าให้เรากลับมาพิจารณาว่า เราดูแลพ่อแม่ดีหรือยัง เรามีกำลังทรัพย์ทิ้งไว้ให้ท่านดูแลตัวเองพอหรือยัง เพราะพวกท่านอาจจะลำบาก ครูบาอาจารย์ท่านเลยแนะนำให้ปฏิบัติ  เช่น วันพระก็ปฏิบัติเข้มข้นหน่อย คือค่อย ๆ ปฏิบัติไปก่อน ทำงานทางโลกของเราให้ดีก่อน ถ้ามีโอกาสก็ทำงานเสริมทางธรรมเข้าไป ผมจึงทำงานจิตอาสาในทางธรรมมากขึ้น และเพิ่มไปเรื่อย ๆ ตามกำลังของเรา ผมไปปฏิบัติธรรมที่วัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) ด้วย ที่นั่นจะมีสอบอารมณ์ จัดเดือนละครั้งบ้าง สองเดือนครั้งบ้าง  พระอาจารย์จะสอบอารมณ์เราก่อนปฏิบัติ พอไปฝึกแล้วท่านสอบอารมณ์เราก็จะทราบว่าจิตเรานิ่งขึ้นนะ แล้วค่อย ๆ ปรับแก้อะไรกันไป ”

 

 

คนที่ประสบปัญหาชีวิตจะแก้ไขด้วยธรรมะได้อย่างไรบ้าง

“ ตั้งแต่ผมทำอาชีพเป็นผู้ประกาศข่าวมา จะพบว่าข่าวที่เกิดขึ้นล้วนมีปัญหาที่เกิดจากกิเลส 4 ตัวนี้ รัก โลภ โกรธ และหลง เมื่อเราเจอปัญหาขอให้กลับมาพิจารณาว่าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร และปัญหานี้เกิดจากอะไร ถ้าแก้ไม่ออกขอให้ลองเข้ามาดูในเรื่องของหลักธรรม เพราะมีแนวทางให้เราลดละเลิกจากสิ่งเหล่านั้นได้ อาจค่อยเบาลงแล้ว พอเบาลงแล้ว ตัวเราก็จะเบาลง ปัญหาที่มันเกิดขึ้นในตอนนั้นซึ่งเราวนอยู่อย่างนั้นหาทางออกไม่ได้ มันจะมีทางสว่างออกมาเอง สุดท้ายพอเราออกมาแล้ว เราก็จะผ่านจุดนั้นไปได้ ไม่ต้องไปคิดสั้น หรือคิดว่าเราจะไม่อยู่แล้ว เราจะทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่น ลองดูแล้วค่อย ๆ ออกมาจากปัญหา แล้วคุณก็จะเห็นถึงปัญหา ถ้าคุณยังอยู่ในปัญหานั้น คุณก็มองไม่เห็นทางแก้ปัญหา เมื่อถอยออกมาแล้วมาพิจารณา ศึกษาอย่างมีหลัก เมื่อมีหลักนั้นแล้ว เราจะก้าวออกจากปัญหาได้ไม่ยาก ”

 

 

เรื่อง อัครพล ทองธราดล

เรียบเรียง ชนินทร์ ผ่องสวัสดิ์

ภาพ จักรพงษ์   นุตาลัย และ อัครพล ทองธราดล

ติดตามบทความของซีเคร็ตล่าสุดได้ที่ Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ 

เกรซ พัชร์สิตา นางฟ้าจิตอาสา ช่วยปฐมพยาบาลน้องที่ประสบอุบัติเหตุ ระหว่างเดินทางไปจันทบุรี

แชร์ประสบการณ์คนไทยเพียงหนึ่งเดียวเป็นจิตอาสาช่วย ฮากีบิส

วงดนตรีจิตอาสา “ปันฮัก” ใช้ดนตรีเป็นสะพานบุญ ตั้งกล่องรับบริจาคตามตลาดนัด

จิตอาสาของ เมลินดา เกตส์

เจ เจตริน ช่วยเหลือนักร้องชายตาบอด แฟนเพลงเจตัวจริง

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.