อ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือเป็นการเข้าถึงความรู้ที่ง่ายและสะดวกที่สุด และนับเป็นการเสพความรู้ที่ดีต่อสมองมากที่สุด เพราะทำให้ผู้อ่านได้คิดตามอยู่ตลอด อีกทั้งยังช่วยให้สมองจัดการระบบความคิดได้ดี นับเป็นผลดีต่อผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก สำนักงานสถิติแห่งชาติและสำนักอุทยานการเรียนรู้ (TK park) สำรวจการอ่านของประชากรไทยประจำปี 2558 พบว่าหนังสือที่ผู้สูงอายุนิยมอ่าน คือ เอกสารที่เกี่ยวกับศาสนา ร้อยละ 76.2 รองลงมาคือหนังสือพิมพ์ ร้อยละ 59.8
โลกออนไลน์
สื่อออนไลน์ถือได้ว่าเป็นสื่อที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตมากที่สุด เพราะสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ตโฟน ทั้งเว็บไซต์ข่าวสาร วิดีโอความรู้ต่างๆ รวมไปถึงโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ช่วยสร้างสังคมของผู้สูงอายุให้เข้าถึงกันมากขึ้น ขณะเดียวกันถึงแม้ประโยชน์จะมาก แต่โทษก็มากเช่นเดียวกัน หากใช้อย่างไม่มีวิจารณญาณ จึงควรใช้อย่างรู้เท่าทัน และที่สำคัญคือการเสพติดการใช้ที่มากเกินไปก็ส่งผลไม่ดีด้วย ซึ่งจากการวิจัยของสมาคมบ้านปันรัก ระบุว่าผู้สูงวัยที่ใช้งานโซเชียลมีเดียทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ครั้งละ 15 นาที เว้นช่วงห่างทุก 2 ชั่วโมงจะมีความสุขมากที่สุด
ลุยงานอาสา นำพาสิ่งดีสู่ ตนเองและผู้อื่น
การมีส่วนร่วมในสังคมและงานอาสาสมัคร เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนสูงวัยสามารถนำเอาความเชี่ยวชาญ หรือสิ่งที่ตนสนใจ มีความถนัด หรือเท่าที่เรี่ยวแรงยังพอมีอยู่ออกมาใช้เพื่อช่วยสร้างสรรค์ประโยชน์แก่สาธารณะได้ นอกจากจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับในสิ่งที่ต้องการแล้ว ตัวของผู้สูงอายุเองก็ยังได้รับความสุขและความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานเหล่านี้อีกด้วย ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่เปิดรับอาสาสมัครทั้งแบบเต็มเวลาและเลือกเวลาได้ตามความสะดวกลองไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
หารายได้เสริม สร้างกำไรให้ชีวิต
แม้ว่าสังคมจะกำหนดอายุการทำงานของผู้สูงอายุไว้ที่ 60 ปี แต่ผู้สูงอายุที่เกษียณแล้วจำนวนมาก มีร่างกายแข็งแรง มีความรู้และความสามารถยังคงทำงานหารายได้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เนื่องจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจ บางคนสบายใจกับการทำงานหารายได้เล็กๆ น้อยๆ มีเงินใช้จ่ายของตนเองและยังเห็นคุณค่าในตนเอง ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระของครอบครัว
งานที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ควรเป็นงานที่ไม่หนักเกินไป ไม่เครียด และมีความปลอดภัยอาจใช้ความรู้และประสบการณ์จากการงานเดิมที่เคยทำ จากงานอดิเรกที่ชอบทำ มาเพื่อหารายได้ให้กับตนเอง หรือเรียนรู้งานประเภทใหม่ๆ ที่สนใจสถานที่ทำงานควรเลือกที่ไม่ไกลที่พักอาศัยมากนักหรือรับงานมาทำ ที่บ้านก็ได้ ซึ่งเชื่อว่าการทำ งานจะช่วยให้คงความแอ็กทีฟไว้ไม่ให้หมดไฟไปตามอายุ และทุ่มเททักษะความรู้ให้กับงานเต็มที่ โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับงานฝีมือ
ลองเอากิจกรรมทางกายภาพเหล่านี้ไปฝึกหรือให้ผู้สูงอายุที่เรารักได้ลองทำดูนะคะ เชื่อเถอะว่าจะต่อยอดการมีชีวิตอยู่แบบมีความสุขให้กับพวกท่านได้มากกว่าที่เปป็นอยู่แบบเดิมๆ อย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
