ผู้หญิง, ผู้หญิงวัยทำงาน, สุขภาพ, ความเครียดจากการทำงาน

อาหารสุขภาพ สำหรับ ผู้หญิง ทำงาน แก้โรคเต้านม มดลูก รังไข่ ตอนที่ 2

คุณผู้หญิงทำงาน ติดจอ เสี่ยงโรคเซ็กซ์เสื่อม+โรคซีวีเอส

ผู้หญิงที่ทำงานด้านโซเชียลมีเดีย ส่วนใหญ่ต้องนั่งอยู่หน้าจอทั้งวัน เพราะต้องอัพเดตข้อมูลกันนาทีต่อนาที รูปแบบการทำงานเช่นนี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพแน่นอน คุณหมอชัญวลีอธิบายว่า

“ผู้หญิงที่ทำงานเกี่ยวกับโลกออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียมักไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ต้องนั่งติดจอ ไม่ค่อยได้ลุกหรือขยับไปไหน จึงมักกินอาหารง่ายๆ เช่น ฟาสต์ฟู้ด ซึ่งมักพบปัญหาสุขภาพตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลย นอกจากนี้การทำงานด้านนี้ทำให้มีโอกาสเข้าไปดูหนังเรตเอกซ์เรตอาร์ ได้ง่าย ซึ่งหากเสพติดบ่อยๆ จะทำให้เป็นโรคเซ็กซ์เสื่อมตามมา เพราะคิดไปว่าภาพในหนังและการมีเพศสัมพันธ์ในชีวิตจริงต้องเหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่ ทำให้ผิดหวังและทำให้เกิดโรคเซ็กซ์เสื่อมตามมา”

นอกจากนี้ผู้หญิงทำงานคนขยันอาจต้องเผชิญกับโรคซีวีเอส หรือคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) โดยอาการที่พบบ่อยคือ ปวดตา แสบตา ตามัวตาไม่สู้แสง บางรายมีอาการปวดหัวร่วมด้วยอาการเหล่านี้จะแสดงให้เห็นหลังใช้งานคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานเกิน 2 – 3 ชั่วโมง

แม้อาการเหล่านี้อาจหายได้เองหลังพักสายตาจากคอมพิวเตอร์ แต่หากมุ่งทำแต่งานจนลืมดูแลสุขภาพดวงตา จนแสบตา ปวดตาบ่อยครั้งอาจทำให้สุขภาพดวงตาย่ำแย่ในระยะยาว จนอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อม เลนส์ตาเสื่อม และเกิดต้อกระจกได้

 

ผู้หญิง, ทำงานติดจอ, ดวงตา, จอประสาทตาเสี่อม, อาหารบำรุงสายตา
ทำงานติดหน้าจอนานๆ เสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อม

DietTips

สำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่ต้องทำงานติดจอ ควรพักสายตาทุก 2 ชั่วโมง อาจลุกเดินไปดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำ หลับตาสักครู่ หรือมองต้นไม้สีเขียวนอกหน้าต่าง อาจใช้เวลา 10 – 15 นาที จากนั้นจึงค่อยทำงานต่อ ที่สำคัญ ควรดูแลสุขภาพสายตาด้วยอาหารสดใหม่จากธรรมชาติ โดยเลือกอาหารช่วยถนอมสายตา ดังนี้ เลือกผักผลไม้ที่มีวิตามินซี อี และเบต้าแคโรทีนสูง

สมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (American Optometric Association-AOA) แนะนำให้กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นวิตามินซี อี และเบต้าแคโรทีน เพื่อฟื้นฟูสุขภาพดวงตาจากภายใน เพราะสารต้านอนุมูลอิสระทั้งสามชนิดทำงานร่วมกันโดยมีผลชะลอความเสื่อมของเลนส์ตา สาเหตุของการเกิดโรคต้อกระจก นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยชะลอการเกิดโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา (Diabetic Retinopathy) ซึ่งมีผลให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานตาบอดอีกด้วย

ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่พริกหวาน มะระขี้นก ผักหวาน ผักคะน้า ฝรั่ง มะละกอสุก ส้มเช้งวิตามินอีพบมากในน้ำมันพืช เช่นน้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวันน้ำมันมะกอก ถั่วเปลือกแข็งต่าง ๆ ส่วนเบต้าแคโรทีนพบมากในฟักทองแครอต มะเขือเทศ แตงโม มะละกอสุก

โรคจอประสาทตาเสื่อมสามารถป้องกันได้ เพียงกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะลูทีน (Lutein) และซีแซนทิน (Zeaxanthin) โดยสถาบันตาแห่งชาติ (National Eye Institute) ประเทศสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า ช่วยปกป้องจอประสาทตาจากอนุมูลอิสระช่วยรักษาเส้นเลือดบริเวณแมคูลา และ

กรองรังสีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา

ยิ่งแปลงผักโขมและสาหร่ายเป็นซุปหรือแกงจืด ยิ่งช่วยให้กินสะดวกและทำให้ได้รับลูทีนและซีแซนทินเพียงพอต่อความต้องการได้ง่ายขึ้น ข้อมูลจาก USDA-NCC Carotenoid Database กระทรวงเกษตรประเทศสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture) ระบุว่า ผักโขมและสาหร่าย 1 ถ้วย มีลูทีนและซีแซนทินรวมกันมากถึง 10.3 และ 6.7 มิลลิกรัม โดยใช้ปรุงซุปเพียงครั้งละ 1 ถ้วย ก็ช่วยให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระลูทีนและซีแซนทินเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 3 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.