ออกกำลังกายดีกว่า
สุดท้ายผมก็ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย
เผอิญมีศูนย์ฟิตเนสเปิดใหม่ ผมเลยสมัครเป็นสมาชิกรายปี แล้วออกกำลังกายอย่างจริงจัง เริ่มจากวิ่งบนลู่วิ่ง แต่เกิดอาการปวดขามาก เทรนเนอร์จึงแนะนำว่าให้เปลี่ยนมาเล่นเครื่องปั่นจักรยานแทน ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่น้ำหนักตัวเยอะ
ผมจึงมีกำลังใจที่จะออกกำลังกายต่อไป
ออกกำลังกาย + ควบคุมอาหารอาจไม่พอ
ผมเริ่มจริงจังกับการออกกำลังกาย โดยสัปดาห์หนึ่งพยายามออกกำลังกายให้ได้ 4 วัน วันละประมาณ 45 นาทีถ้าวันไหนไม่ได้ไปศูนย์ฟิตเนส ผมก็จะปั่นจักรยานอยู่แถวบ้าน และบางวันก็รำกระบองตามแบบชีวจิต
ผลที่ได้คือน้ำหนักลดลงเหลือ 88 กิโลกรัม แต่ผมยังอยากลดลงให้มากกว่านี้ เพราะค่า BMI (Body Mass Index หรือดัชนีมวลกาย) ยังเกินมาตรฐานอยู่
แต่น้ำหนักก็หยุดนิ่งเท่าเดิมอยู่นาน ทั้งๆ ที่ออกกำลังกายอย่างเข้มงวดไปพร้อมๆ กับควบคุมปริมาณอาหาร หรือว่าระบบเผาผลาญของผมมีปัญหา
ออกกำลังกายและควบคุมอาหารยังไม่เพียงพออีกหรือ เริ่มกินอาหารชีวจิต
น้ำหนักยังไม่ลดลงสักที
เมื่ออ่านหนังสือที่มีความรู้ทางโภชนาการหลายเล่มก็พบว่า การรู้จักเลือกกินอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญเป็นเรื่องจำเป็น
เพื่อนของผมคนหนึ่งเล่าว่า ต้มน้ำอาร์ซีให้แม่ที่ป่วยดื่มเป็นประจำแล้วทำให้อาการดีขึ้น ผมจึงคิดว่าตัวเองน่าจะลองทำบ้าง พอลองดื่มก็ชอบ และถูกใจตรงที่ได้กินธัญพืช (ของโปรด) ถึง 9 ชนิดอีกด้วย
ทุกเช้าผมจึงต้มน้ำอาร์ซีไปดื่มที่ทำงาน จากนั้นก็นำข้าวที่เหลือมาหุงไว้กินมื้อกลางวัน (โชคดีที่ที่ทำงานมีห้องครัว) และต้มผักแบบง่ายๆโดยหั่นเป็นชิ้น เติมน้ำแล้วนำเข้าไมโครเวฟเพียง 5 นาทีก็นำมากินได้กับกับข้าวที่ซื้อมาได้เลย
ด้วยความชื่นชอบน้ำและข้าวอาร์ซี ทำให้อยากกินอาหารชีวจิต ผมคิดว่าตัวเองน่าจะกินได้ เพราะมีประโยชน์และช่วยเรื่องระบบเผาผลาญได้ดี
แต่ผมก็ยังไม่ได้กินอาหารชีวจิตแบบร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ ยังคงกินไข่และเนื้อไก่ที่ไม่ติดไขมันบ้างในบางวัน
คงต้องค่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆ ตามประสาชีวจิตมือใหม่แหละครับ
