ลมพิษ

ลมพิษ โรคยอดฮิตที่ไม่ควรมองข้าม

ลมพิษ หนึ่งในโรคยอดฮิต เป็นกันเยอะ เป็นกันบ่อย จึงไม่ควรมองข้าม

ลมพิษ หนึ่งในโรคที่หลายคนเคยพบเจอ แต่เพราะความที่ มาไว ไปไว จึงไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญ ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่า ถ้ามีอาการรุนแรง ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้

นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ วังรัตนโสภณ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบภูมิคุ้มกัน อธิบายไว้ในบทความของโรงพยาบาลศิครินทร์ ดังนี้

 

โรคลมพิษ (Urticaria) คือ ผื่นคันที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยพบมากที่สุดในช่วงอายุ 20-40 ปี ลักษณะลมพิษจะเป็นผื่นหรือปื้นนูนแดง ไม่มีขุย กระจายตามตัวแขนขา หรือบริเวณใบหน้า ซึ่งผื่นลมพิษสามารถเกิดขึ้นได้บนทุกส่วนในร่างกาย โดยมากมักเป็นไม่เกิน 24 ชั่วโมง ผื่นจะค่อยๆ จางหายไป บางรายอาจมีอาการถึงขั้นปวดท้อง แน่นจมูก หายใจติดขัด หรือบางรายอาจมีอาการรุนแรงมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้

ประเภทของลมพิษ

ลมพิษนั้น แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ประกอบด้วย

1. ลมพิษชนิดเฉียบพลัน  มักมีอาการต่อเนื่องกันไม่เกิน 6 สัปดาห์ สาเหตุที่เกิดได้ คือ จากการแพ้อาหาร, แพ้ยา, แมลงสัตว์กัดต่อย การติดเชื้อบางชนิด บางรายอาจมีอาการแสดงที่อวัยวะอื่น เช่น แน่นหน้าอก, แน่นจมูก, ปวดท้อง, ความดันต่ำ, ปากและตาบวม ผื่นอาจขึ้นต่อเนื่องไปจนเป็นลมพิษเรื้อรัง

2. ผื่นลมพิษชนิดเรื้อรัง มักจะแสดงอาการแบบเป็นๆ หายๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ต่อเนื่องกันนานเกิน 6 สัปดาห์ ซึ่งสาเหตุจะแตกต่างจากลมพิษเฉียบพลัน โดยคนกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งไม่สามารถหาสาเหตุได้ เพราะอาจเกิดจากความแปรปรวนภายในร่างกาย แต่สิ่งที่สามารถกระตุ้นให้ลมพิษเรื้อรังเป็นมากขึ้น ได้แก่ ยาแอสไพริน, ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์, ยาปฏิชีวนะ, ประจำเดือน, พักผ่อนไม่เต็มที่ เป็นต้น

ลมพิษ

สาเหตุของการเกิดลมพิษ

สาเหตุของการเกิดผื่นลมพิษนั้นมีหลายปัจจัย โดยสาเหตุที่เราสามารถพบได้บ่อยๆ มีดังนี้

▪ แพ้อาหาร
▪ แพ้ยา
▪ การติดเชื้อ เช่น เชื้อไวรัส, เชื้อแบคทีเรีย,  เชื้อรา, ท้องเสีย, ทอนซิลอักเสบ, ฟันผุ, หูอักเสบ, เป็นหวัด ฯลฯ
▪ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
▪ แพ้ฝุ่น ละอองเกสร พืชบางชนิด และขนสัตว์
▪ แพ้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
▪ การสัมผัสสารเคมีหรือสารบางอย่าง  เช่น เครื่องสำอาง สเปรย์ ยาฆ่าแมลง  เป็นต้น
▪ ลมพิษเรื้อรัง ยังอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ อีก เช่น การแพ้แสงแดด แพ้ความร้อน ความเย็น เหงื่อ (เช่น เหงื่อหลังจากการออกกำลังกาย) การสัมผัสน้ำ อุณหภูมิในร่างกายสูง หรือการขีดข่วนที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง เป็นต้น
▪ พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอ่อนแอ
▪ ภาวะความเครียด วิตกกังวล เป็นสาเหตุหนึ่งของลมพิษเรื้อรัง

โรคลมพิษอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพ เช่น โรคไทรอยด์ หรือลูปัส (Lupus) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่เรียกกันติดปากว่า “โรคพุ่มพวง”

ทำอย่างไรเมื่อเป็นผื่นลมพิษ

▪ หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นลมพิษ
▪ หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ และเลี่ยงไม่รับประทานหรือสัมผัสสารก่อภูมิแพ้นั้นๆ
▪ ใช้ยาต้านฮีสตามีนหรือยาแก้แพ้ชนิดที่ไม่ง่วง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
▪ ดูแลผิวไม่ให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป หมั่นทาครีมหรือโลชั่นที่ปราศจากน้ำหอม เพื่อลดความไวของผิวหนัง
▪ อาจใช้ คาลาไมน์โลชั่น ทาบริเวณผื่นลมพิษเพื่อช่วยลดอาการคัน
▪ ไม่แกะเกาผิวหนัง, ขีดข่วน เพราะอาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบได้
▪ ผู้ที่เสี่ยงมีอาการแพ้หรือต้องการทราบความเสี่ยงในการแพ้สารใดๆ อาจป้องกันได้โดยเข้ารับการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้

บทความอื่นที่น่าสนใจ

วิธีรับมือกับ โรคลมพิษ สำหรับคนผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย

รับมือ ผื่นคันหน้าร้อน ตัวการกวนใจ กวนผิว ชวนรำคาญ

HOW TO CHECK คุณแพ้ยา “เพนนิซิลลิน” จริงไหม?

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.