วันที่สิบสอง
วันนี้เป็นวันหยุดจึงชวนหลานสาวตัวเล็กมารำกระบองด้วย หลานสนุกสนานมาก เราก็พลอดสนุกไปด้วยได้สอนหลาน
ส่วนกลางวันต้องออกไปซื้อของเพื่อเตรียมงานแต่งงาน ระหว่างมื้อเราก็เลือกกินอาหารได้ไม่ยาก (อยู่ที่ใจ ห้ามวอกแวกกับอาหารเย้ายวนอย่างอื่น) มื้อกลางวันต้มยำกุ้งน้ำใสกินกับข้าวกล้อง แค่นี้ก็อร่อยและได้สุขภาพ
วันนี้ใช้จ่ายไปประมาณสอกงร้อยกว่าบาท (เพราะไปกินข้าวนอกบ้านนั่นเอง)
วันที่สิบสาม
ไม่น่าเชื่อว่าเหลืออีกแค่หนึ่งวัน เราก็จะทำครบ 14 วันแล้ว ฉันยงคงรำกระบองและทำดีท็อกซ์อย่างต่อเนื่อง และเมื่อสังเกตถุงดีท็อกซ์ของตัวเองก็เห็นว่ายังสะอาดเอี่ยมอ่องดีอยู่ เพราะเมื่อใช้เสร็จทุกครั้งจะใช้สบู่อ่อนๆ ล้างทำความสะอาดและผึ่งไว้ในที่ร่ม และคิดว่าคงใช้ต่อได้อีกนับเดือนแน่นอน
วันนี้ลองทำน้ำพริกอ่องโดยใช้กุ้งสับแทนหมู รสชาติก็อร่อยดี กินกับผักกาดขาว กินได้ทั้ง 3 มื้อ ไม่มีเบื่อ
วันนี้จ่ายเงินไปทั้งหมดประมาณร้อยกว่าบาท
วันที่สิบสี่
เป็นเช้าวันสุดท้ายของสูตร 14 วัน หลังจากรำกระบองแล้ว ฉันจึงอยากทำดีท็อกซ์ด้วยน้ำมะนาวเพื่อล้างคราบกาแฟ ซึ่งหลังจากทำเสร็จก็เกิดอาการปวดท้อง ถ่ายบ่อยมาก (แสดงว่าเราไม่ถูกกับน้ำมะนาวสักเท่าไร ดังนั้นโอกาสหน้าควรใช้น้ำเปล่าอุ่นๆ จะดีกว่า)
วันนี้ใช้จ่ายค่าอาหารไปทั้งสิ้นประมาณร้อยกว่าบาท
จบคอร์สสูตร 14 วัน ฉันได้อะไรบ้าง
ฉันพบว่าร่างกายที่เคยผ่านการใช้งานอย่างไม่ทะนุถนอมนั้นดีขึ้นมากหลังจากพาตัวเองมาเข้าสูตร 14 วัน
ผลที่เห็นชัดเจนคือ สดชื่น เบาตัว และกระฉับกระเฉงมากขึ้น ที่สำคัญ ไม่ปวดหัว แม้จะไม่ได้ดื่มกาแฟ เลือดลมเดินคล่องขึ้น และไม่ขี้หนาวเหมือนก่อน
และที่น่าดีใจคือ คอร์สสูตร 14 วันใช้เงินไปทั้งสิ้นประมาณสองพันกว่าบาท นั่นหมายความว่า เป็น 14 วันที่มี่คุณภาพและราคาถูกมากหากเทียบกับคอร์สอื่นๆ ที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่เรื่องของจำนวนเงิน แต่เป็นเรื่องของความภูมิใจในชีวิตที่ได้ต่อสู้กับความท้อแท้ ความอยาก ความเหนื่อย และความเคยชินมาได้
และฉันบอกได้แค่ว่า ใครที่ลองเข้าคอร์สสูตร 14 วันแล้ว จะต้องสนุกและอยากลองอีกเป็นครั้งที่2 3 4 แน่นอน
ข้อมูลจาก คอลัมน์เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 245
บทความน่าสนใจอื่นๆ
อาหารชีวจิต วิถีการกินเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาว
3 เหตุผล ทำไมไม่ให้กิน นมวัว By กูรูต้นตำรับชีวจิต
น้ำอาร์ซี เครื่องดื่มสุขภาพตามแนวทางชีวจิต ที่ทำง่ายมาก