อาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
1. เวียนหัวบ้านหมุนเฉียบพลัน
โคลงเคลงคล้ายอยู่บนเรือ ภาพที่มองเคลื่อนไปมาจนอาจทรงตัวไม่ได้ ต้องนอนพัก แต่อาการเหล่านี้ไม่ถึงกับทำหมดสติหรือเป็นอัมพาต อาการเวียนหัวบ้านหมุนจะเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด อยู่เฉยๆ ก็อาจเป็นขึ้นมา และอาจเป็นนานเกิน 20 นาที แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
2. การได้ยินลดลง
ขณะมีอาการเวียนศีรษะ ผู้ป่วยจะสูญเสียการได้ยินแบบที่เรียกว่าประสาทหูเสื่อมหรือประสาทเสียงเสีย คือหูอื้อ ได้ยินไม่ชัด รู้สึกแน่นในหูเป็นๆ หายๆ ในระยะแรกมักจะสูญเสียการได้ยินเสียงในคลื่อนความถี่ต่ำก่อน การได้ยินมักจะดีขึ้นเมื่ออาการเวียนศีรษะหายไป แต่ถ้าอาการเกิดขึ้นซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง การได้ยินมักจะเสื่อมลงเรื่อยๆ และอาจไม่กลับคืนมาจนเกิดอาการหูตึงในที่สุด
การได้ยินที่ลดลงนี้ในระยะแรกจะเกิดขึ้นกับหูข้างที่มีอาการน้ำในหูไม่เท่ากันก่อน และอาจเกิดขึ้นกับหูทั้งสองข้างได้ในเวลาต่อมา
3. หูอื้อ เสียงดังในหู
จะเกิดขึ้นกับหูข้างที่ผิดปกติ อาจเป็นตลอดเวลา หรือเฉพาะเวลาเวียนศีรษะ ประกอบกับมีอาการหนักๆ หน่วงๆ คล้ายมีแรงดันในหู บางคนอาจเรียกว่าปวดหน่วงๆ ความถี่ในการเกิดอาการของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนเป็นปีละครั้ง บางคนหลายเดือนครั้ง ไม่แน่นอน ซึ่งเสียงดังในหูจะดังมากขึ้นหรือหูอื้อมากขึ้นเมื่อผู้ป่วยเวียนหัว ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอาการหูอื้อนี้อาจอยู่ตลอดไป
นอกจากสามกลุ่มอาการหลักนี้ ผู้ป่วยยังอาจมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
- กระเพาะอาหารปั่นป่วน
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เหงื่อออกมากผิดปกติ
- นอนไม่หลับ
- เดินหรือยืนไม่ได้เพราะจะเกิดอาการเซล้มทุกครั้ง
- สายตาพร่ามัว
- หูแว่วหรือได้ยินเสียวในหู