โรคเบาหวาน, เบาหวาน, ผู้ป่วยเบาหวาน, ป้องกันโรคเบาหวาน, รักษาโรคเบาหวาน

5 โรคเบาหวาน ที่คุณควรรู้ เป็นหรือเปล่า

5 โรคเบาหวาน ที่คุณควรรู้ เป็นหรือเปล่า

โรคเบาหวาน คือภาวะที่ค่าน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติและฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายมีไม่เพียงพอต่อการใช้งาน

คุณหมอ (ดร.ณิชมน สมันตรัฐ) จะอธิบายให้ละเอียดดังนี้คือ เวลาเรากินของหวานเข้าไป น้ำตาลจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด แล้วฮอร์โมนอินซูลินจะหลั่งออกมาเพื่อทำหน้าที่สั่งการให้กลูโคสเข้าไปช่วยเซลล์ต่างๆ ทำงานอย่างเป็นระบบ แต่เมื่อไรที่อินซูลินหลั่งออกมาไม่เพียงพอจะเรียกภาวะนั้นว่า “การขาดอินซูลิน” ซึ่งส่งผลให้มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเพราะควบคุมไม่ได้ หรือในทางการแพทย์เรียกว่า “Insulin Dependent”

การวินิจฉัย โรคเบาหวาน ในอดีตทำโดย การเจาะเลือดดูค่าน้ำตาลและสอบถามประวัติการเจ็บป่วยของบุคคลในครอบครัว เพื่อประกอบการวินิจฉัย ทั้งนี้แบ่งโรคเบาหวานเป็น 2 แบบ คือ

เบาหวานชนิดที่ 1 (Diabetes Immune-Mediated Type 1)

คือภาวะที่เซลล์ตับอ่อนถูกทำลาย การทำงานของเซลล์ตับอ่อนจึงค่อยๆ ลดลง นอกจากนั้นยังพบอาการต่อต้านอินซูลิน และภาวะที่ร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้เลย อันเนื่องมาจากเซลล์ตับอ่อนที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลินถูกทำลายนั่นเอง จากสถิติพบโรคเบาหวานประเภทนี้ในเด็กและผู้ใหญ่ที่อายุน้อย ซึ่งต้องได้รับการรักษาโดยการฉีดฮอร์โมนอินซูลิน

อาการของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 คือการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปทำลายเซลล์ในตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนหยุดการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือด เมื่อร่างกายไม่มีฮอร์โมนอินซูลินแล้วจะไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานได้ ทำให้น้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องได้รับการฉีดอินซูลินทุกวันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้เป็นปกติ

โรคเบาหวาน, เบาหวาน, ผู้ป่วยเบาหวาน, ป้องกันโรคเบาหวาน, รักษาโรคเบาหวาน
การเจาะเลือดดูค่าน้ำตาล เพื่อวินิจฉัยโรคเบาหวาน

เบาหวานชนิดที่ 2 (Diabetes, Non Insulin Dependent Type 2)

เกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอต่อความต้องการ หรือบางคนมีภาวะที่ร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้เลย และร่างกายไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ประโยชน์ได้ทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง

เนื่องจากมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดนี้จึงมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคอ้วนโรคไขมันพอกตับ มักพบในผู้ป่วยอายุ 40 ขึ้นไป และเป็นเบาหวานชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด

วิธีธรรมชาติในการบำบัดรักษาโรคเบาหวานนั้นทำได้มากกว่าการดูค่าน้ำตาลในเลือดหรือแนวโน้มการเป็นเบาหวาน โดยเราสามารถพิจารณาองค์ประกอบโดยรวมของการเป็นเบาหวานร่วมด้วย

 

 

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 2 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.