โรคNCDs โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรควิถีชีวิต โรคพฤติกรรมผิดๆ

24 ชั่วโมง ปรับชีวิตพิชิต โรคNCDs

12 am

กินอาหารกลางวันอย่างมีสติ

คุณหมอทรงยศอธิบายว่า “ช่วงเที่ยงเป็นเวลาที่กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนัก จึงควรเน้นกินอาหารบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ เช่นกล้วย ส้ม มะเขือ เตย รากบัว และอาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่น ถั่วแดง ผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบีชนิดต่างๆ

“อาจเสริมด้วยผลไม้สดหลังมื้ออาหาร เพื่อเพิ่มปริมาณวิตามิน เกลือแร่ และใยอาหารในร่างกาย เพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง และลดคอเลสเตอรอล”

นอกจากนี้ แพทย์หญิงคริสทีน ฮอร์เนอร์ เขียนอธิบายไว้ในหนังสือ Low Carb Energy เรื่อง SUGAR a Seriousaddiction you can break ว่า เราควรกินอาหารกลางวันแต่พอดีไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ที่สำคัญคือ ควรหลีกเลี่ยงน้ำหวานน้ำอัดลม ที่อุดมไปด้วยน้ำตาลจำนวนมหาศาล เพราะนอกจากจะทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน เบาหวานแล้ว บางคนอาจจะไม่ทราบว่าน้ำตาลสามารถกดการทำงานของเม็ดเลือดขาวได้(Sugar suppress lymPHocyte) พูดง่ายๆ ก็คือ กดการทำงานของภูมิต้านทานนั่นเอง เช่นเดียวกับที่ นายแพทย์เจมส์ บราลีอธิบายไว้ในหนังสือ Dr.Braly’s Food Allergy & NutritionRevolution ว่า “ในบางคนน้ำตาลกดการทำงานของเม็ดเลือดโดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นตัวหลักของภูมิต้านทาน (เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่สำคัญคือคอยทำลายเชื้อโรคและปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม) ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าคุณดื่มน้ำอัดลม 1กระป๋อง หรือกาแฟใส่น้ำตาล 1 ถ้วย แล้วตามด้วยขนมหวานอีก1 ชิ้น เม็ดเลือดขาวของคุณจะทำงานลดลง 75 เปอร์เซ็นต์ นาน 6 - 8 ชั่วโมงกว่าจะกลับมาทำงานตามปกติ”

นายแพทย์เจมส์ระบุอีกด้วยว่า เมื่อมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงน้ำตาลจะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระได้ง่ายขึ้นและมากขึ้นภายในหลอดเลือด และอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็จะทำลายผนังหลอดเลือดและทุกเซลล์ในร่างกายที่เลือดวิ่งไปถึง รวมถึงเป็นการส่งเสบียงให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็วขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย ฉะนั้นหากอยากห่างไกลจากโรคNCDs หันมาดื่มน้ำเปล่าเป็นดีที่สุด

การกินอาหารกลางวัน ป้องกันโรค NCDs
อาหารกลางวันควรกินแต่พอดี เน้นผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงน้ำหวาน น้ำอัดลม

2 pm

พักสมอง ยืดเส้นยืดสาย

จากการวิจัยของ วิทยาลัยการแพทย์ฮาร์วาร์ด วิเคราะห์ข้อมูลการเสียชีวิตของคนทั่วโลกจากโรคภัยไข้เจ็บระบุว่า การเสียชีวิตด้วยโรคหลายชนิดในปัจจุบันมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการไม่ออกกำลังกาย การไม่เคลื่อนไหวร่างกาย การนั่งนิ่งๆ เป็นเวลานาน โดยโรคที่คนเสียชีวิตถึงร้อยละ 10 นั้นเกิดจากการไม่ได้ใช้งานของร่างกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที และโรคเหล่านี้มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่เกิดจากการสูบบุหรี่จัดอีกด้วย

การนั่งทำงานนานๆ นั้นเสี่ยงต่อการเป็น โรคNCDs หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือด โรคเบาหวานชนิดที่สอง ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดลง เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจสูง นอกจากนี้การนั่งทำงานนานเกินไปยังเพิ่มปริมาณไขมันของเราด้วย เพราะระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายช้าลง ทำให้น้ำหนักเพิ่ม แถมยังอ้วนลงพุง

ดังนั้นเราจึงควรใช้เวลาช่วงบ่ายแก่ๆ แบบนี้มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตบนเก้าอี้ให้มีสุขภาพดี ด้วยการเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ ทุก 1 ชั่วโมง ลุกขึ้นเดิน ยืดเส้นยืดสาย เคลื่อนไหวร่างกายไปกับกิจกรรมอื่น ๆ บ้างอย่างเช่น เดินขึ้นลงบันได 1 - 2 ชั้นแทนลิฟต์ เดินไปส่งเอกสารให้ผู้ร่วมงานด้วยตัวเอง เป็นต้น

 

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 5 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.