เราควรได้รับปริมาณโซเดียมเท่าไหร่ดี
องค์การอนามัยโลกแนะนำให้คนเราบริโภค “เกลือ” ไม่เกินวันละ 5 กรัม (1 ช้อนชา) หรือ โซเดียมไม่เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม แบ่งเป็นมื้อหลัก 3 มื้อๆ ละ 600 มิลลิกรัม และ มื้อว่าง 200 มิลลิกรัม
จากผลการสำรวจครั้งนี้พบว่า อาหาร street foods ประเภทกับข้าวและอาหารจานเดียวส่วนใหญ่มีโซเดียมเกินกว่า 1,500 มิลลิกรัมต่อถุงหรือกล่องที่จำหน่าย ซึ่งอยู่ในระดับความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพ จึงควรลดความถี่ในการรับประทานอาหาร street foods และหันมาเตรียมอาหารเองบ้างบางมื้อ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการได้รับโซเดียมมากเกินไป
ทั้งนี้จากการทดลองเตรียมน้ำซุปใสที่เติมน้ำปลาที่ให้รสชาติกลมกล่มเค็มพอดีนั้นจะใช้น้ำปลา 6 กรัมต่อน้ำซุป 200 ซีซี จะมีปริมาณโซเดียมเพียง 600 มิลลิกรัม จึงมีความเป็นไปได้ที่ร้านค้าจะมีการใช้ ผงชูรส ผงปรุงแต่งรสชนิดก้อน/ผง ในปริมาณสูงเกินความจำเป็น รวมทั้งการใช้ส่วนผสม เช่น ไตปลา ปลาร้า พริกแกง และกะปิ ที่มีความเค็ม (โซดียม) สูง จึงเป็นผลให้อาหาร street foods ที่สำรวจในการศึกษานี้ส่วนใหญ่มีโซเดียมในระดับความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพ
อ่านเพิ่มเติม :เกลือ โซเดียมภัยเงียบสุดร้าย
อ่านเพิ่มเติม :ประสบการณ์สุขภาพ : เพราะกินเค็ม ความดันโลหิตสูงจึงถามหา
วิธีการลดโซเดียมจากการกินอาหารสตรีทฟู้ด
- ลดความถี่ในการกินอาหารประเภทกับข้าวที่มีการใช้ส่วนผสม ไตปลา ปลาร้า พริกแกง และกะปิ
- ลดการกินน้ำปรุงส้มตำ น้ำยำ/พล่าต่าง ๆ ในอาหารรสแซบ
- ลดการกินน้ำแกงทั้งชนิดที่ใส่กะทิ/ไม่ใส่กะทิ ในอาหารประเภทกับข้าว รวมทั้งน้ำต้มยำ ต้มโคล้งฯ
- ลดการกินน้ำซุป ในอาหารจานเดียวกลุ่มก๋วยเตี๋ยว/บะหมี่ สุกี้ และอื่น ๆ
- ลดการกินน้ำจิ้มของอาหารที่มีน้ำจิ้มทุกประเภท
- ลดการกินอาหารว่างประเภทอาหารแปรรูป ได้แก่ ไส้กรอก หมูยอ ลูกชิ้น อื่น ๆ
- ไม่ควรปรุงเพิ่ม เกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว และซอสต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร
- เลือกซื้ออาหารสตรีทฟู้ดจากร้านค้าที่มั่นใจว่าที่ไม่ใช้ ผงชูรส ผงปรุงแต่งรสชนิดก้อน/ผง
- เลือกซื้ออาหารสตรีทฟู้ด จากร้านค้าที่เน้นขายอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เลือกใช้วัตถุดิบส่วนผสมที่มีคุณภาพ ปรุงอาหารได้รสชาติที่พอดี ไม่หวานมันเค็มจนเกินไป และไม่ใช้ผงชูรส ผงปรุงแต่งรสชาติใดๆ