วิธีเลือกและปรุงเพื่อคงคุณค่า
ประโยชน์อันดับต้นๆ ของโยเกิร์ตคือ มีแล็กโตบาซิลลัส ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดีที่จะช่วยเพิ่มความสมดุลการทำงานในลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้นแถมยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย
เราควรเลือกโยเกิร์ตชนิดที่เชื้อจุลินทรีย์ยังมีชีวิตอยู่ เวลากินไม่ควรนำไปผ่านความร้อน แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถนำกรีกโยเกิร์ตไปใช้แทนส่วนผสมต่างๆ ในเมนูอาหารและขนมเพื่อลดปริมาณไขมันได้ เช่น ใช้กรีกโยเกิร์ต 3-4 ถ้วยแทนน้ำมัน 1 ถ้วยในการทำเบเกอรี่ ใช้กรีกโยเกิร์ตแทนซาวร์ครีมและครีมชีสในอัตราส่วน 1 : 1
ในกรณีที่นำโยเกิร์ตไปผ่านความร้อน ถึงแม้เราจะไม่ได้ประโยชน์จากแบคทีเรียดี แต่เรายังคงได้โปรตีน แคลเซียม และรสชาติที่อร่อยอยู่ค่ะ
เมนูอร่อยทำง่าย
วิธีกินที่ชื่นชอบที่สุดคือ นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ มาบีบมะนาวและเติมน้ำผึ้งเล็กน้อยกินเย็นๆ อร่อยชื่นใจเป็นที่สุด กินเช้าๆ ตอนท้องว่างยังเป็นสูตรดีท็อกซ์ ช่วยล้างพิษอีกด้วยนะคะ
เวลาอยากกินขนม เมย์ยังชอบนำโยเกิร์ตมาทำเป็นพาร์เฟต์ คือ นำโยเกิร์ตมาวางสลับชั้นกับกราโนลา ถั่ว และผลไม้สด จะได้ความหวานจากธรรมชาติ แล้วยังได้รสสัมผัสกรุบกรอบ กินแทนขนมเค้กต่างๆ อร่อยเพลิน แถมได้ประโยชน์เต็มๆ
นอกจากนี้นำโยเกิร์ตมาราดสลัดแทนน้ำสลัดครีม หรือนำมาคลุกทูน่ากระป๋อง มัสตาร์ด น้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทยดำ ทำเป็นทูน่าดิปไว้จิ้มกินกับผักอร่อยไม่เบา
สำหรับข้อควรระวังคือ หากใครแพ้นมวัวอาจต้องระวังการกินโยเกิร์ต หากแพ้ไม่มากอาจลองกินกรีกโยเกิร์ตแทน เพราะมีปริมาณแล็กโตสน้อยกว่านมวัวและโยเกิร์ตแบบธรรมดาค่ะ
จาก คอลัมน์อยู่เป็น ลืมป่วย นิตยสารชีวจิต ฉบับ 442
บทความน่าสนใจอื่นๆ
กรีกโยเกิร์ต ทำไมถึงดีต่อสุขภาพ