โป๊ะแตก

โป๊ะนี้มีแต่หอย โป๊ะแตก หนึ่งในเมนูน้ำ ๆ ที่ต้องสั่งมาซดให้คล่องคอ ปกติจะใช้กุ้ง หอย ปู ปลามาต้มกับเครื่องเคราอย่างต้มยำ แล้วใส่ใบกะเพราเพิ่มความหอมลงไป

แต่สูตรนี้เราปรับมาใช้นานาสารพัดหอย ทั้งหอยแมลงภู่หอยตลับและหอยลายเนื้อเหนียวแน่นหนึบเพิ่มสัมผัสเวลาเคี้ยว ในหอยแต่ละชนิดยังมีประโยชน์มากมาย ทั้งแคลเซียม ไอโอดีนและธาตุเหล็กสูง ส่วนโปรตีนในหอยก็ใกล้เคียงกับเนื้อหมู แต่ไขมันน้อยกว่า และในหอยแมลงภู่ มีงานวิจัยพบว่าช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและลดการอักเสบได้อีกด้วย ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) เตรียม 20 นาที ปรุง 40 นาที

• หอยแมลงภู่ 8 ตัว
• หอยลาย 16 ตัว
• หอยตลับ 8 ตัว
• เห็ดฟางผ่าสี่ 2 ถ้วย
• ใบกะเพรา 1 ถ้วย
• หอมเล็กบุบ 8 หัว
• ข่าหั่นแว่น 12 แว่น
• ตะไคร้หั่นแฉลบ 4 ต้น
• ใบมะกรูดฉีก 6 ใบ
• พริกขี้หนูบุบพอแตก 20 เม็ด
• น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ ½ ช้อนชา
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำซุปสารพัดประโยชน์ 6 ถ้วย
• เกลือสำหรับล้างหอย
• ผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ 1. นำหอยทุกชนิดมาล้างทำความสะอาด แช่น้ำใส่เกลือเล็กน้อย พักไว้ให้หอยคายทรายและดินออกมาประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างน้ำอีกครั้ง พักให้สะเด็ดน้ำ 2. นำน้ำซุปใส่หม้อ ตั้งไฟพอเดือด ใส่หอมข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และเกลือลงไป ต้มให้มีกลิ่นหอม จากนั้นใส่หอยที่ล้างเรียบร้อยลงไป ต้มให้เดือดจนหอยสุกฝาเปิด ปรุงรสด้วยน้ำปลา รอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ เติมน้ำมะนาว พริกขี้หนู และใบกะเพราลงไปคนให้เข้ากัน 3. ตักใส่ชามหรือหม้อไฟ โรยด้วยผักชีก่อนเสิร์ฟ Tip : การเตรียมหอยสองฝาสำหรับปรุงอาหารนอกจากล้างน้ำกับเกลือแล้ว จะมีบางตัวที่ไม่คายเศษดินและทรายออกมา เราควรนำมาลวกในน้ำเดือด พอหอยเปิดฝาออกให้รีบตักขึ้นทันที แล้วนำไปปรุงอาหารต่อไป พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 120.83 กิโลแคลอรี โปรตีน 10.50 กรัม ไขมัน 1.45 กรัม คาร์โบไฮเดรต 16.50 กรัม ไฟเบอร์ 2.25 กรัม เอกสารอ้างอิง : 1. งานวิจัยเรื่อง “หอยแมงลงภู่” ของ ดร.ออร์วิลเอช. มิลเลอร์ ศาสตราจารย์ภาควิชาเภสัชเคมี ของมหาวิทยาลยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย 2. ปัญหาพิเศษเรื่อง “การเลี้ยงหอยตลับในความหนาแน่นที่ต่างกัน” ของฟาริส บุตรรักษ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 3. รายงานเรื่อง “เกล็ดความรู้… อาหารทะเลคุณค่ามากมาย” ใน www.thaipost.net