รากบัว

รากบัว สารพัดประโยชน์ที่เราควรกิน รากบัวในภาษาจีนเรียกว่า “หน่อยเก๋า” หรือ”กวงทั้ง” (จีนกลางเรียก 莲 藕 เหลียนโอ่ว หรือแปลตรงตัวว่า บัว-ราก) คนไทยเรานิยม นำรากบัวมากินเป็นอาหารกันทั้งแบบดิบและสุก รากบัวมีลักษณะอวบๆ สีขาว ส่วนใหญ่ที่มีขายกันจะเป็นรากบัวหลวง “รากบัว” ตามตำราของยาจีนบันทึกไว้ว่า มีฤทธิ์เย็นจัด มีรสหวาน สรรพคุณแก้ กระหายน้ำ แก้อาเจียนเป็นเลือด ช่วยเพิ่มสารน้ำในร่างกาย ช่วยบำรุงเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร บำรุงปอด ช่วยขับเสลดไล่ความชื้นได้ดี ลดอาการบวมแดง การปวดอักเสบ ลดความร้อนในตัว ลดไข้ ช่วยบำรุงพลังงาน คนจีนจะให้เด็กดื่มน้ำรากบัวเพื่อระงับอาการท้องร่วง  ส่วนสำหรับแพทย์แผนปัจจุบันบอกไว้ว่า รากบัว อุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินเอ รวมถึงแร่ธาตุ ต่างๆ เช่น ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และมีกากใยสูง (High Fiber) นอกจากนี้รากบัวยังสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะในรากบัวมีสารที่ชื่อว่า “แทนนิน” เป็นสารที่มีลักษณะเป็นกรด มีรสฝาด ไปจนถึงขม จึงทำให้เบื่ออาหาร […]

รากบัว สมุนไพรจีน ควบคุมความดัน ลดการบวมน้ำ รากบัว เป็นสมุนไพรจีนที่เราคุ้นหน้าคุ้นตา นิยมเอามาต้มกับน้ำดื่มมีรสชาติละมุน มาพร้อมความหอม แต่นอกจากนั้นยังเอามาทำอาหารได้อีกด้วย แต่สิ่งที่มาควบคู่กับรสชาติดีๆ ก็คือสรรพคุณมากมายที่มีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพ และความงาม    ช่วยระบบย่อยอาหาร  ในรากบัวมีกากใยสูง ที่แน่ๆ จึงคือทำให้อิ่มท้องและยังช่วยในการย่อยอาหาร  รวมถึงทำให้ท้องไม่ผูก จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาท้องผูกไม่ขับถ่าย   ควบคุมความดันโลหิต รากบัวมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยร่างกายขับน้ำและโซเดียมออก นอกจากนั้นยังลดการหดเกร็งของเส้นเลือด จึงทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รวมถึงยังอุดมด้วยธาตุเหล็กที่ทำให้เลือดไหลเวียนได้คล่องตัวมากขึ้น  ลดความเครียด รากบัวมีวิตามินบีสูง จึงช่วยให้สมองลดความเครียด ความหงุดหงิด รวมถึงอาการปวดหัวด้วย    ลดการบวมน้ำ  โพแทสเซียมในรากบัวไม่เพียงช่วยในเรื่องควบคุมความดันโลหิต แต่เพราะการขับโซเดียมและน้ำออกจากร่างกายก็ยังช่วยลดอาการบวมน้ำได้ ทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนัก  ปริมาณแนะนำ ทั้งนี้แพทย์หญิงศรันยา สาครินทร์ แพทย์แผนปัจจุบันจากโรงบาลรามาธิบดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโรคภัยจากทั้งศาสตร์ตะวันออกและตะวันตก แนะนำว่าควรกินรากบัววันละ 6 – 12 กรัม หรือ ประมาณ 2 – 3 ชิ้นต่อวันค่ะ สำหรับเมนูแนะนำของรากบัวก็มีมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรากบัวกรอบ ที่เพียงแค่นำไปลวก […]

เกร็ดน่ารู้ รากบัว กินอย่างไรให้เป็นยา สไตล์แพทย์แผนจีน สำหรับในประเทศไทย เราคงคุ้นชินกับการใช้ประโยชน์จากบัวสารพัดรูปแบบอยู่แล้ว วันนี้ชีวจิตจึงจะขอพูดถึงรายละเอียดในทางแพทย์แผนจีนกันบ้างค่ะ โดยขอบคุณข้อมูลจาก แพทย์หญิงศรันยา สาครินทร์ แพทย์แผนปัจจุบันจากโรงบาลรามาธิบดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโรคภัยจากทั้งศาสตร์ตะวันออกและตะวันตก “บัว” เป็นพืชน้ำล้มลุก มีลำต้นทั้งที่เป็นเหง้า ไหลส่วนใบเป็นใบเดี่ยว โดยมีก้านใบชูขึ้นมาจากใต้น้ำ ผิวน้ำ หรือบริเวณเหนือน้ำ รูปร่างของใบบัวส่วนใหญ่จะกลมและมีหลายแบบ โดยลักษณะทั่วไปของรากบัวคือ รากหรือเหง้ามีสีขาวอมเหลืองหรือสีงาช้างอยู่ใต้ดินเป็นปล้อง ๆ ยาวและใหญ่ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และแข็งเล็กน้อย หากนำรากบัวมาตัดตามแนวขวางจะมีลักษณะเป็นรูกลมกลวงหลาย ๆ รู เมื่อแก่แล้วจะกลายเป็นฝักบัวที่มีเมล็ดบัวอยู่ภายใน ในตำรายาจีนนั้น นิยมนำทุกส่วนของบัวมาใช้เพื่อการรักษา ดังนี้ค่ะ ใบบัว ให้รสฝาดเปรี้ยวเล็กน้อย มีสรรพคุณช่วยบำรุงโลหิต แก้ไข้ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ส่วนเป็นกำแล้วนำไปตากแห้งเพื่อชงเป็นชาดื่ม จะช่วยขับปัสสาวะและไล่ความชื้นออกได้ ดอกบัว มีรสฝาดแต่มีกลิ่นหอม ช่วยบำรุงหัวใจลดเสมหะ และช่วยการไหลเวียนเลือด กลีบดอกบัวช่วยให้สงบ ผ่อนคลายและใจเย็น เกสรบัว มีรสฝาดออกขมเล็กน้อย ส่วนเกสรสีเหลืองสามารถใช้เข้าเครื่องยาทั้งไทยและจีน โดยเฉพาะยาลม ยาหอม ยาบำรุงหัวใจ เกสรดอกบัวช่วยบำรุง ลดอาการบวมน้ำ รักษาอาการไข้รากสาดได้ […]

ถ้าพูดถึง รากบัว หลายคนคงนึกถึง เวลาเอาไปใส่ในขนมหวาน หรือเชื่อมเป็นของหวาน หรือทำเครื่องดื่มสุขภาพ แต่วันนี้ แอดมีเมนูกินเล่นเพลินๆ ที่ทำจากรากบัว ชื่อเมนู “รากบัวคลุกฝุ่น”  ชื่อเมนูแปลก แต่รับรองว่า กรอบอร่อย ติดใจแน่นอน เราไปดูสิ่งที่ต้องเตรียม และขั้นตอนการทำกันเลยค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม รากบัวจีนสด ปอกเปลือกหั่นแว่น หนา 3 มิลลิเมตร น้ำเกลือ (สำหรับแช่รากบัวที่หั่นแล้ว) น้ำมันสำหรับทอด ผงกระเทียม ผงปาปริก้า หอมเจียว ขั้นตอนในการทำ นำรากบัวที่ปอกเปลือกแล้วแช่ในเกลือ เพื่อล้างยาง และเพื่อไม่ให้รากบัวสีคล้ำ เมื่อล้างเสร็จ นำรากบัวไปผึ่งบนตะแกรง รอจนแห้ง ลงทอดในกระทะ ที่น้ำมันเดือด ใช้ไฟปานกลาง ทอดจนมีสีเกือบเหลือทอง แล้วจึงตักออก พักบนตะแกรง รอให้เย็น คลุกกับ ผงกระเทียม ผงปาปริก้า โรยด้วยหอมเจียว เป็นอันเสร็จพร้อมกินจ้า รากบัว หรือเหง้าบัว มีสรรพคุณ อะไร น่าสนใจบ้างนะ!!