นางเอก
ศิษย์เก่าดัดดรุณี อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ มอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียน 200,000 บาท
นางเอกสาวอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ นอกจากจะเป็นนางเอกสายบุญที่หมั่นเข้าวัดทำบุญ และชอบช่วยเหลือทั้งคนและสัตว์อยู่แล้ว ล่าสุดนางเอกสาวยังใจบุญ มอบทุนการศึกษา ให้กับโรงเรียนที่เคยเรียนมาสมัยมัธยมฯอีกด้วย
ญาญ่า อุรัสยา แพลนโปรเจกต์ สร้างโรงเรียนให้เด็ก ๆ บนดอยที่แม่ฮ่องสอน
ญาญ่า อุรัสยา แพลนโปรเจกต์ สร้างโรงเรียนให้เด็ก ๆ บนดอยที่แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 เวลา 16.14 น. เพจเฟซบุ๊ก AMARIN News ได้นำเสนอข่าวว่า นางเอกสาวแห่งวิกพระรามสี่ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ มีโปรเจกต์จะสร้างโรงเรียนให้กับเด็ก ๆ บนดอย ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวีได้สัมภาษณ์นางเอกสาว ญาญ่า อุรัสยา ถึงโปรเจกต์ที่เธอกำลังสนใจ ซึ่งนางเอกสาวได้ตอบกลับมาว่า ” มีโปรเจกต์ที่หนูทำมาสักพักหนึ่งแล้ว เกี่ยวกับโรงเรียนที่อยู่บนดอย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีอีกโรงเรียนหนึ่งที่อยากไปดูด้วยตาตัวเองว่าเขาต้องการอะไร คุยกับผอ. และนักเรียน ว่าเขาขาดอะไรบ้าง ตอนนี้ทุกอย่างใกล้จะได้งบประมาณแล้ว เดี๋ยวเร็ว ๆ นี้จะเปิดบัญชีค่ะ สำหรับน้อง ๆ ที่อยู่บ้านแม่กองคา “ ” สำหรับโรงเรียนนี้ เขามีตึกอันหนึ่งที่เป็นไม้ สร้างมา 40 กว่าปีแล้ว และเป็นทางผ่านน้ำจากภูเขาที่ไหลลงมาทุกปี […]
แก้ว กวินนา สุวรรณประทีป เปรยอยากบวชตลอดชีวิต
แก้ว กวินนา สุวรรณประทีป เปรยอยากบวชตลอดชีวิต แก้ว กวินนา สุวรรณประทีป อดีตนางเอกดัง แชร์ประสบการณ์อยากบวชแบบนี้ไปตลอดชีวิต หลังปลงผมบวชชี ณ วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน แก้ว กวินนา สุวรรณประทีปเป็นนางเอกที่โด่งดังในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ วัดได้จากละครหลายเรื่องที่เธอแสดงยังคงเป็นที่รู้จักมาจนถึงตอนนี้ เช่น อรุณสวัสดิ์ เจ้านาง ซอสามสาย สุดแต่ใจจะไขว่คว้า สามหนุ่มเนื้อทอง สะใภ้ปฏิวัติ เป็นต้น เธอเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนักเรียนการแสดงของช่อง 3 และมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตคือ “ฝากฝันไว้เดี๋ยวจะเลี้ยวมาเอา” เมื่อ พ.ศ. 2535 ในปีเดียวกัน ได้เล่นละครเรื่องแรกคือ “อรุณสวัสดิ์” ออกอากาศทางช่อง 7 ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณแก้วได้ตัดสินใจบวชชีที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก โดยก่อนหน้านี้เธอได้ศึกษาธรรมะมาระยะหนึ่งแล้ว เธอเผยความรู้สึกตอนที่บวชว่า รู้สึกว่าจิตใจสงบมาก และหลังจากสึกออกมาได้เห็นข่าวการบวชของเธอในโลกออนไลน์ เธอจึงโพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ตื่นเช้ามาเจอข่าวนี้ ก็อยากที่จะละทางโลก ไปบวชชีตลอดชีวิตเหมือนกันนะ หากไม่ติดว่าเป็นห่วงพ่อกับแม่ […]
ดำเนินชีวิตด้วยหลักคิดของธรรมะ หลิน - มชณต สุวรรณมาศ
จากที่เคยเป็นคนใจร้อน มาวันนี้ หลิน - มชณต สุวรรณมาศ สามารถนำธรรมะมาเปลี่ยนร้อนเป็นเย็นได้มากขึ้น
แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ไม่ว่าอะไรจะเกิด ชีวิตต้อง “Keep walking” เสมอ
แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ไม่ว่าอะไรจะเกิด ชีวิตต้อง “Keep walking” เสมอ ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่เคยเจอะเจอกับ “ปัญหา” ยิ่งเติบโตขึ้น มีบทบาทหน้าที่เพิ่มมากขึ้น…โอกาสที่จะพบเจอปัญหาก็ย่อมมีมากขึ้นไปด้วย แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ นักแสดงสาววิกสามพระรามสี่ที่แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการด้วยบท “ขม” หรือ “เด็กขม” ในละครดราม่าเรื่องเยี่ยม ดงผู้ดี เมื่อหลายปีก่อน ให้นิยามคำว่า “ปัญหา” ตามสไตล์เด็กสถาปัตย์ว่า “ปัญหาคือกำแพงที่เข้ามาบดบังไม่ให้เรามองเห็นทางข้างหน้า” แต้วอธิบายว่า กำแพงในที่นี้อาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจของเราเองหรือปัจจัยอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ แต่เมื่อไรที่พบเจอกำแพงกั้นขวางระหว่างทาง ขอให้ตั้งสติให้ดีอย่าตกใจ แล้วค่อยๆ คิดหาหนทางแก้ไข บางทีอาจจะต้องหาทางปีนข้ามไป บางทีต้องเดินอ้อมไปบ้าง หรือบางครั้งอาจต้องทลายกำแพงลง ฯลฯ แต้วมั่นใจว่า ไม่ว่าวิธีใดก็ตามแต่ ถ้าใจไม่ท้อและไม่หมดหวังเสียอย่าง เราต้องผ่านกำแพงนี้ไปได้แน่ๆ เพราะชีวิตต้องเดินต่อไปข้างหน้าเสมอ อย่างที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า “Keep walking” สิ่งมีค่าที่สุดของทุกชีวิต ปกติแต้วจะไปไหนมาไหนกับคุณพ่อบ่อย ยิ่งพอท่านเกษียณราชการด้วยแล้ว คุณพ่อจะทำหน้าที่ขับรถรับ-ส่งแต้วตลอด ระหว่างทางเราสองพ่อลูกก็มักจะมีเรื่องพูดคุยกันเสมอ มีทั้งที่คุณพ่อสอนเองบ้าง แต้วมีเรื่องมาปรึกษาขอความคิดเห็นจากท่านบ้าง ถึงแม้บางครั้งคุณพ่อจะอธิบายยาวไปหน่อย แต่แต้วก็ชอบการอธิบายของท่านมาก เพราะท่านมักจะสอดแทรกปรัชญาชีวิตและธรรมะไว้ในนั้นด้วยเสมอๆ อย่างเรื่องปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คุณพ่อก็จะสอนให้แต้วเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดของทุกชีวิตก็คือ “ลมหายใจ” พอเราเติบโตขึ้น เราก็ต้องมีบทบาทในสังคม มีความเกี่ยวพันกับผู้คนมากขึ้น ปัญหาก็ย่อมต้องมีมากไปด้วย ปัญหาบางอย่างเราอาจจะคิดว่า “มันหนักหนา ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว” แต่ขอให้ลองคิดดูว่าปัญหานั้นมากระทบลมหายใจหรือเปล่า เรายังหายใจได้ไหม ถ้าคำตอบคือ “ไม่ เรายังหายใจได้” ก็อย่าเอาปัญหานั้นมาแบกไว้จนไม่เป็นอันทำอะไร เพราะทุกปัญหามีทางออก ยิ่งถ้ามองให้ลึกไปกว่านั้น เราต้องเข้าใจว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตอาจไม่ใช่แค่การประสบความสำเร็จ แต่คือ “การใช้ชีวิตให้มีความสุขมากกว่า” ดังนั้นถ้าเราพยายามสุดๆ แล้ว ยังแก้ปัญหานั้นไม่ได้ ก็ยอมรับแล้วปล่อยวางเสีย อยู่กับทุกลมหายใจอย่างมีความสุข ใช้ทุกลมหายใจอย่างมีค่า เมื่อ “ความไม่เข้าใจ” เปลี่ยนเป็น “ความท้าทาย” ตอนแรกที่ได้เข้ามาทำงานกับช่อง 3 แต้วไม่รู้และไม่เข้าใจเลยว่าการแสดงคืออะไร เกือบทุกครั้งที่ไปเข้าฉาก แต้วจะเกิดคำถามขึ้นในใจตลอด เพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ต้องแสดงออกไป ไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายของการแสดง จนกระทั่งได้มาร่วมงานกับ พี่อ๊อฟ–พงษ์พัฒน์ ในละครเรื่อง ดงผู้ดี แต้วถือว่าตัวเองโชคดีมากๆ เพราะพี่อ๊อฟส่งแต้วไปเรียนการแสดงกับหม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) ก่อนเปิดกล้องถึงสามเดือน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทัศนคติของแต้วที่มีต่อการแสดงเปลี่ยนไป… หม่อมน้อยสอนให้แต้วเข้าใจถึงหัวใจของการแสดง วิธีการแสดงที่ถูกต้องที่ไม่ใช่การสมมุติว่าเราต้องแสดงอารมณ์อย่างนี้อย่างนั้น แต่คือการสวมวิญญาณตัวละครลงไปจริงๆ ต้องคิดและทำอย่างตัวละครให้ได้ เมื่อได้ครูดีและมีวิชาติดตัวแล้ว คำถามที่เคยค้างคาใจต่างๆ ก็เริ่มหมดไป กลายเป็น “ความท้าทาย” เข้ามาแทนที่ นั่นจึงทำให้แต้วสนุกกับทุกๆ วันที่ไปทำงาน ยิ่งทำก็ยิ่งสนุก และยิ่งนานวันก็ยิ่งรักการแสดงมากขึ้นๆ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเรื่องใดๆ ก็ตามแต่ ถ้าเราทำด้วย “ความเข้าใจ” แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นย่อมจะ “ดีกว่า” การทำด้วยความไม่เข้าใจแน่ๆ ได้มากกว่าที่คิด ธรรมชาติของเด็กสถาปัตย์ส่วนใหญ่ (คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) มักจะไม่ค่อยชอบไปสุงสิงกับใครมากมายนัก แต้วเองก็เหมือนกัน…มักจะใช้ชีวิตอยู่กับกลุ่มเพื่อนในคณะตลอด พอขึ้นปี 3 ก็เริ่มมีหลายคนมาแนะนำให้แต้วไปสมัครเข้าร่วมกลุ่มตัวแทนนิสิตจุฬาฯ เผื่อจะได้ทำกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยดูบ้าง ตอนแรกแต้วก็ลังเล จะเอาอย่างไรดี เพราะงานนี้มีแต่คนสมัครเยอะมาก แถมยังเก่งๆ ทั้งนั้น แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่า “ลองดู ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นประสบการณ์ว่าอย่างน้อยเราก็ได้ลองทำแล้ว” การคัดเลือกเป็นไปอย่างยาวนาน ในที่สุดแต้วก็ได้รับเลือกให้เข้ากลุ่มตัวแทนร่วมกับเพื่อนๆ อีก 11 คน เท่านั้นยังไม่พอ แต้วยังได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อนคือ ได้รับเลือกให้เป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีด้วย แม้ใจหนึ่งจะภูมิใจมากๆ แต่อีกใจก็คิดว่า “โห! หน้าที่นี้มันสูงส่งเกินไปสำหรับเราหรือเปล่า” แต่ในเมื่อได้รับเลือกให้ทำแล้ว แต้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต้วก็ได้รู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่แต้วได้รับไม่ใช่แค่การได้นั่งเสลี่ยง ทำหน้าที่อัญเชิญพระเกี้ยว แต่คือการได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ต่างคณะ ได้ทำงานร่วมกันอย่างจริงๆ จังๆ และได้รู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายให้เราเรียนรู้ ไม่จำกัดอยู่แค่คณะที่เราเรียนเท่านั้น แต้วคิดว่า เกียรติยศเป็นความภาคภูมิใจที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ ประสบการณ์และมิตรภาพก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่คุณต้อง “กล้า” พาตัวเองออกไปสัมผัสและแสวงหามันก่อน…ก็เท่านั้นเอง Secret Box อย่าดูถูกตนเองด้วยคำว่า “ทำไม่ได้” หากว่าคุณยังไม่ได้ “ลอง” ลงมือทำก่อน บทความน่าสนใจ วิธีรับมือกับปัญหาในแบบของ ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา แพนเค้ก-เขมนิจ กับ การเรียนรู้บนโลกที่ไม่หยุดนิ่ง “สุขกับปัจจุบัน” […]