แนะนำ 6 จุด นวดลดความดัน สไตล์แพทย์แผนจีน

แนะนำ 6 จุด นวดลดความดัน ตามแบบฉบับแพทย์แผนจีน วันนี้เรามาแนะนำ 6 จุด นวดลดความดัน ที่อ้างอิงมาจากตำราแพทย์แผนจีน ใช้สำหรับกดนวด รวมไปถึงการฝังเข็ม พร้อมวิธีนวดและคำแนะนำง่ายๆ ที่สามารถไปทำตามกันได้ มาดูกันเลยค่ะ ความดันโลหิต กับแพทย์แผนจีน ความดันโลหิตสูงในทางการแพทย์แผนจีน คือ การที่ความดันในหลอดเลือดแดง มีความดันตัวบนมากกว่าหรือเท่ากับ 140 mmHg และ /หรือ ความดันตัวล่าง มากกว่าหรือเท่ากับ 90 mmHg โดยการวัดซ้ำ 2 ครั้ง หรือมากกว่า มีอาการแสดงดังนี้ ปวดศรีษะ เวียนศรีษะ นอนไม่หลับ ชีพจรตึง มักเกิดจากลม ไฟ เสมหะ ความพร่อง และติดขัด หากต้นทุนก่อกำเนิดไม่เพียงพอ เลือดน้อย ประกอบกับการใช้ชีวิตที่มักมีอารมณ์ไม่ดี อาหาร และที่พักไม่เหมาะสม จะก่อให้เกิดการติดขัดของเสมหะในเส้นเลือด ทำให้เกิดความดันสูง จุดนวด/ฝังเข็มลดความดันโลหิต ไป่ฮุ่ย : จุดกลางศีรษะด้านบน อิ้นถัง […]

5 ตำแหน่ง นวดกดจุดป้องกันตาเสื่อม ช่วยการมองเห็น

5 ตำแหน่ง นวดกดจุดป้องกันตาเสื่อม ช่วยการมองเห็น นวดกดจุดป้องกันตาเสื่อม ปัจจุบันมีการนำศาสตร์ด้านการนวดมาใช้ เพื่อป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนวดเพื่อรักษาอาการปวดหลังส่วนล่าง ซึ่งมีผลงานวิจัยมากมายที่ระบุว่ามีประสิทธิภาพและทำให้อาการปวดหลังดีขึ้นอย่างชัดเจน และเรายังใช้การนวดเพื่อรักษาอาการผิดปกติในตำแหน่งต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น แก้โรคหัวไหล่ติด แก้โรคไมเกรน นวดนักกีฬา แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานการวิจัยที่ระบุถึงประโยชน์ของการนวดต่อโรคต่าง ๆ อย่างชัดเจนแต่แพทย์แผนไทยเชื่อว่า การนวดนั้นสามารถบำบัดและป้องกันโรคได้จริง ๆ เพราะมีความเชื่อมโยงกันกับการทำงานของร่างกาย ทั้งระบบเลือด ระบบประสาท และการเคลื่อนไหว ซึ่งสามารถอธิบายได้ตามหลักการรักษาแผนตะวันออก วันนี้ผมขอแนะนำ การนวดกดจุดกระตุ้นการมองเห็น เพื่อป้องกันปัญหาสายตาเสื่อมก่อนวัยอันควร เช่น สายตายาว ซึ่งอาศัยหลักการกดนวดกล้ามเนื้อระดับลึก เพื่อกระตุ้นตัวรับหรือรีเซ็ปเตอร์ในกล้ามเนื้อ ให้ส่งกระแสประสาทไปยังบริเวณต่าง ๆ ตามจุดที่เราต้องการ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาที่หดเกร็ง และตึงตัวคลายตัวได้ จึงส่งผลให้เลือดนำพาสารอาหารไปหล่อเลี้ยงดวงตาได้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับทฤษฎีแพทย์แผนไทยที่เชื่อว่า การนวดหรือกดจุดนั้น เป็นการขับเคลื่อนธาตุน้ำ (เลือด) ซึ่งประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมายให้ไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ และพื้นที่ต่าง ๆ ของสมอง และกล้ามเนื้อดวงตา (ธาตุดิน) โดยอาศัยการทำงานของธาตุลม และธาตุไฟเป็นตัวขับเคลื่อน […]

นวดกดจุด แบบชีวจิต

นวดกดจุด แบบชีวจิต ช่วยยืด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ทำให้กระดูกและข้อต่อต่างๆ เคลื่อนไหวคล่องตัว ช่วยการหมุนเวียนของระบบเลือด ระบบประสาท หายใจดีขึ้น

นวดกดจุดแก้โรค ปวดศีรษะ กระตุ้นระบบย่อย บรรเทาอาการไอ

นวดกดจุดแก้โรค นวดกดจุดแก้โรค เป็นอีกศาสตร์การรักษาโรคและอาการ ทางการแพทย์ตะวันออก โดยเชื่อว่าจุดสัญญาณ และการเคลือนไหวของลมปราณ มีความเชื่อมโยงกันทั้งร่างกาย หรือรีเฟล็กซ์ ดังนั้นเมื่อร่างกายเกิดการเจ็บป่วย การนวด หรือกดระตุ้นสามารถช่วยบรรเทาอาการ รักษาโรคได้ ซึ่งมีดังต่อไปนี้ ท่าที่1 กดจุด กระตุ้นระบบย่อยอาหาร   ท่าที่2 กดจุดแก้โรค บรรเทาอาการไอ หวัด คัดจมูก     ท่าที่3 กดจุดแก้อาการปวดศีรษะ     3 ท่ากดจุดแก้โรคง่ายๆแบบนี้ อย่าลืมลองนำไปฝึกและกดดูนะครับ อ่านเพิ่มเติม กดจุดแบบต่างๆ กดจุดแก้ตะคริว กดจุด บรรเทาอาการท้องผูก นวดกดจุด 9 จุด ลดอาการแทรกซ้อน ชาเท้าจากโรคเบาหวาน 3 ท่ากดจุด หยุด ไมเกรน ชะงัด 6 เทคนิคกดจุดด้วยตัวเอง พิชิตภูมิแพ้  

คอตกหมอน ทำอย่างไรดี?

คอตกหมอน ทำอย่างไรดี คอตกหมอน เป็นอาการที่เกิดจากการนอนผิดท่า ทำให้ตกหมอน ส่งผลให้มีอาการคอเคล็ด ปวดคอ บริเวณบ่า เเละบริเวณต้นคอ หันซ้ายหันขวาก็ลำบาก บางครั้งต้องเดินเป็นหุ่นยนต์ เพราะกล้ามเนื้อมีการหดเกร็ง เเล้วไม่กลายออก หรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ดังนั้นเราลองมาดูวิธีการป้องกัน และบรรเทาอาการ คอตกหมอนกันดีกว่า วิธีการรักษา คอตกหมอน ง่ายๆ คือการพยายามยืดกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง ให้ขยายออกเเละอ่อนตัวลง ให้กล้ามเนื้อกลับมาเป็นปกติ มีวิธีการตั้งเเต่ การนวดกดจุด การยืดกล้ามเนื้อ การทำกายภาพบำบัด รวมไปถึงการประคบก็สามารถช่วยได้เช่นกัน สามารถดูคลิปการกดจุด คอตกหมอน   สำหรับวิธีป้องกัน คอตกหมอน ให้เลือกหมอนที่เหมาะกับการนอน โดยการเลือกหมอนหนุนบริเวณบ่า และคอด้วย ก็จะสามารถช่วยป้องกันอาการ เคล็ดจากคอตกหมอนได้ อ่านเพิ่มเติม กดจุดแก้ตะคริว กดจุด บรรเทาอาการท้องผูก น้ำแข็งวางที่ท้ายทอย รักษาโรคได้จริงหรือ ลูกประคบ ลดปวด ช่วยผ่อนคลาย ลดตึงคัดเต้านม

วางยาแก้ปวด แล้วมานวดกดจุดคลายเครียดด้วยตนเองอย่างง่ายๆ กันดีกว่า!

การนวด คือธรรมชาติบำบัดที่มีส่วนช่วยให้มีสุขภาพสมบูรณ์ได้ครบถ้วนมากกว่ายาหรือการผ่าตัด1 และเป็นการรักษาในเบื้องต้นที่ประหยัดและเริ่มได้อย่างรวดเร็วที่สุด ปัญหาสุขภาพยอดฮิตของคนในปัจจุบันคืออาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะคอ บ่า และสะบัก อันมีสาเหตุมาจากความเครียดในชีวิตประจำวัน บางคนพักผ่อนหรือหางานอดิเรกทำจะช่วยบรรเทาได้ แต่หลายคนมีอาการเรื้อรังจนลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่โต เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกระดูกทับเส้นประสาท ก่อนที่คุณจะหยิบยาแก้ปวดมาทาน เราขอแนะนำให้คุณได้ลองใช้วิธีธรรมชาติบำบัดด้วยการนวดกดจุดด้วยตนเองง่ายๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถลดความเครียดและอาการปวดเมื่อยได้อย่างน่าพอใจเลยทีเดียว   7 จุดนวดสำคัญเพื่อคลายเครียดและเกร็งของกล้ามเนื้อ2 จุดกลางระหว่างคิ้วใช้ปลายนิ้วชี้หรือนิ้วกลางกด 3-5 ครั้ง จุดใต้หัวคิ้วใช้ปลายนิ้วชี้ หรือนิ้วกลางกด 3-5 ครั้ง จุดขอบกระดูกท้ายทอย จุดกลาง ใช้นิ้วหัวแม่มือกด 3-5 ครั้ง จุด 2 จุดด้านข้าง ใช้วิธีประสานมือบริเวณท้ายทอย แล้วใช้หัวแม่มือทั้งสองกดจุด 2 จุดพร้อมๆ กัน 3-5 ครั้ง บริเวณต้นคอ ประสานมือบริเวณท้ายทอย ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างกดตามแนว 2 ข้างของกระดูกต้นคอ โดยกดไล่จากตีนผมลงมาถึงบริเวณบ่า 3-5 ครั้ง บริเวณบ่า ใช้ปลายนิ้วมือขวาบีบไหล่ซ้ายไล่จากบ่าเข้าหาท้ายทอย บริเวณบ่าด้านหน้า ใช้นิ้วหัวแม่มือขวากดจุดใต้กระดูกไหปลาร้า จุดต้นแขน และจุดเหนือรักแร้ของบ่าซ้าย ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดจุดเดียวกันที่บ่าขวา ทำซ้ำ […]

นวดกดจุด 9 จุด ลดอาการแทรกซ้อน ชาเท้าจากโรคเบาหวาน

นวดกดจุด 9 จุด ลดอาการแทรกซ้อนโรคเบาหวาน นวดกดจุด เป็นการกระตุ้นการทำงานของเท้าได้เป็นอย่างดี  สามารถลดอาการปวด และป้องกันอาการเท้าชาจากโรคเบาหวานได้ คุณหฤทัย งามแสง อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้านดอนทราย อําเภอหว้านใหญ่ เป็นผู้เชี่ยวชาญการนวดกดจุดบริเวณฝ่าเท้า เพื่อป้องกันอาการเท้ามึนชา ที่จะนําไปสู่การเป็นแผลเรื้อรัง เสี่ยงต่อการตัดนิ้วเท้า ฝ่าเท้า หรือขา ในผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากเยี่ยมบ้านผู้ป่วย ให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องพฤติกรรมการกินและการดูแลตัวเองแล้ว ทุกเดือนเมื่อมีการบริการตรวจสุขภาพผู้ป่วยเบาหวาน ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลหว้านใหญ่ เธอก็มีหน้าที่ให้ความรู้เรื่องการนวดฝ่าเท้า “โดยปกติจะตรวจบริเวณฝ ่าเท้าของผู้ป่วย 9 จุดก่อน ว่ามีภาวะมึนชาไหมเพราะ 9 จุดนี้จะเป็นจุดที่ลงน้ําหนักเวลาเดินเยอะ ฉะนั้น ถ้าน้ําหนักตัวเยอะ เท้ารับน้ําหนักเยอะ แล้วไปกดระบบประสาท อาจทําให้เกิดอาการเท้ามึนชาหรือเป็นตาปลาได้ “จุดทั้งเก้าได้แก่ 1. หัวแม่เท้า 2. นิ้วกลาง 3. นิ้วก้อย 4. ส้นเท้า 5. สันเท้าซ้าย 6. สันเท้าขวา 7. โหนกใต้ฝ่าเท้าบริเวณนิ้วโป้ง 8. โหนกใต้ฝ่าเท้าระหว่างนิ้วชี้นิ้วกลาง และนิ้วนาง […]

keyboard_arrow_up