ทำทาน
เจ้าของร้านรับจำนำใจบุญ แจกจ่ายรถเข็นไฟฟ้า 580 คันให้ผู้พิการฟรี
อดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนาม ฟิลิป พาโวเน่ (Philip Pavone) เป็น เจ้าของร้านรับจำนำใจบุญ A-Z Pawn Shop ในเมืองนอร์วิช รัฐคอนเนตทิคัต ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับการค้นพบของดี ๆ ที่ซุกอยู่ในกองข้าวของรก ๆ ในร้าน ในปี 2009 เขาได้ค้นพบสิ่งที่ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาเอง แต่รวมไปถึงคนอีกกว่า 580 ชีวิต เรื่องมีอยู่ว่า วันนั้นฟิลกำลังเคลียร์ข้าวของในห้องเก็บของด้านหลังร้าน ขณะที่กำลังรื้อของอยู่นั้นเขาก็พบรถเข็นไฟฟ้า 2-3 คัน เขาคิดขึ้นมาว่า น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ ดังนั้นเขาจึงลงประกาศแจกฟรีในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ภายในเวลา 2 สัปดาห์เขาก็ได้รับจดหมายจากผู้พิการถึง 60 ฉบับ แจ้งความจำนงขอรับรถเข็นไฟฟ้า ฟิลบอกว่า ในตอนนั้นเขาได้ตระหนักว่ายังมีคนอื่นอีกมากมายที่กำลังทนทุกข์ บางคนเขียนบอกมาในจดหมายว่าไม่ได้ออกจากบ้านมาหลายเดือนแล้ว บางคนก็นานหลายปี และยังมีผู้สูงอายุอีกมากที่ไม่มีคนคอยช่วยเหลือดูแล หลังจากค้นหาข้อมูลเล็กน้อย ฟิลก็ได้รู้ว่ารถเข็นไฟฟ้ามีราคาตั้งแต่ 4,000 – 40,000 ดอลลาร์ และไม่ครอบคลุมประกัน เขารู้สึกว่าตัวเองได้หยิบยื่นโอกาสและสร้างพันธสัญญาในการช่วยเหลือคนเหล่านั้น ฟิลเขียนความในใจไว้ในเว็บไซต์ของตัวเองว่า เขาเคยป่วยเป็นโรคมะเร็งจึงรู้ดีว่ารถเข็นไฟฟ้าเหล่านี้มีความหมายต่อผู้อื่นอย่างไร มันหมายถึงการได้พึ่งพาตัวเองไม่ต้องอาศัยใคร และมีโอกาสได้ทำสิ่งที่คนปกติทำกัน […]
ทำบุญให้ดี ทำทีเดียวได้ครบทั้งทาน-ศีล-ภาวนา
“ทำบุญให้ดี ทำทีเดียวได้ครบทั้ง ทาน -ศีล-ภาวนา” โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) การที่โยมมาทำบุญวันนี้ อย่างที่ทำกันมาทุก ๆ เดือน ถวาย ทาน แล้วมาสังสรรค์กันในหมู่ญาติมิตร แล้วก็มาบำเพ็ญธรรมทานอย่างนี้ ทั้งหมดนั้นก็เป็นการบำเพ็ญบุญกิริยา คือการทำบุญตามหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งเราได้ทำกันในด้านต่าง ๆ ดังที่ได้เคยกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะที่เห็นชัด ๆ ก็คือทาน ตอนแรกก็ถวายทาน ถวายภัตตาหาร แล้วก็รักษาศีล ดังที่ได้สมาทานศีลกันเมื่อกี้นี้ แล้วก็ได้ภาวนา คือทำจิตใจและสติปัญญาให้เจริญงอกงามขึ้น ทำจิตให้เจริญด้วยการทำใจให้สงบ ให้เบิกบานผ่องใส แล้วก็เจริญปัญญาด้วยการฟังธรรม เมื่อฟังธรรมะไปแล้ว ใจคอสบาย เกิดความสว่าง เข้าใจธรรมะ รู้ว่าอะไรจริง อะไรถูกต้อง อะไรดีงาม มีความรู้ความเข้าใจในหลักคำสอนมากขึ้น ก็เจริญปัญญา แม้จะยังไม่ได้บำเพ็ญสมาธิอะไรก็เรียกว่าเป็นภาวนา รวมแล้วก็คือปฏิบัติตามหลัก 3 ประการที่เรียกว่าเป็นบุญกิริยา คือ ทาน ศีล และภาวนา ถ้าเราปฏิบัติถูกต้อง มาทำบุญกันในวันนี้ก็ได้ครบทั้งสามอย่าง […]
ทำทานเพื่ออะไร และทานแบบใดที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง : พระไพศาล วิสาโล
ทำทานเพื่ออะไร และทานแบบใดที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง : พระไพศาล วิสาโล หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องการทำทานมาไม่มากก็น้อย แต่เชื่อว่าหลายคนจะเข้าใจเรื่องการทำทานอย่างถ่องแท้มากขึ้น จะได้ทราบว่า ทำทานเพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร จากทรรศนะของพระไพศาล วิลาโล เพื่อเป็นความประดับสติปัญญาทางธรรม เพื่อให้การทำทานครั้งต่อไปกลายเป็นการทำทานที่แท้จริง เปลือกนอกของศาสนามันก็มีประโยชน์อยู่ แต่อย่าไปยึดติดจนกระทั่งลืมสิ่งที่เป็นสาระ นั่นคือเรื่องการพัฒนาชีวิตจิตใจ แม้แต่การท่องหลักธรรม เช่น อริยสัจ 4 พรหมวิหาร 4 มรรค 8 ฯลฯ หลายท่านไปเน้นตรงนี้ เข้าใจว่าต้องท่องให้ได้ ถึงจะรู้ศาสนา ถึงจะเข้าใจศาสนา ความจริงการท่องหลักธรรมให้ได้นั้น ไม่สำคัญเท่ากับการไปปฏิบัติธรรมหรือเปล่า บางคนท่องไม่ได้ อย่างชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ เขาท่องไม่ได้ แต่ว่าชีวิตของเขาสอดคล้องกับธรรมะ นั่นคือมีการให้ทานเป็นชีวิตจิตใจ ขอทำความเข้าใจคำว่า “ทาน” เพราะทุกวันนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าการ “ทำทาน” ใช้กับพระสงฆ์ไม่ได้ กับพระต้องเรียกว่า “ทำบุญ” ทำทานต้องใช้กับคนจน ใช้กับสัตว์ ก็เกิดจากการเข้าใจกันไปอย่างนี้ จะถวายพระ จะให้สัตว์ ให้คนจน ก็คือทาน ไม่อย่างงั้นไม่มีคำว่า “สังฆทาน” […]
สาธุ! เจ้าอาวาสวัดถ้ำระฆังนำข้าวของจากตักบาตรเทโวแจกผู้ยากไร้ 12 หมู่บ้าน
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า พระครูโฆษิต บุญโญปถัมภ์ เจ้าอาวาสวัดถ้ำระฆัง และเจ้าคณะตำบลนาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย พร้อมผู้ใหญ่บ้าน อบต. และคณะศิษย์ ช่วยกันขนข้าวสาร อาหารแห้ง ขนม นม น้ำส้ม จำนวนกว่า 3 ตัน ที่ได้รับจากงานบุญครั้งใหญ่ ได้แก่ งานฉลองบันได 649 ขั้น และประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ที่พระสงฆ์ 108 รูป เดินลงจากยอดเขาถ้ำระฆัง รับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้ง นำไปแจกจ่ายบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ยากไร้ และผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่ 12 หมู่บ้าน ต.นาขุนไกร พระครูโฆษิต กล่าวว่า ข้าวสารอาหารแห้งทั้งหมดที่ได้รับมาจากญาติโยม หากเอาไว้ที่วัดก็ไม่เกิดประโยชน์มากนัก เพราะพระกินไม่ทันฉันไม่หมด จะเสียของไปเปล่า ๆ จึงรวบรวมมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ยากจนขัดสน ครอบครัวผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง มีข้าวสารประมาณ 2 ตัน อาหารแห้งกับเครื่องดื่มอีก 1 ตัน แจกให้ญาติโยมครอบครัวละ 4 กระสอบปุ๋ย […]
“แม้ข้าวเพียงทัพพีเดียวก็เป็นบุญ” พระพุทธเจ้าสอนญาติพระสารีบุตรเรื่องการทำบุญ
“แม้ข้าวเพียงทัพพีเดียวก็เป็นบุญ” พระพุทธเจ้าสอนญาติ พระสารีบุตร เรื่องการทำบุญ ครั้งพระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน ในกรุงราชคฤห์ พระสารีบุตร พระอัครสาวกผู้เป็นยอดในด้านเป็นผู้มีปัญญามากได้พำนักอยู่ ณ อารามแห่งนี้ด้วย พระสารีบุตรมาจากตระกูลพราหมณ์ ทั้งยังเป็นผู้สนใจศึกษาสัจธรรม และปรารถนาแสวงหาความหลุดพ้น จึงชักชวนเพื่อนสนิทคือพระมหาโมคคัลลานะสละเรือนออกบวชในสำนักสัญชัยเวลัฏฐบุตร เมื่อท่านได้พบกับพระอัสสชิแล้วเกิดความเลื่อมใสจึงเข้ามาบวชเป็นพระภิกษุในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมกับพระมหาโมคคัลลานะ เมื่อพระสารีบุตรบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว ญาติผู้มีศักดิ์เป็นลุงได้แวะมาเยี่ยมท่านยังพระเวฬุวัน พระสารีบุตรก็ได้ถามไถ่ญาติว่า “ท่านพราหมณ์ ท่านได้ประกอบกุศลอะไรบ้าง” “ทำสิขอรับพระคุณเจ้า กระผมทำทานทุกเดือนเลยขอรับ” “ดีแล้ว ท่านพราหมณ์ได้ให้ทานแก่ผู้ใด” “นักบวชนิครนถ์ขอรับพระคุณเจ้า” “การทำทานของท่าน หวังอานิสงส์อย่างไร” “กระผมหวังได้อุบัติในพรหมโลกขอรับพระคุณเจ้า” “แต่การทำทานแก่นิครนถ์ใช่หนทางที่จะพาท่านไปสู่พรหมโลกหรือ” “อาจารย์ของกระผมสอนมาอย่างนี้ขอรับ” “อาจารย์ของท่านพราหมณ์ไม่รู้หนทางที่จะไปสู่พรหมโลกหรอก พระศาสดาของเราทรงรู้ และเราจะพาท่านไปพบพระองค์” พระสารีบุตรได้พาญาติไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระสารีบุตรได้ทูลเรื่องราวทั้งหมดถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า และทูลขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงหนทางที่นำไปสู่พรหมโลกแก่ญาติของตน พระบรมศาสดาตรัสขึ้นว่า “ท่านทราบมาดังนี้หรือท่านพราหมณ์” “ใช่แล้วขอรับพระสมณโคดมผู้เจริญ” “การจ้องมองจริยวัตรอันดีงามแห่งสาวกของเราแล้วเกิดปีติเพียงชั่วครู่เดียว หรือการตักข้าวเพียงหนึ่งทัพพีให้แก่สาวกของเรามีอานิสงส์มากกว่าทานที่ท่านพราหมณ์ทำเสียอีก” ที่มา : อรรถกถา ธรรมบท เรื่องพราหมณ์ผู้เป็นลุงของพระสารีบุตรเถระ ภาพ : https://pixabay.com บทความน่าสนใจ พระสารีบุตร พระอรหันต์ผู้ […]
เราต้องเป็นเรา อย่าให้เรากลายเป็นของมัน – ธรรมะเพื่อการปล่อยวางจากพระไพศาล
เราต้องเป็นเรา พระไพศาล วิสาโล เล่าว่า เงินนั้นมีไว้ใช้ แต่เมื่อใดที่เผลอใจกลายเป็นของมันไป มันก็สามารถทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตได้
ทำบุญอย่างไรให้ได้ ผลบุญมาก (และอาจได้เกิดเป็นเทวดาด้วย)
ทำบุญอย่างไรให้ได้ ผลบุญมาก (และอาจได้เกิดเป็นเทวดาด้วย) คนทั่วไปมักมีคำถามว่า ทำบุญอย่างไรจึงจะได้ ผลบุญมาก และหวังว่าผลบุญนั้นอาจส่งผลให้ไปเกิดเป็นเทวดา ส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจกันว่าต้องทำบุญแก่พระผู้ปฏิบัติดี ความเชื่อนี้มีอิทธิพลมากทีเดียว บางคนยอมทิ้งงานทิ้งการ ทิ้งบ้านไปตามหาพระอรหันต์เพื่อจะทำบุญแล้วจะได้บุญทันตาเห็นและได้บุญมาก แต่หากลองศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเทวดาจากคัมภีร์ ก็จะพบว่าเทวดาส่วนใหญ่ไปเกิดในสวรรค์เพราะผลของทาน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะทานหรือการให้เป็นการทำบุญสำคัญที่ปรากฏในพุทธศาสนาเป็นอันดับแรก ๆ เพราะเป็นวิธีเบื้องต้นที่สอนให้คนเรารู้จักการละวางหรือบรรเทาความรักตัวเอง ให้รู้จักถ่ายโอนความรักตัวเองไปยังผู้อื่น จึงเป็นเรื่องที่อภิปรายกันอยู่เสมอว่า “ทำทานอย่างไรให้ได้ผลมากกว่า” พระพุทธเจ้าทรงอธิบายถึงผลของทานหลายประการ เช่นว่า ผู้ให้ของที่ดีย่อมได้ของที่ดี ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้ ผลของทานทำให้มีพร้อมด้วยของกินของใช้และบริวาร เมื่อตายไปแล้วผลของทานยังส่งให้เกิดในสวรรค์ และสูงที่สุดคือทำให้บรรลุมรรคผล ทานที่มีผลมากต้องประกอบด้วยองค์ 3 คือ 1. ไทยธรรมหรือของที่ให้ทานต้องเป็นของที่ีบริสุทธิ์ ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานหรือประกอบอาชีพที่สุจริต 2. ผู้ให้มีเจตนาบริสุทธิ์ มีศรัทธาแน่วแน่ ปราศจากความตระหนี่หรือความลังเลสงสัย 3. ผู้รับก็บริสุทธิ์ มีศีล มีคุณธรรม ทำประโยชน์แก่สังคม ในคัมภีร์ยกพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก แต่ก็อาจขยายความไปถึงคนดีทั่วไปได้ด้วย ยังมีการอธิบายเพิ่มเติมว่า “…ใช่แต่ไทยธรรมที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่ทำให้ทานมีผลมาก แท้จริงแล้วผู้ให้ยังต้องประกอบด้วยจิตเลื่อมใส และผู้รับมีคุณธรรมพร้อม เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นข้าวสุกสักกำมือ ผ้าเก่าสักชิ้น เพียงหญ้าเครื่องปูลาด เพียงใบไม้เครื่องปูลาด เพียงสมอดองด้วยน้ำปัสสาวะ ที่ถวายในทักขิไณยบุคคลด้วยจิตที่เลื่อมใส ก็จักมีผลมาก […]
ตัวอย่างของ การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ – ข้อคิดดี ๆ ที่ชาวพุทธควรรู้
ตัวอย่างของ การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ ข้อคิดดี ๆ ที่ชาวพุทธควรรู้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) ได้ทรงแสดงทรรศนะเกี่ยวกับ การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พร้อมกับทรงยกตัวอย่างไว้ดังนี้ การทำทานนั้น จะได้บุญมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเจตนาว่าบริสุทธิ์หรือไม่ หากเจตนาไม่บริสุทธิ์ แม้วัตถุทานจะมากหรือทำมาก ก็ย่อมได้บุญน้อย วัตถุทานจะมากหรือน้อย เป็นของเลวหรือประณีตไม่สำคัญ เมื่อเราได้ให้ทานไปตามกำลังทรัพย์ที่เรามีอยู่ย่อมใช้ได้ แต่มีข้ออันควรระวังอยู่ก็คือ การทำทานนั้น อย่าได้เบียดเบียนตนเอง เช่นมีน้อย แต่ฝืนทำให้มาก ๆ จนเกินกำลังของตนที่จะให้ได้ เมื่อได้ทำไปแล้วตนเองและสามี ภรรยา รวมทั้งบุตรต้องลำบาก ขาดแคลน เพราะไม่มีจะกินจะใช้ เช่นนี้ย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง เจตนานั้นย่อมไม่บริสุทธิ์ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของ การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ คือ ตัวอย่างที่ 1 ทำทานเพราะอยากได้ ทำเอาหน้า ทำอวดผู้อื่น เช่น สร้างโรงเรียน โรงพยาบาลใส่ชื่อของตน ไปยืนถ่ายภาพลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ เพื่อให้ได้รับความนิยมยกย่องนับถือ โดยที่แท้จริงแล้วตนมิได้มีเจตนาที่จะมุ่งสงเคราะห์ผู้ใด เรียกว่าทำทานด้วยความโลภ ไม่ได้ทำเพื่อขจัดความโลภ ทำทานด้วยความอยากได้ คืออยากได้หน้า ได้เกียรติ ได้สรรเสริญ […]
ทำทานอย่างไรให้ได้บุญ แนวทางเพื่อการทำทาน
วันนี้ ซีเคร็ต ขออาสาพาผู้อ่านไปรู้จัก เบื้องหลังที่ว่า พร้อมทั้งแนะนำวิธีทำทาน ให้ได้บุญแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเรื่องบุญเรื่องทานนั้นอยู่ในสายเลือด ของคนไทยเลยก็ว่าได้ – ทำทาน
“ทำทานเหมือนการอาบน้ำ” คำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ
คำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ ได้เปรียบการทำทาน 3 แบบ เหมือนการอาบน้ำ 3 ชนิด มีอะไรไปดูกัุนเลยค่ะ นอกจากนี้การทำทานยังมีอานิสงค์ตามความเชื่อของคนไทย