คั่วกลิ้งหมู

ถ้าให้นึกถึงเมนูอาหารใต้ เชื่อว่าหลายคนคงต้องนึกถึงเมนู คั่วกลิ้ง แน่นอน เพราะเป็นเมนูยอดฮิตรสชาติจัดจ้าน ถูกปากคนไทยมากๆ วันนี้ทีมงาน Amarin cuisine มีสูตรการทำ คั่วกลิ้งหมู มาให้ลองทำกันค่ะ

คั่วกลิ้งหมู เมนูอาหารใต้รสจัดจ้าน

ขั้นตอนการทำ คั่วกลิ้งหมู

♦ ส่วนผสมเครื่องแกง

พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำ (ประมาณ 50 เม็ด)	½ ถ้วย
ตะไคร้ซอย	2-3 ต้น
กระเทียมหั่นหยาบ	3 ช้อนโต๊ะ
หอมเล็กหั่นหยาบ	3 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นชันหั่นบาง	5-6 แว่น
ผิวมะกรูดซอย	2 ช้อนชา
พริกไทยเม็ด	3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น	2 ช้อนชา

♦ วิธีทำเครื่องแกง โขลกส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันจนละเอียด จะได้เครื่องแกง ประมาณ 1/3 ถ้วย ♥ ส่วนผสมคั่วกลิ้งหมู

เนื้อหมูสับหยาบ	500 กรัม
เครื่องแกง	1/3 ถ้วย
ใบมะกรูดหั่นฝอย	4-5 ใบ
น้ำปลา	3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย (ไม่ใส่ก็ได้)	1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช	2-3 ช้อนโต๊ะ

♥ วิธีทำคั่วกลิ้งหมู ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูลงผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล ชิมรสตามชอบ จากนั้นผัดจนส่วนผสมแห้ง จึงใส่ใบมะกรูดลงผัดพอเข้ากัน ตักใส่จาน รับประทานกับผักสดและข้าวสวยร้อนๆ

ประโยชน์ที่ได้จากเมนู คั่วกลิ้งหมู

คั่วกลิ้ง หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเครื่องเทศและสมุนไพร เช่น หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ขมิ้นมาผัดกับกะปิจนหอม เติมเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว กระดูกหมู หรือเนื้อปลา แล้วผัดรวมกัน ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสตามที่ชอบรับประทาน โดยส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเมนูคั่วกลิ้งหมู ก็คือ ขมิ้นนั่นเอง ขมิ้นนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องเทศที่ได้รับความนิยมในเมนูอาหารใต้ของไทยเราก็มากๆ ซึ่งตัวขมิ้นเองก็ยังเป็นส่วนผสมหลักที่ได้รับความนิยมในอาหารของชนชาติอื่นๆที่นอกเหนือจากไทยเราด้วย ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย หรือในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ คั่วกลิ้งนั้นเป็นอาหารที่อยู่คู่กับชาวภาคใต้มาเป็นเวลาช้านาน ไม่สามารถปรากฏหลักฐานได้ว่าถือกำเนิดขึ้นในเวลาใด รู้แต่เพียงว่าเป็นการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาอาหารของไทย ที่รู้จักการนำสมุนไพรมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการทำอาหารพื้นบ้านนั่นเองค่ะ มีงานวิจัยเกี่ยวกับเครื่องแกง ที่ดำเนินการโดยสถาบันโภชนาการ คือทางสถาบันโภชนาการได้นำเครื่องแกงไปศึกษาวิจัยแล้วก็พบว่า ในเครื่องแกงนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เนื่องจากเครื่องแกงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของเครื่องเทศสมุนไพรต่างๆ และเมื่อมีการนำไปทดสอบในห้องทดลองก็พบว่าช่วยลดหรือต้านการอักเสบที่เกิดขึ้นในเซลล์ของร่างกายได้ด้วย และยิ่งถ้านำเครื่องแกงมาผสมกับเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นแหล่งของโปรตีน ก็จะยิ่งทำให้อาหารเมนูนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ ทั้งยังช่วยในเรื่องของการลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ก็ควรรับประทานร่วมกับผักหรือเครื่องเคียงต่างๆร่วมด้วย นอกจากจะช่วยลดความเผ็ดร้อน แล้ว ยังช่วยเพิ่มใยอาหาร เพิ่มวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ หรือจะรับประทานกับผักพื้นบ้านที่หาได้ตามท้องถิ่น เช่น ยอดมันปู ยอดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น ส่วนภาคอื่นๆ ก็สามารถหาผักท้องถิ่นของตัวเองเอามารับประทานได้เช่นกันค่ะ ประโยชน์ของขมิ้น

ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร และช่วยทำความสะอาดลำไส้
มีฤทธิ์ในการช่วยขับน้ำดี
ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้
แก้อาการตกเลือด ด้วยการนำขมิ้นสดมาตำให้ละเอียด แล้วคั้นเอาน้ำมาผสมกับน้ำปูนใสแล้วรับประทาน
ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร
ช่วยในการขับลม
บรรเทาอาการนิ่วในถุงน้ำดี
ช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบ
บำรุงตับ ป้องกันตับอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ และป้องกันตับจากการถูกทำลายจากยาพาราเซตามอล
บำรุงหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง
ช่วยรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวม
ช่วยป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวาร

เราอาจมี "คนที่เฝ้าดูเราอยู่"

lifestyle

แจกสูตร 4 เมนูอาหารใต้ รสเด็ดเข้มข้น ถูกใจคนชอบรสจัด – A Cuisine

สุขกิน Kannikar

พูดเลยว่าจัดจ้านในย่านนี้มากค่ะ เดี๋ยวๆ หมายถึงเมนูอาหารใต้รสจัดจ้านต่างหาก ใครเลิฟอาหารใต้ วันนี้ A Cuisine รวมสูตร 4 เมนูอาหารใต้ เด็ดๆ มาให้แล้วค่ะ มีเมนูอะไรบ้าง มาดูกันเลย รวม 4 เมนูอาหารใต้ รสเข้มข้น โดนใจ 1.แกงหอยแครงกับใบชะพลู ♦ ส่วนผสม หอยแครงลวก (แกะใช้เฉพาะเนื้อ) 1 ถ้วย ใบชะพลูหั่นตามขวาง 3 ถ้วย เครื่องแกงเผ็ดใต้ ½ ถ้วย หัวกะทิ 1 ถ้วย หางกะทิ 1½ ถ้วย น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย (ไม่ใส่ก็ได้) 2 ช้อนชา ♦ วิธีทำ แกงหอยแครงกับใบชะพลู ลวกใบชะพลูในน้ำเดือด ตักขึ้นแช่น้ำเย็นแล้วพักให้สะเด็ดน้ำ ผัดเครื่องแกงกับหัวกะทิจนแตกมัน (ค่อยๆใส่หัวกะทิทีละน้อย) ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย […]