ขนมเบื้อง
ขนมเบื้อง เป็นของโบราณ นิยมทำในฤดูที่กุ้งชุม เลี้ยงพระเลี้ยงคน ทำเป็นแทบทุกครัวเรือนใหญ่ และยังถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่ผู้หญิงในบ้านต้องฝึกละเลงให้ได้บางกรอบ อุปกรณ์ที่ใช้ทำขนมเบื้อง คือ กระจ่า ที่แบ่งออกเป็น กระจ่าละเลงแป้ง กระจ่าละเลงหน้ากุ้ง กระจ่าละเลงหน้าสังขยา ซึ่งด้ามกระจ่าละเลงแป้งจะนิยมแกะสลักตกแต่งให้สวยงามไว้ใช้อวดกัน นอกจากกระจ่าก็มี ไม้ปากเป็ด ทำจากไม้ไผ่ด้ามกลมปลายเหลาแบนอย่างปากเป็ดโตราว 3 นิ้ว ไว้ใช้แซะแป้ง และมีกระทะทำจากดินเผาแบนมีหูจับ และมีฝาครอบปิดโดยเฉพาะ รูปลักษณะของแผ่นขนมเบื้องที่ท่านผู้หญิงเปลี่ยนกล่าวไว้คือ “ละเลงเป็นรูปไข่ยาว เป็นสองอันแฝด ขนาดพอรับประทานเข้าปากได้ หน้ากุ้งก็ละเลงหนาพอพับเข้าก็รับประทานได้กัน” จึงเห็นได้ว่า ขนาดของแผ่นขนมเบื้องในยุคของท่าน คงจะมีแผ่นขนาดย่อม ไม่ใช่แผ่นใหญ่โตอย่างปัจจุบัน
ละเลงแซะ ละเลงแซะ อย่าละเลง ขนมเบื้อง ด้วยปาก – A Cuisine
ขนมเบื้องไทย คือหนึ่งในขนมสุดโปรดของฉัน และเชื่อว่าคุณก็ชอบใช่ไหม แต่อีกสิ่งที่ฉันชอบมากกว่าการกินเจ้าขนมนี้ก็คือ ไปยืนเกาะรถขาย ขนมเบื้อง ดูแม่ค้า…
พระโมคคัลลานะทรมานเศรษฐีขี้ตระหนี่
พระโมคคัลลานะทรมาน เศรษฐีขี้ตระหนี่ เศรษฐีขี้ตระหนี่ ที่มีบุญสามารถเป็นพระโสดาบันได้ เพียงแค่ต้องละความตระหนี่ พระโมคคัลลานะจึงแสดงฤทธิ์ให้เศรษฐีละจากความยึดติดในความตระหนี่ของตน มีเศรษฐีอยู่คนหนึ่งมีนิสัยขี้ตระหนี่ และหวงของมาก วันหนึ่งภรรยาของเศรษฐีอยากทำขนมเบื้องด้วยสูตรประจำตระกูลแจกให้เพื่อนบ้านได้กิน เศรษฐีก็ห้ามภรรยาทำเช่นนั้น ภรรยาจึงตัดสินใจว่าเช่นนั้นทำให้เศรษฐีกินคนเดียว เศรษฐีเกรงว่ากลิ่นของขนมเบื้องจะส่งกลิ่นไปจนเพื่อนบ้านได้กลิ่น แล้วจะมาขอแบ่งขนมเบื้อง เศรษฐีจึงให้ภรรยาขึ้นไปทำขนมเบื้องบนปราสาทชั้นที่ 7 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบการกระทำของเศรษฐีด้วยทิพยญาณ พระองค์ทรงเห็นว่าต้องทำให้เศรษฐีละจากความตระหนี่ เพราะเศรษฐีมีสิทธิ์บรรลุเป็นพระโสดาบัน พระพุทธเจ้าทรงเรียกพระโมคคัลลานะเข้าเฝ้า พระองค์โปรดให้พระโมคคัลลานะทรมานเศรษฐีเพื่อให้ละความตระหนี่ โดยทรงกำชับว่าต้องให้เศรษฐีพร้อมด้วยภรรยานำขนมเบื้องมาถวายเราและพระภิกษุในพระเชตวันแห่งนี้ทั้ง 500 รูป พระโมคคัลลานะได้รับพุทธบัญชาก็เหาะทะยานไปในอากาศด้วยฤทธิ์มุ่งไปยังปราสาทชั้นที่ 7 ของเศรษฐี เศรษฐีเห็นพระโมคคัลลานะมาปรากฏที่ชั้น 7 ก็ประหลาดใจ ทั้งยังด่าว่าว่าถึงจะมาขอบิณฑบาตขนมเบื้อง เราก็จะไม่ให้ พระโมคคัลลานะจึงแสดงให้ควันไฟกระจายไปทั่วปราสาท ภรรยาเศรษฐีจึงขอเศรษฐีทำขนมเบื้องชิ้นเล็ก ๆ ถวายพระเสีย จะได้จบปัญหา พอนางหยดขนมลงเตาปรากฏว่าทำมากี่ชิ้น ขนมเบื้องก็ออกมาใหญ่เกินขนาด เศรษฐีจึงตัดสินใจถวายขนมเบื้องไปชิ้นหนึ่ง ถึงจะใหญ่เกินความตั้งใจก็ตาม พอเศรษฐีจับขนมเบื้องขึ้นมา ขนมชิ้นต่างๆก็เกาะติดขึ้นมาด้วย เศรษฐีพยายามดึงขนมออกจากกัน แต่ก็ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจยกขนมเบื้องทั้งหมดแด่พระโมคคัลลานะ เมื่อขนมเบื้องเหล่านั้นลงในบาตรของพระโมคคัลลานะแล้ว จึงหลุดออกเป็นชิ้นสวยงามน่ารับประทาน พระโมคคัลลานะอนุโมทนาในการถวายขนมเบื้องครั้งนี้ของเศรษฐีและภรรยา ท่านจึงเทศนาเรื่องการให้ทานจนเศรษฐีและภรรยาเกิดความเลื่อมใส พระโมคคัลลานะเปรยว่าพระพุทธเจ้าทรงปรารถนาเสวยขนมเบื้องนี้เช่นกัน เศรษฐีดีใจจึงถามพระโมคคัลลานะถึงที่ประทับของพระองค์ พระโมคคัลานะตอบว่า พระองค์ประทับอยู่ที่พระเชตวัน หากเศรษฐีและภรรยาปรารถนาจะถวายขนมเบื้องแด่พระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระสาวกทั้ง […]