เพศมีผลต่อการปฏิบัติธรรมหรือไม่ โดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

เพศมีผลต่อ การปฏิบัติธรรม หรือไม่ โดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ บางคนก็สงสัยไปถึงขั้นว่า ถ้าไม่บวชจะบรรลุธรรมได้ไหม ถ้าเป็นฆราวาส คฤหัสถ์เป็นเครื่องเนิ่นช้า เครื่องขัดขวางใน การปฏิบัติธรรม รวมถึงการบรรลุธรรมหรือเปล่า ถ้าเรามองประเด็นที่ว่า ในสมัยพุทธกาล เขาบรรลุธรรมก่อนบวช ลองนึกประเด็นนี้ดูบ้างสิ สมัยพุทธกาล บรรลุธรรมก่อนบวช บรรลุธรรมเสร็จแล้วจึงขอบวช เป็นส่วนมากเป็นส่วนใหญ่ ถ้าอย่างนั้นอย่างนี้แล้ว เราจะได้คลายไปเยอะกับเพศภาวะ เราเป็นคฤหัสถ์ ฆราวาส เราก็ปฏิบัติตามคำสอน ตามวิธี เมื่อปฏิบัติตามแล้ว ผลของการปฏิบัติก็เกิดขึ้น แล้วถ้าเราปฏิบัติอย่างนี้ เราไม่มีเครื่องกีดขวาง หรือแรงเสียดทานในใจว่า เราเป็นคฤหัสถ์ เป็นชาวบ้าน เป็นคน ไม่ใช่นักบวช ไม่ได้บวช มันจะกลายเป็นเครื่องเนิ่นช้าหรือไม่ ตรงนี้กลับกลายเป็นเครื่องเนิ่นช้าเสียเอง ความลังเล ความสงสัย หรือความคิด ความตริ ความตรึก ความดำริอย่างนี้ กลายเป็นแรงเสียดทาน เครื่องเนิ่นช้าจึงไม่ใช่เพศภาวะแล้ว ไม่ใช่รูปแบบภายนอก เช่น เสื้อผ้าอาภรณ์ กลายเป็นข้างในของคุณเอง คิดอย่างนี้มันจึงเป็นเครื่องเนิ่นช้า มันจึงไม่ก้าวหน้า จึงไม่บรรลุธรรม เพราะคิดอย่างนี้ […]

ธรรม (ชาติ) พาบรรลุธรรม เรื่องเล่าประสบการณ์ของพระนักปฏิบัติครั้งสมัยพุทธกาล

ธรรม (ชาติ) พา บรรลุธรรม เรื่องเล่าประสบการณ์ของพระธุดงค์ครั้งสมัยพุทธกาล คัมภีร์อรรถกถาธรรมบท มีเรื่องราวของพระอริยบุคคล บรรลุธรรม อยู่หลายเรื่อง แต่เรื่องที่อ่านแล้วทำให้หัวใจผ่องใสมากคงหนีไปไม่พ้นเรื่องการบรรลุธรรมที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ครั้งสมัยพุทธกาลมีพระภิกษุรูปหนึ่งอบรมกรรมฐานจากพระบรมศาสดาแล้วก็ออกธุดงค์ไปทำความเพียรในป่า แต่ปฏิบัตินานหลายปีก็ไม่สำเร็จอรหัตตผลอย่างที่ตั้งใจไว้เสียที จึงคิดว่าเราจะไปทูลถามพระพุทธองค์ว่าเราปฏิบัติติดข้องตรงไหนจึงยังไม่ได้มรรค ผล นิพพาน เสียที ขณะที่ท่านกำลังเดินทางออกจากป่าเพื่อกลับไปยังพระเชตวัน แสดงว่าป่าแห่งนี้ไม่ไกลจากกรุงสาวัตถีนัก ระหว่างทางได้เห็นไฟป่า จึงปีนขึ้นไปบนภูเขาลูกหนึ่ง ปรากฏว่าเส้นทางข้างหน้าที่กำลังมุ่งหน้าไปพระเชตวันเกิดไฟป่า พระภิกษุรูปนี้ได้เพ่งเปลวไฟเหล่านั้นเป็นอารมณ์ และกล่าวขึ้นว่า “ไฟเหล่านี้เผาผลาญมากน้อยเพียงใด ก็ไม่ต่างจากพระอริยมรรคที่ผลาญสังโยชน์ให้สิ้นไป”  การที่พระภิกษุรูปนี้กล่าวถึงสังโยชน์ แสดงว่าท่านยังไม่สำเร็จขั้นไหนเลย เพราะขนาดพระโสดาบันยังต้องละสังโยชน์ 3 ขั้นต่ำได้ก่อน พระพุทธเจ้าทรงทราบถึงความคิดของพระภิกษุรูปนี้จึงจำแลงพระวรกายไปปรากฏเบื้องหน้าพร้อมทั้งพระรัศมีแล้วตรัสต่อพระภิกษุว่า “ที่เธอเข้าใจนั้นถูกต้องแล้ว เธอจงเผาผลาญสังโยชน์นั้นด้วยไฟคือญาณเถิด”      ไม่นานพระภิกษุก็ได้กำลังใจและปฏิบัติจนสำเร็ตญาณ และญาณนั้นก็ขจัดสังโยชน์ไปจนสิ้น เมื่อละสังโยชน์ได้แล้ว ซึ่งสังโยชน์ในที่นี้หมายถึง กิเลส แต่อย่างไรก็ตามผู้ปราศจากกิเลสก็คือพระอรหันต์ ซึ่งพระภิกษุรูปนี้ได้สำเร็จอรหัตตผลตามที่ตั้งใจไว้แล้ว เรื่องของพระภิกษุรูปนี้เห็นแสดงให้เห็นว่า ท่านสังเกตุการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ เพราะธรรม (ชาติ) ได้พาท่านไปพบกับธรรม อย่างแท้จริง อีกเหตุการณ์หนึ่งคล้ายกับพระภิกษุรูปแรกที่บรรลุธรรมจากการพิจารณาไฟที่กำลังเผาไหม้ป่า แต่จะมีความแตกต่างกันอย่างไรลองมาติดตามเรื่องราวของพระภิกษุอีกรูปกัน พระภิกษุรูปหนึ่งหลังจากอบรมกรรมฐานจากพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วก็ตัดสินใจไปทำความเพียรอยู่ในป่า แต่แล้วหลายวันผ่านไปก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าตนเองได้มรรคผล เกิดข้อสงสัยว่าเป็นเพราะอะไรจึงมุ่งเดินทางไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทันที แต่ยังไม่ทันพ้นออกจากเขตป่า ได้มองแดดที่สาดส่องมาที่พื้น […]

พระปัจเจกพุทธเจ้า : พระพุทธเจ้าผู้สอนให้สาวกเข้าสู่พระนิพพานไม่ได้

พระปัจเจกพุทธเจ้า : พระพุทธเจ้าผู้สอนให้สาวกเข้าสู่พระนิพพานไม่ได้ โลกไม่เคยขาดช่วงของผู้บรรลุธรรมด้วยอริยสัจ 4 หากไม่มีการอุบัติขึ้นของพระอนุตรสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าอีกประเภทจะอุบัติขึ้นแทน เพื่อแสดงให้เห็นว่า การบรรลุธรรมด้วยความจริง 4 ประการนี้มีอยู่จริง นั่นคือ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง แต่ไม่สามารถสอนให้สาวกเข้าสู่พระนิพพานได้   ทำไมพระปัจเจกพุทธเจ้าสอนให้เข้าถึงพระนิพพานไม่ได้ พระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าประเภทหนึ่งที่ตรัสรู้อริยสัจ 4 ด้วยตนเอง ปรมัตถโชติกา อรรถกถาสุตตนิบาตอธิบายลักษณะพระปัจเจกพุทธเจ้าไว้ว่า การเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านั้นคล้ายกับ คนใบ้ที่ฝัน คนใบ้สามารถฝันได้แต่ไม่สามารถบอกเล่า หรือพรรณนาความฝันของตนได้ พระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นผู้บรรลุอริยสัจ 4 จนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าก็จริง แต่ไม่สามารถบอกวิธี หรือชี้แนะหนทางการบรรลุพระนิพพานแก่ใครได้ อาจกล่าวได้ว่าพระปัจเจกพุทธเจ้ามีวาสนาและศักยภาพพอที่จะสามารถบรรลุธรรม แต่ไม่มีศักยภาพพอที่จะสั่งสอนให้เวไนยสัตว์มีดวงตาเห็นธรรม หรือไปสู่ความหลุดพ้นได้   คุณสมบัติแห่งการเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า คัมภีร์ปรมัตถโชติกาอธิบายว่า บุคคลผู้ตั้งปณิธานเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าต้องมีคุณสมบัติดังนี้ มีความเป็นมนุษย์ เป็นเพศชายเท่านั้น ได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ยอมมอบชีวิตของตนเองเพื่อความเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า มีความมุ่งมั่นที่จะสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า   คำสอนของพระปัจเจกพุทธเจ้า มานพ นักการเรียน กล่าวว่า พระปัจเจกพุทธเจ้าส่วนมากทรงสอนเรื่อง อภิสมาจาร คือข้อระเบียบการปฏิบัติ เช่น สุสีมมานพอยากทราบเรื่อง “เบื้องปลายของศิลปะ” […]

การบรรลุธรรมของคนมีกิเลสหนา เรื่องน่าคิดจากพระพุทธพจน์

การบรรลุธรรมของคนมีกิเลสหนา เรื่องน่าคิดจากพระพุทธพจน์ หลายคนมักกล่าวว่า “คนกิเลสหนา บรรลุธรรมไม่ได้” และเชื่อกันแบบนี้หลายคน แต่พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่องนี้ไว้ในพระสูตรที่มีชื่อว่า วิตถารสูตร ถึง การบรรลุธรรมของคนมีกิเลสหนา ไว้ว่า บุคคลบางคนในโลกนี้ ตามปกติเป็นผู้มีความกำหนัดยินดีในกาม (ราคะ) ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสอันเกิดจากความกำหนัดยินดีในกามตลอด เป็นผู้มีความโกรธ (โทสะ) รุนแรง ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสที่เกิดจากความโกรธตลอด เป็นผู้ที่มีความหลง (โมหะ) รุนแรง ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสที่เกิดจากความหลงตลอด แต่อินทรีย์ 5 ประการ ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา เหล่านี้มีความแรงกล้า เขาย่อมบรรลุธรรมอย่างฉับพลัน แต่หากคนผู้นั้นมีกิเลสเป็นราคะ  โทสะ และโมหะเบาบาง ไม่ได้มีความทุกข์โทมนัสจากราคะ โทสะ และโมหะ แต่อินทรีย์ทั้ง 5 ประการนี้อ่อน เขาย่อมได้บรรลุมรรคผลล่าช้า การบรรลุธรรมจึงขึ้นอยู่กับอินทรีย์ 5 ประการ   ระดับของการบรรลุธรรม การบรรลุธรรมของคนที่มีกิเลสหนาถึงจะขึ้นอยู่กับอินทรีย์ 5 แต่ก็มีความช้าและความเร็วแตกต่างกันไป พระพุทธเจ้าจัดระดับไว้ 4 ระดับคือ […]

ลูกที่มีอายุมากกว่าพ่อ นิทานธรรมะสอนสัจธรรมของ การบรรลุธรรม ไม่เลือกวัย

ลูกที่มีอายุมากกว่าพ่อ นิทานธรรมะสอนสัจธรรมของ การบรรลุธรรม ไม่เลือกวัย การบรรลุธรรม เป็นเรื่องที่สัมผัสได้เฉพาะตัว เป็นความรู้สึกในแต่ละบุคคล ไม่สามารถอธิบายสภาวะนี้ได้ แต่เรื่องที่ยกมานี้ เรื่องของลูกที่เกิดมีอายุมากกว่าพ่อ จากคัมภีร์ แปลกจริงมีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ จะเป็นเรื่องแปลกไหม ถ้าลูกเกิดมีอายุมากกว่าพ่อของตนเอง จะเป็นไปได้อย่างไรกันนะ ตามความเป็นจริงแล้ว พ่อต้องมีอายุมากกว่าลูกถึงจะถูก แต่มันก็เป็นไปแล้ว เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวของเศรษฐีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาอุบาสกอันดับหนึ่งของพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาลคือ อนาถบิณฑิกเศรษฐี อนาถบิณฑิกเศรษฐีเลื่อมใสในพระพุทธเจ้ามาก ถวายทานและบริจาคทรัพย์สร้างวัดในพระพุทธศาสนาได้แก่ เชตวันมหาวิหาร และบำรุงพระพุทธเจ้าและพระสาวกมิได้ขาด อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นผู้โปรดปรานในการถวายทาน จะแต่งตั้งในลูกสาวของท่านเป็นผู้จัดแจง คือ นางสุภัททา ต่อมาเมื่อนางสุภัททาแต่งงานออกเรือนไป เศรษฐีก็ยกหน้าที่นี้ให้ลูกสาวคนที่สองคือ นางจุฬภัททา เมื่อนางจุฬภัททาออกเรือนไปแล้ว ก็ตกมาเป็นหน้าที่ของนางสุมนาเทวี ลูกสาวคนสุดท้อง นางสุมนาเทวีเป็นสาวแรกรุ่น มีโอกาสฟังธรรมจากพระเถระและพระพุทธเจ้าบ่อยครั้ง เริ่มซึบซับและมีจิตรู้สึกเบื่อหน่ายในกายสังขาร จนทำให้นางไม่อยากรับประทานอาหาร นางสุมนาเทวีล้มป่วย เพราะไม่รับประทานส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ นางขอให้สาวใช้ไปตามอนาถบิณฑิกเศรษฐีมาหานาง เมื่อเศรษฐีมาถึงก็ได้แต่เสียใจในอาการป่วยของลูกสาวคนเล็ก นางสุมนาเทวีจึงกล่าวขึ้นว่า   “เราไม่ได้เป็นอะไรหรอกน้องชาย”   “ลูกรักช่างน่าสงสาร เจ้าเพ้อจนสับสนเรียกพ่อว่าน้องเลยหรือ” “เราไม่เพ้อนะน้องชาย” “ลูกสุมนาคงกลัวจนเพ้อ อย่าได้กลัวไปเลยนะลูกรัก” “เราไม่กลัวหรอกน้องชาย” จากนั้นนางก็สิ้นลมหายใจ การจากไปของสุมนาเทวีสร้างความเศร้าโศกแก่อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นอย่างมาก เศรษฐีทำบุญอุทิศให้แก่ลูกสาว […]

keyboard_arrow_up