ทรงผมบนรันเวย์

How To ทรงผมบนรันเวย์ Milan Fashion Week 2019

สาวๆ วันนี้เรามีเทรนด์ผมสุดชิค เก๋ไก๋ ส่งตรงมาจากรันเวย์ Milan Fashion Week 2019 มาให้ได้ลองมาทำตามกัน แต่ละทรงสามารถทำไปออกงานต่างๆ ได้เลย ว่าทรงไหนเหมาะกับเรา หรือเหมาะกับการแต่งตัวของเราด้วย รับรองว่าเริ่ดแน่นอนจ้า

Paul Hanlon
Roberto Cavalli ทรงผมโดย: Paul Hanlon

โชว์ 1: Roberto Cavalli

ทรงผมโดย: Paul Hanlon

Roberto Cavalli
Roberto Cavalli

แรงบันดาลใจ: การผสมผสานลุคระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย – ลุค Thin White Duke ของ Bowie

วิธีทำ

ขั้นที่ 1: เริ่มจากการใส่มูส – สิ่งนี้จะช่วยควบคุมทรงและสร้างวอลลุ่มที่ผมด้านหน้า

ขั้นที่ 2: เป่าแห้งและจัดทรงด้วยไดร์ Dyson Supersonic รุ่น professional edition กับหัว professional ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนในการสไตล์ลุคแบบผู้ชาย

ขั้นที่ 3: ฝั่งทางด้านหลัง เราจะใช้เครื่องม้วนผมเพื่อสร้างลอนแบบคลื่นให้ดูเป็นลุคของความเป็นผู้หญิง

ขั้นที่ 4: ปิดท้ายด้วยการใส่ผลิตภัณฑ์แว็กซ์ที่บริเวณโคนผม แล้วกระจายไปทั่วศีรษะด้วยการสางด้วยหวีฟันกว้าง

ขั้นที่ 5: ในขณะที่กำลังสางผมอยู่นั้น ให้ใช้ไดร์ Dyson Supersonic กับหัว diffuser เพื่อช่วยละลายตัวแว็กซ์ให้เข้าไปในเส้นผม สามารถทำให้เราเซ็ทผมตามที่เราต้องการได้ขั้นที่ 6: ใส่ผลิตภัณฑ์ brilliantine ที่ด้านหลัง เพื่อให้ผมดูเงางามเป็นธรรมชาติ และช่วยไม่ให้เส้นผมฟูกระจัดกระจายขั้นที่ 7: จบด้วยการใส่ผลิตภัณฑ์ shine mist

Roberto Cavalli
Roberto Cavalli

 

โชว์ 2: Ermanno Scervino

ทรงผมโดย James Pecis

James Pecis
Ermanno Scervino ทรงผมโดย James Pecis
Ermanno Scervino
Ermanno Scervino

แรงบันดาลใจ : จากลุคของ Wynona Ryder – ช่วงท้ายของยุค 80 หรือช่วงต้นของยุค 90 มีกลิ่นอายของพังก์ – ลุคผมมวยแบบยุ่ง

วิธีทำ

ขั้นที่ 1: ทำให้ผมด้านหน้าชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์  Maximista Oribe และใช้ไดร์ Dyson Supersonic รุ่น professional edition กับหัว professional nozzle เป่าให้ผมกระจายออกจากใบหน้า สไตล์ผมให้เป็น square step ทางด้านหน้าแล้วให้ทำซ้ำอีกครั้ง

ขั้นที่ 2: สำหรับผมที่เหลือ ให้เซคชั่นผมแต่ละข้างออกเป็น 2 ส่วน

ขั้นที่ 3: ให้นำเซคชั่นที่เล็กกว่าของแต่ละข้างมาคาดกันแล้วผูกเป็นปมหลวมๆ และควรสไตล์ไปฝั่งซ้าย ให้ดูเป็นลุคที่ไม่ค่อยสมดุล

Step 4: เก็บผมที่เหลือที่เห็นว่ายาวออกมาเกินไป โดยใช้มื่อในการสไตล์และเหน็บผมให้เป็นทรงแบบ chignon

Step 5: ใช้ด้ายยางจัดแต่งผมทางด้านหลังเพื่อช่วยในการยึดทรงผมให้อยู่ทรงและสามารถสร้างลุค final แบบที่เราต้องการ

Step 6: ฉีดสเปรย์เพื่อให้ผมอยู่ทรง

Anthony Turner
Missoni ทรงผมโดย Anthony Turner
Missoni
Missoni

โชว์ 3: Missoni

ทรงผมโดย Anthony Turner

แรงบันดาลใจ: ได้รับอิทธิพลมาจาก Vidal Sassoon แต่ก็ยังมีความทันสมัย

วิธีทำ :

มีสองลุค: ลุคแรกเป็นลุคผมยาว ตรงเรียบ ดูสุขภาพแข็งแรงและเงาประกาย

ลุคที่หนึ่ง :

ขั้นที่ 1: ใส่ผลิตภัณฑ์น้ำมันทรีทเม้นท์ให้ทั่วผม

ขั้นที่ 2: สไตล์ช่วงโคนผมให้ดูเรียบ เป่าไดร์ด้วยการดึงตั้งแต่โคนผมลงมาจนถึงช่วงกลาง

ขั้นที่ 3: แบ่งผมด้านหน้าให้เป็นสามเหลี่ยมยึดจากมุมคิ้วของแต่ละข้างจนถึงช่วงบนศีรษะ

ขั้นที่ 4: มัดให้แน่นด้วยหนังยาง และเซคชั่นให้แบบ triangle แล้วำเป็นหางม้าช่วงบน

ขั้นที่ 5: ใช้ผมปลอมต่อแบบ weave ใช้กาวติดจากมุมคิ้วจนถึงอีกมุม โดยติดขึ้นไปถึง triangle เซคชั่น ซึ่งการใช้ผมต่อทั้งสองชิ้นนั้นจะช่วยทำให้ลุคทรงผมที่สร้างดูสวยงามและทำให้ผมดูหนา

ขั้นที่ 6: จากนั้นให้ตัดผมต่อออกให้เป็นทรงแบบ beat nick shape ยุค 1960 ดูคล้ายกับทรง bowl-like แล้วให้ปล่อยผมด้านข้างที่ยาวไว้ และสไตล์ขนตาให้ดูเป็นทรงกะบังหมวก

ขั้นที่ 7: ใส่ผลิตภัณฑ์น้ำมันทรีทเม้นท์เพื่อให้ผมดูเงางามและมีสุขภาพดี

ขั้นที่ 8: ปิดท้ายด้วยฉีดสเปรย์ให้ผมอยู่ทรง

Missoni
Missoni

ลุคที่สอง :

ขั้นที่ 1: ใส่ผลิตภัณฑ์ volumizing hairspray ให้ทั่ว

Step 2: เป่าไดร์โดยให้หัว precision nozzle และใช้แปรงเป็นตัวช่วย และไดร์ให้ผมเรียบตรงที่สุดตั้งแต่ด้านล่างถึงด้านบน

Step 3: เซคชั่นผมตั้งแต่ช่วงบนของใบหูขึ้นมาตรงแถบ recession แล้วใช้ผมปลอมต่อข้างละสองชิ้น หลังจากนั้นให้รวบมาข้างหลังเป็นหางม้าแบบต่ำ

Step 4: ใส่ผลิตภัณฑ์น้ำมันทรีทเม้นท์ เพื่อให้ผมดูเงางาม

Step 3: ตัดผมต่อออกเป็น angle และสไตล์ผมช่วงด้านแห้งทั้งสองด้านให้ดูเหมือนผมโดนไฟเผา

Step 4: ฉีดสเปรย์และใช้นิ้วจัดผมด้านข้างให้ติดกับใบหน้า

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.