มูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดตัวช่องทางบริจาคผ่านมือถือ สมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์

ให้ทุกครั้งของการกดโทรศัพท์มือถือ เป็นมากกว่าการติดต่อสื่อสาร แต่หมายถึงการต่อชีวิตให้แก่ผู้ป่วยกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ

 

มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมทั้ง 5 เครือข่าย ได้แก่ AIS, CAT, DTAC, TOT และ TRUE เปิดช่องทางใหม่ในการบริจาคผ่านโทรศัพท์มือถือ ผ่านโครงการ “กด=ต่อชีวิต” (กด เท่ากับ ต่อชีวิต) เพื่อนำรายได้จากการบริจาคทั้งหมดสมทบทุนการซื้อเครื่องมือแพทย์ สถาบันการแพทย์จักรี
นฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ปัจจุบันยังขาดงบประมาณอีกกว่า 1,400 ล้านบาท

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้จัดงานแถลงข่าวแนะนำโครงการ “กด=ต่อชีวิต” (กด เท่ากับ ต่อชีวิต) เปิดตัว โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ และพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ ร่วมให้รายละเอียดโครงการดังกล่าว โดยคณะผู้บริหาร ตัวแทนของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ทุกค่าย และนางเอกจิตอาสา ตัวแทนจากค่าย AIS “แต้ว” ณฐพร เตมีรักษ์ ได้ร่วมกดรหัส *948*1111*100# พร้อมกันบนเวที เพื่อเป็นการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ และเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้ครั้งยิ่งใหญ่นี้ ที่ลานเอเทรี่ยม ชั้น G สยามเซ็นเตอร์

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา เผยว่า “คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิรามาธิบดีฯ มุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศด้านสาธารณสุข เน้นการยกระดับและขยายขีดความสามารถในการให้บริการด้านการแพทย์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ โรงพยาบาลขนาด 460 เตียง ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการในส่วนคลินิกในเวลา และนอกเวลา อาทิ กุมารเวชกรรม จิตเวช จักษุวิทยา หน่วยเวชศาสตร์ฟื้นฟู หน่วยโรคกระดูกและข้อ อายุรกรรม เป็นต้น และในเดือนกรกฎาคมนี้ได้เปิดให้บริการในส่วนคลีนิกพิเศษนอกเวลาราชการ สูติ-นรีเวช มีผู้ป่วยนอกเข้ารับบริการเฉลี่ยวันละ 300–350 ราย ขณะนี้ ได้ย้ายผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องนอน (Admit) จากแผนกอุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลรามาธิบดี (พระราม 6) ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์จำนวนหนึ่ง และมีแผนที่จะนำผู้ป่วย ที่รอคิวนานในการผ่าตัด หรือผู้ป่วยที่รอคิวทำอัลตราซาวด์, CT Scan (ซีที สแกน) และ MRI Scan (เอ็มอาร์ไอ) ไปที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์เช่นกัน และเมื่อเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบกลางปี 2562 คาดว่าจะสามารถดูแลผู้ป่วยได้มากกว่า 1 ล้านรายต่อปี”

ขณะเดียวกัน สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์เมื่อเปิดให้มีการเรียนการสอนอย่างเต็มศักยภาพในปี 2564 จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ เพราะเป็นโรงเรียนสำหรับนักศึกษาแพทย์และพยาบาลอีกด้วย

พรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า มูลนิธิรามาธิบดีฯ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการระดมทุน โดยได้รับความร่วมมือและน้ำใจจากภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปมาตลอดระยะเวลากว่า 49 ปี โดยมูลนิธิฯ ได้นำเงินบริจาคที่ได้ไปช่วยเหลือผู้ป่วยผ่านโครงการต่างๆ ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

 

“โดยโครงการล่าสุดนี้ “กด=ต่อชีวิต” (กด เท่ากับ ต่อชีวิต) เป็นพลังบุญครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ 5 ค่าย ได้แก่ AIS, CAT, DTAC, TOT และ TRUE  ที่พร้อมใจกันสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดช่องทางใหม่ในการบริจาคผ่านทางมือถือ เพียงกดรหัส *948*1111*100# แล้วกดโทรออก ก็สามารถร่วมบริจาคครั้งละ 100 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ได้ทั้งระบบรายเดือน และเติมเงิน”

นอกจากนี้ มูลนิธิรามาธิบดีฯ ยังได้จัดทำภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ชุดล่าสุด “ต่อชีวิต” บอกเล่าเรื่องราวสะท้อนแนวคิดสำคัญของการสร้างโรงพยาบาล สร้างหมอ เพื่อต่อชีวิตผู้คนอีกหลายล้านคนที่รอความหวังในการรักษาอีกด้วย ซึ่งสามารถรับชมได้ที่ ยูทูป หรือเว็บไซต์ และ www.facebook.com/RamaGiveShop/

ร่วมกดมือถือ เพื่อต่อชีวิตให้ผู้ป่วยอีกหลายล้านคนได้ง่าย ๆ เพียงกดรหัส *948*1111*100# กดโทรออก เท่ากับคุณได้บริจาคครั้งละ 100 บาทเพื่อสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงเมษายน 2562 หรือบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิรามาธิบดีฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีกระแสรายวัน สาขารามาธิบดี เลขที่ 026-3-05216-3 ธนาคารกรุงเทพ บัญชีกระแสรายวัน สาขาศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ (รพ.รามาธิบดี) เลขที่ 090-3-50015-5 บริจาคออนไลน์ได้ที่ www.ramafoundation.or.th หรือ โทร. 0-2201-1111

 

 เพราะ “คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด”

 

 

Posted in NEWS
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.