รู้ไว้เถิดว่าความสุขที่แท้สร้างได้ เพราะสิ่งที่เรามองเห็น ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรามองหา!

การคิดลบทำให้เกิดความกลัว ซึ่งจะบั่นทอนแรงใจอย่างรุนแรง แม้ว่าความกลัวจะมีประโยชน์ในการสร้างแรงขับ เช่น กลัวสอบตกทำให้ขยันอ่านหนังสือ แต่พลังอันเกิดจากความกลัว ไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นพลังที่มีพื้นฐานมาจากการขาดสติ ยิ่งกลัว ยิ่งขาดสติ นอกจากนั้นแรงขับอันเกิดมาจากความกลัวยังไม่ยั่งยืน เช่น นักกีฬาที่ลงแข่งด้วยความกลัวแพ้ เขาจะขอแค่เสมอก็พอใจแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีจิตใจที่มุ่งมั่นต่อชัยชนะ เมื่อขาดจิตที่มุ่งมั่น ในที่สุดก็จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้

มีผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า ขณะที่คิดลบ ปริมาณเลือดไหลไปเลี้ยงสมองจะลดลงอย่างมาก อันเป็นผลเนื่องมาจากฮอร์โมนที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว เกิดความเครียด ความดันขึ้นสูง ตรงกันข้ามกับคนที่กำลังคิดบวก ในสมองจะมีแต่สารเอนดอร์ฟินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เลือดมาเลี้ยงสมองมากขึ้น มีความสุข มีสติ เกิดปัญญา แน่นอนว่า เมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น โครงข่ายใยประสาทก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจ ก็จะทำได้อย่างถูกต้อง

การสนใจหรือชื่นชมจุดที่ดี จุดที่เด่นของคนอื่นๆ ก็เป็นการป้อนโปรแกรมให้สมองเกิดการซึมซับคุณสมบัตินั้นไว้ และแสดงออกในอนาคต ทุกคนต้องมีส่วนเสีย แต่พยายามให้ความสนใจเฉพาะส่วนดี และนำส่วนนั้นเข้าสู่สมอง ดังนั้นการรู้จักเลือกมองแต่สิ่งที่ดีจะทำให้เห็นโอกาสในวิกฤติ ซึ่งจุดนี้สำคัญมากต่อการจะประสบความสุขความสำเร็จ เพราะทำให้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น การเห็นแบบนี้จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย “การคิดบวก” สรุปง่ายๆ ก็คือการคิดดี ทำให้มองเห็นด้านดีของทุกสิ่ง การมองเห็นด้านที่ดี ก็คือการมองเห็นโอกาสที่จะพาชีวิตก้าวไปสู่ความสำเร็จ

อยู่กับปัจจุบัน

กว่า 80% ของความทุกข์ของคนเราเกิดจากการไปนึกถึงสิ่งที่ผ่านเลยมาแล้ว และการนึกถึงหรือคิดกังวลถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อีก 20% เป็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังนั้นถ้าสามารถกำหนดจิตไว้ที่ปัจจุบัน ความทุกข์ก็จะลดลงอย่างมาก การพยายามคิดวนเวียนอยู่กับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ไม่ได้จะทำให้สูญเสียพลังความคิดอยู่ตลอดเวลา เหมือนรถที่เหยียบคันเร่งตอนเกียร์ว่าง และเมื่อต้องออกรถก็จะควบคุมทิศทางได้ยาก นอกจากนั้นการคิดวนเวียนไปมาถึงอดีตจะทำให้สูญเสียโอกาสในอนาคต ยกตัวอย่างเช่นคนที่กำลังจะข้ามถนน บังเอิญขณะถนนว่างข้ามไม่ทัน แล้วก็มานั่งเสียดายว่าทำไมตอนนั้นไม่ข้าม คิดซ้ำๆ วนไปวนมา ในขณะที่ละเลยโอกาสที่กำลังจะมาถึงข้างหน้าอีกมากมาย ถ้าเราเห็นคนที่คิดแบบนี้ ในขณะข้ามถนนก็จะถือว่ามีอาการทางจิต แต่สำหรับชีวิต การคิดวนเวียนเสียดายโอกาสที่น่าจะได้ แต่ไม่ได้และมันผ่านไปแล้ว กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว คนที่คิดแบบนี้ก็มีสภาพจิตที่น่าเป็นห่วงเช่นกันค่ะ

>>อ่านต่อหน้าถัดไป<< 

Posted in MIND
BACK
TO TOP
Alternative Text
pant
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.