รู้จัก “แอนโทไซยานิน” Super Food สีม่วง เทรนด์สุขภาพมาแรงล่าสุด
ในตอนนี้เทรนด์สุขภาพดีกำลังมาแรงเลยนะคะ คนทุกเพศทุกวัยในยุคปัจจุบันเริ่มหันมาสนใจและใส่ใจเรื่องสุขภาพ ความสวยความงามกันมากขึ้น ซึ่งนอกจากเรื่องของการออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหารก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราสุขภาพดีขึ้นได้ และถ้าพูดถึงการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี แน่นอนว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องการทานผักผลไม้ให้ครบเจ็ดสี หรือ Rainbow Eating กันมาบ้าง
สำหรับ Rainbow Eating นั้นเป็นตัวช่วยให้เราร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส แต่รู้ไหมว่ามีกลุ่มอาหารอยู่สีหนึ่งที่คนทั่วโลกได้รับเข้าร่างกายในปริมาณน้อยมากๆ นั่นก็คือสีม่วง ที่อุดมไปด้วยสารไฟโตนูเทรียนท์ที่ดีต่อสุขภาพ นั่นคือ แอนโทไซยานิน Goodlifeupdate เลยอยากมาบอกเล่าถึงประโยชน์ของตัวช่วยที่ทำให้เราสุขภาพดีอย่าง แอนโทไซยานิน ให้ทุกคนได้ฟังกัน
แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) คือ สารสำคัญธรรมชาติในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) พบได้มากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะเขือม่วง มันเทศสีม่วง ดอกอัญชัญ มีคุณประโยชน์มากมายหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการสารอาหารอย่างไขมันและน้ำตาลภายในหลอดเลือด
- ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร
- ปกป้องอวัยวะสำคัญต่างๆ รวมถึง ตับและหัวใจ
- ต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
- มีส่วนช่วยควบคุมการอักเสบในร่างกาย และส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
- ส่งเสริมการเผาผลาญพื้นฐานของร่างกาย
แม้ว่า แอนโทไซยานิน จะมีคุณประโยชน์มากมายอย่างที่บอกไป แต่ในชีวิตประจำวันทั่วไปเราคงไม่สามารถรับแอนโทไซยานิน ได้ง่ายๆ ถึงจะพยายามหาผลไม้สีม่วงมาทาน ก็คงต้องทานเป็นปริมาณมากๆ และทานอาหารหลากหลายชนิด จึงจะได้รับแอนโทไซยานิน ไม่ต่ำกว่า 200 มิลลิกรัม/ต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ถูกวิจัยมาแล้วว่า ร่างกายของเราควรได้รับเท่านี้ถึงจะดีต่อสุขภาพ และที่สำคัญเมื่อเราทานอาหารมากไปก็จะทำให้ได้รับแป้งและน้ำตาลที่มากเกินเป็นของแถมตามมาอีกด้วยนะคะ
ด้วยเหตุนี้ จึงนำไปสู่การค้นคว้า ศึกษา และวิจัยเพื่อหาแหล่งที่ให้ แอนโทไซยานิน ในปริมาณที่สูง มีคุณภาพของสารสำคัญต่างๆ ที่สูงตามไปด้วย และจากการคัดเลือกอาหารเกือบร้อยชนิด พบว่าสารสกัดจาก แบล็คไรซ์ แบล็คเคอแรนท์ และ บิลล์เบอรี่ คือ ส่วนผสมที่ดีเยี่ยมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ
โดยการวิจัยทางวิทยาศาสตร์นั้นล้ำหน้า ทำให้มองรู้ลึกและเห็นว่าสารอาหารมีผลต่อการแสดงออกของยีนของร่างกายอย่างไร ผ่านเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “เอจล็อค (ageLOC)” ซึ่งใช้ “ยีน ชิป (Gene Chip)” ในการวิจัย ทำให้พบว่าสารสกัดธรรมชาติจาก 3 แหล่งนี้ในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม จะให้ผลลัพธ์ที่ดีต่ออวัยวะต่างๆ มากกว่าจากจากแหล่งอื่นๆ ที่นำมาวิจัยร่วมกัน
การค้นพบนี้จึงเป็นทางเลือกสุขภาพของคนในยุคปัจจุบัน เพราะวิถีชีวิตที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยความเครียด ไม่แปลกที่ปัญหาอย่าง การจัดการสารอาหารภายในหลอดเลือดจะไม่สมดุลอย่างที่ไม่รู้ตัว และนำไปสู่ภาวะสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์อีกมากมาย… รู้อย่างนี้แล้วหาเวลา “รีเซต” สุขภาพด้วยทางเลือกธรรมชาติกันดีกว่านะทุกคน
อ๊ะๆ ยังไม่หมดเท่านี้! เพราะมีคำบอกเล่าจาก ด็อกเตอร์ เทคนิคการแพทย์หญิง ชวนชม มวลประสิทธ์พร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งท่านที่เสริมอาหารด้วย แอนโทไซยานิน ที่เล่าว่า “แอนโทไซยานิน ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในยุคปัจจุบัน เนื่องจากเราต้องเร่งรีบ ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทั้งยังต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมเป็นเวลาหลายชั่วโมงทำให้เคลื่อนไหวน้อย และไม่ค่อยได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ ประกอบกับมีความเครียดสูง จนสมดุลของร่างกายถูกทำลาย และแน่นอนว่าตัวเองก็มีไลฟ์สไตล์แบบนี้เหมือนกัน”
“แต่หลังจากที่เสริมแอนโทไซยานินอย่างต่อเนื่อง ทำให้รู้สึกได้ถึงความสดชื่นของร่างกายที่มากขึ้น ความอ่อนล้าลดลง แม้จะเผชิญกับความเครียดที่มากขึ้นด้วยซ้ำ ระบบขับถ่ายที่ดีขึ้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระต้นเหตุสำคัญความเสื่อมชราของร่างกาย ปกป้องร่างกาย ลดความเสี่ยงสุขภาพของเราในอนาคต อย่างไรก็ดี เราต้องทำควบคู่กับการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ”
สุดท้ายนี้ อยากฝากว่า “ป้องกันดีกว่ารักษา” เราควรจริงจังที่จะ “รีเซต” การดูสุขภาพตัวเองตั้งแต่วันนี้ อย่ารอให้สายเกินแก้ เพราะสุขภาพที่ดีต้องเริ่มจากภายใน
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
- 5 วิธีถนอมสายตา เมื่อเจอแสงจ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
- 7 สัญญาณ สุขภาพผิว ที่บ่งบอกว่าผิวของเราต้องการการดูแลด่วน
- อาการปวดแบบนี้ ปวดกระดูก หรือปวดกล้ามเนื้อกันแน่นะ?
- แก้ปวดหัวไมเกรน ด้วยการปรับพฤติกรรมเสี่ยงและเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
- 5 วิธีดูแลตัวเอง เมื่อเราต้องเผชิญกับการนอนน้อย นอนดึก
- มาสำรวจตัวเองกันหน่อย คุณเป็นโรคนิ้วล็อกอยู่หรือเปล่า?
- ระวังเอาไว้! “นั่งนาน” เกินไป นอกจากปวดบ่า ไหล่ หลัง แล้วยังทำให้ชีวิตสั้นลง