บัตรเครดิต

5 วิธีใช้บัตรเครดิต ใช้แบบไหนถึงจ่ายไหว ไม่สร้างหนี้เพิ่ม

5 วิธีใช้บัตรเครดิต ใช้แบบไหนถึงจ่ายไหว ไม่สร้างหนี้เพิ่ม

เชื่อว่าวัยทำงานในยุคสมัยนี้ น่าจะมี บัตรเครดิต ติดตัวกันอย่างน้อยคนละหนึ่งใบ ไม่ว่าจะสมัครเพื่อสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ทั้งใช้รูดซื้อสินค้าเพื่อความสะดวก ใช้แทนเงินสด สะสมแต้ม หรือมีไว้เพื่อให้อุ่นใจในยามคับขัน แน่นอนว่าการใช้บัตรเครดิตนั้นมีประโยชน์หลากหลาย แต่ก็มีโทษมากมายเช่นกันหากว่าเราใช้มันแบบเกินตัวและไม่ถูกต้อง

และเพื่อไม่ให้การใช้บัตรเครดิตกลายเป็นฝันร้าย ต้องนำรายได้ส่วนใหญ่ไปใช้หนี้เพราะหลงใช้รูดซื้อของเกินตัวและเกินจำเป็น วันนี้เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บัตรที่ถูกต้องมาบอกต่อกัน

วิธีใช้บัตรเครดิต

1.กำหนดวงเงินก่อนใช้บัตรเสมอ

ก่อนจะใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายสิ่งของเราควรกำหนดเงินงบประมาณในแต่ละเดือน เพื่อไม่ให้ตัวเองใช้เงินเกินตัว ซึ่งงบที่ควรตั้งไว้ก็คือไม่ใช้บัตรเครดิตเกิน 30% ของเงินเดือน ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นรายจ่ายที่พอเหมาะและพอดี การทำแบบนี้แน่นอนว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เรารูดเพลินจนเกินกำลัง

2.ใช้บัตรเครดิตผ่อนสินค้า 0%

หากต้องการซื้ออะไรสักอย่าง โดยที่ไม่สามารถชำระเงินเต็มจำนวนได้ ก็ควรเลือกซื้อแบบที่มีให้ผ่อนชำระแบบ 0% เราจะได้ไม่ต้องเป็นคนรับภาระในการชำระดอกเบี้ยในแต่ละเดือน

3.ไม่ควรเลือกกดเงินสดจากบัตร

เพราะว่าการกดเงินสดจากบัตรนั้นจะมีดอกเบี้ยในการกดเงินสูงกว่าการรูดใช้จ่ายหรือซื้อสิ่งของ แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นจริงๆ เราก็ควรศึกษาข้อมูลดอกเบี้ยที่จะเสียให้ดีก่อนที่จะกดเงินสดออกมาใช้

4.ศึกษาและใช้สิทธิประโยชน์ของบัตร

หากศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดว่าบัตรเครดิตที่เราถืออยู่นั้นทำอะไรได้บ้าง สะสมแต้ม แลกคะแนน หรือใช้เป็นส่วนลด ก็จะสามารถเพิ่มประโยชน์ในการเลือกซื้อให้กับเราได้ บางครั้งอาจทำให้เราได้สินค้าในราคาที่ถูกกว่าการซื้อด้วยเงินสดเสียอีก

5.รู้วันสรุปรอบบัญชี/วันครบกำหนดชำระ

การรู้วันสรุปรอบบัญชีและวันครบกำหนดชำระนั้นมีความสำคัญ เพราะหากชำระเงินคืนเต็มจำนวนภายในวันครบกำหนดชำระ จะทำให้เราไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เนื่องจากยังอยู่ระยะปลอดดอกเบี้ย (จำนวนวันขึ้นอยู่กับธนาคารผู้ออกบัตรกำหนด) อย่างเช่น หากธนาคารผู้ออกบัตรเครดิต กำหนดระยะปลอดดอกเบี้ย 45 วัน ให้เริ่มนับตั้งแต่วันสรุปรอบบัญชีบัตรเครดิตนี้ไป 45 วัน โดยวันที่ 45 จะเรียกกันว่า วันครบกำหนดชำระ หรือวันที่เราต้องจ่ายเงินนั่นเอง

ข้อมูลจาก : KTC

บัตรเครดิต-การเงิน

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.