น้ำมันมะพร้าว ไอเท็มสวยตั้งแต่หัว จรดเท้า

น้ำมันมะพร้าว ไอเท็มสารพัดประโยชน์

สาวๆ หลายคนอาจเคยทราบถึงคุณประโยชน์ของการดื่มน้ำมะพร้าวกันมาบ้างแล้ว แต่พอจะมีใครทราบอีกมั้ยคะว่า ‘ ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว ‘ ที่ได้มาจากการสกัดเนื้อผลมะพร้าวนั้น ก็ให้ข้อดีต่อร่างกายคุณไม่แพ้น้ำมะพร้าวหอมๆ อร่อยๆ เลยเชียวล่ะ!

จะเห็นว่าทุกวันนี้เริ่มมีผู้หญิงหลายคน หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่จะสามารถช่วยปกป้องร่างกายของคุณให้ห่างไกลจากสารเคมีต่างๆ ได้ ฉะนั้น “น้ำมันมะพร้าว” จึงถูกคัดมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการช่วยดูแลร่างกายหลายๆ ส่วน วันนี้เราเลยจะพาไปดูกันดีกว่าว่า น้ำมันมะพร้าวดีอย่างไร

น้ำมันมะพร้าวคืออะไร

น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil) คือ น้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันจากเนื้อผลของมะพร้าว (Cocos nucifera L.) โดยองค์ประกอบหลักของน้ำมันมะพร้าวคือกรดไขมันอิ่มตัว ขนาดโมเลกุลปานกลาง เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะเผาผลาญได้ดี จึงสะสมในเนื้อเยื่อไขมันน้อยกว่ากรดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลยาว

ส่วนที่เคยข้องใจกันว่า กินน้ำมันมะพร้าวแล้วทำให้น้ำหนักลด มีการศึกษาพบว่าน้ำมันมะพร้าวไม่มีผลต่อการลดลงหรือเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว และไม่ได้ทำให้ไขมันชนิดเลว (LDL) เพิ่มมากขึ้น แต่ช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) จึงมีผลโดยตรงต่อการช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

ประเภทของน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าว สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ น้ำมันมะพร้าวสกัดร้อน และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์หรือน้ำมันมะพร้าวบีบเย็น

              1. น้ำมันมะพร้าวสกัดร้อน หรือ  RBD ซึ่งมาจาก 3 กระบวนการ คือ Refining หมายถึง ทำให้บริสุทธิ์, Bleaching การฟอกสี และ Deodorization กำจัดกลิ่น เป็นน้ำมันมะพร้าวที่สกัดได้จากเนื้อมะพร้าวห้าวโดยการบีบหรือใช้ตัวทำละลายแล้วจึงนำมาผ่านความร้อนสูง รวมถึงกระบวนการ จึงเรียกว่าเป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดร้อน

น้ำมันมะพร้าวหลังผ่านกระบวนการ RBD และเหมาะสำหรับนำมาทานนั้นจะมีสีเหลืองอ่อน ไม่มีกลิ่นและรสชาติ ปราศจากวิตามินอี มีปริมาณกรดไขมันอิสระไม่เกิน 0.1 %

              2. น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (cold-pressed coconut oil) เป็นน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการกระบวนการบีบเนื้อมะพร้าวสด แต่ไม่ผ่านความร้อนสูง นับได้ว่าเป็นน้ำมันมะพร้าวที่มีความบริสุทธิ์ สีใสเหมือนน้ำ มีวิตามินอี มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะพร้าว ไม่เพียงเท่านั้น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นยังมีสารอาหารและแร่ธาตุ มากกว่าน้ำมันมะพร้าว แบบอื่นๆ

ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวใช้ในการหมักผม

หลายคนในตอนนี้อาจกำลังประสบกับปัญหาน่ารำคาญใจเกี่ยวกับเส้นผม อาทิ ผมชี้ฟู ผมขาดร่วง หรือผมแห้งเสีย จากการถูกความร้อนหรือสารเคมีทำร้าย การใช้น้ำมันมะพร้าวในการหมักผม จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้อาการเหล่านี้ลดลงและดีขึ้นได้ อย่างเช่น การใช้น้ำมันมะพร้าวปริมาณ 1-2 ช้อนชา ชโลมลงบนเส้นผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็จะสามารถช่วยให้เส้นผมดูเงางาม  นุ่มสลวย และแข็งแรงยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

น้ำมันมะพร้าวใช้เป็นคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้า

สาวๆ ผิวแพ้ง่ายบางคน อาจจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติล้วน หรือให้ความอ่อนโยนสูง เพราะถือเป็นการหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ผสมมากับเครื่องสำอางต่างๆ หลายคนจึงเลือกใช้น้ำมันมะพร้าว แทนคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้าทั่วไป เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีโมเลกุลขนาดเล็ก และเป็นน้ำมันที่ช่วยละลายเมคอัพต่างๆ บนผิวหน้าได้ดี เพียงแค่เหยาะน้ำมันมะพร้าวลงบนสำลี เช็ดให้ทั่วใบหน้า ตามด้วยโฟมที่ใช้อยู่เป็นประจำ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เพียงเท่านี้ก็ได้ใบหน้าที่สะอาดหมดจดคืนกลับมาแล้วล่ะค่ะ

น้ำมันมะพร้าวใช้บำรุงผิว

เราทุกคนต่างมีสภาพผิวที่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้น การดูแลผิวของแต่ละคนจึงย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย การใช้น้ำมันมะพร้าวในการบำรุงผิว จะมีส่วนช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวแห้งกร้าน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยบำรุงซ่อมแซมเซลล์ และยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรง โดยการเทน้ำมันมะพร้าวลงบนฝ่ามือ แล้วชโลมลงบนลำตัวที่ยังไม่แห้ง จากนั้นค่อยๆ ซับด้วยผ้าขนหนู แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะตัวได้

น้ำมันมะพร้าวช่วยในการรักษาสิว

หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า น้ำมันมะพร้าวจะช่วยรักษาสิวได้อย่างไร ในเมื่อน้ำมันก็คือต้นเหตุของการเกิดสิว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว น้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก สามารถช่วยขจัดแบคทีเรียบนใบหน้า อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว แถมยังช่วยลดการอักเสบของสิวได้ นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังมีวิตามินอีและวิตามินเค ช่วยลดรอยแผลเป็นหลังการเกิดสิว ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำมัน แต่น้ำมันมะพร้าวนั้นเหมาะกับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ผิวบอบบาง รวมไปถึงช่วยในการรักษาสิวทุกประเภทอีกด้วย

น้ำมันมะพร้าวช่วยทำความสะอาดช่องปาก

แทบจะทุกคนที่อาจยังไม่ทราบว่า น้ำมันมะพร้าวสามารถใช้ในการบ้วนปาก เพื่อขจัดแบคทีเรีย และช่วยลดปัญหาการเกิดกลิ่นปากได้ เนื่องจากในปากของคนเรานั้นเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา ซึ่งปากถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดี และยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเศษอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เพราะฉะนั้น การแปรงฟันและบ้วนปากด้วยน้ำยาจึงอาจยังไม่เพียงพอ การอมบ้วนปากด้วยน้ำมันมะพร้าววันละหนึ่งครั้ง ครั้งละ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยขจัดสิ่งเหล่านี้ออกไปได้

น้ำมันมะพร้าวใช้กินเพื่อสุขภาพ

เมื่อพูดถึงน้ำมัน หลายคนอาจจินตนาการถึงความอ้วนที่กำลังคืบคลานตามมา แต่หารู้ไม่ว่า น้ำมันบางชนิดนั้นก็กลับให้ผลดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันที่มีโมเลกุลขนาดปานกลางอย่างน้ำมันมะพร้าว ส่งผลให้เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว ร่างกายจะสามารถดูดซึมและเผาผลาญได้เป็นอย่างดี อีกทั้งในน้ำมันมะพร้าวยังให้พลังงานมาก ช่วยให้อิ่มเร็ว และอิ่มนานขึ้น มีส่วนทำให้รับประทานอาหารน้อยลง โดยเราสามารถใช้ประกอบอาหาร หรือจะใช้รับประทานเป็นอาหารเสริมก็ได้ เพียงวันละ 3-4 ช้อนชา แบ่งรับประทานเป็นมื้อๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกใช้น้ำมันมะพร้าวให้ได้ประโยชน์สูงสุด จึงควรเลือกแบบสกัดเย็น 100% ซึ่งจะไม่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อนสูง หรือกระบวนการแปรรูปทางเคมีชนิดใด ๆ ทำให้เราได้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์อย่างแท้จริงนั่นเองค่ะ

เลือกน้ำมันมะพร้าวอย่างไร

การเลือกน้ำมันมะพร้าวบำรุงผิว ควรเลือกจากลักษณะของน้ำมันมะพร้าวเป็นหลัก โดยน้ำมันมะพร้าวที่ดีควรมีลักษณะ

• ใส ไม่มีสี
• โปร่งใส
• ไม่ตกตะกอน

หากพบว่าน้ำมันมะพร้าวมีไขมันเยอะหรือมีตะกอนมากเกินไป อาจเป็นไปได้ว่ามีน้ำมันที่ผ่านจุดหลอมเหลวสูง หรือน้ำมันมะพร้าวสกัดร้อนปะปนมาด้วย นอกจากลักษณะของน้ำมันมะพร้าวแล้ว อีกสิ่งที่ควรดูประกอบการเลือกซื้อคือ ตรามาตรฐานการผลิต ซึ่งจะช่วยยืนยันความมั่นให้กับผู้บริโภคได้

ข้อควรระวังของน้ำมันมะพร้าว

• แม้จะเป็นไขมันอิ่มตัว แต่น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นก็มีข้อเสีย คือ ไม่ควรกินไขมันในแต่ละวันให้เกิน 100 กรัม บวกลบกับอาหารประเภทอื่น ๆ ที่กินเข้าในแต่ละวัน ของมื้ออาหารด้วย ถ้าหากในมื้ออหารนั้น ๆ เรากินไขมันเป็นส่วนใหญ่ ควรกินน้ำมันมะพร้าวไม่ควรเกิน 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้ร่างกายเกิดการสมดุลมากที่สุด
• หากกินน้ำมันมะพร้าวที่มากจนเกินไป หรือเกิน 4 ช้อนโต๊ะต่อวัน จะทำให้น้ำหนักขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว เพราะได้รับไขมันเกินความต้องการในแต่ละวัน
• น้ำมันมะพร้าวเป็นเพียงแค่อาหารเสริม เนื่องจากมื้ออาหารในแต่ละวัน มีไขมันที่เพียงพอต่อร่างกายอยู่แล้ว
• น้ำมันมะพร้าวไม่เหมาะสำหรับปรุงอาหารบางประเภท โดยเฉพาะกับอาหารที่มีปริมาณน้ำมันมากอยู่แล้ว

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ผิวใส ไร้ริ้วรอย จุดด่างดำ เซรั่มวิตามินซีช่วยคุณได้

น้ำซาวข้าว ตำรับความสวย ยุคคุณยายยังสาว

ทานาคา สมุนไพร ประทินผิวสวย