นอนกลางวัน พอดีๆ มีประโยชน์ต่อสมอง
นอนกลางวัน ฟังดูเหมือนเป็นกิจกรรมของคนขี้เกียจ ของๆเด็กหรือคนแก่ แต่จริงๆ แล้วผู้มีชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหลายคน เช่น วินสตัน เชอร์ชิลด์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ก็ยังชอบงีบกลางวันกัน
โดยปกติแล้วการนอนของเรามี 2 แบบ คือ นอนตอนกลางคืนตามนาฬิกาชีวิตมนุษย์ โดยการนอนตอนกลางวัน หรือที่เรียกว่า ‘power nap’ เป็นการนอนเพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อน ซึ่งได้ผลเช่นเดียวกับการนอนตอนกลางคืน
การนอนกลางวัน ช่วยให้ร่างกายได้พักและดึงความจำที่รับเข้ามาในช่วงเช้าเข้าไปอยู่ในสมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ โดยคุณหมอตนุพล วิรุฬหการุญ ผู้เขียนหนังสือนอนถูกวิธี สุขภาพดีตลอดชีวิต ให้คำแนะนำเรื่องการนอนกลางวันเพื่อปลุกพลังสมองว่า ให้นอนประมาณ 30 – 45 นาทีและไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง เพื่อไม่กระทบการนอนกลางคืน
โดยมีงานวิจัยของ ดร. ฮาร์วี ไซมอน (Harvey Simon) ผู้ก่อตั้งวารสาร Harvard Men’s Health Watch ในเครือ Harvard Health Publishing กล่าวว่า
การงีบหลับระหว่างวันของผู้มีอายุ 50 ปีชึ้นไป หากเป็นไปโดยสมัครใจ คือไม่ได้เกิดจากการอดนอนตอนกลางคืน จะถือเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยอ้างจากผลการศึกษาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจำนวน 200 คน ที่ทำงานวันละ 9 ชั่วโมง รวม 8 วัน พบว่า คนที่ได้งีบหลับวันละ 40 นาที จะมีความตื่นตัวและประสิทธิภาพการรทำงานดีขึ้น อีกการศึกษาหนึ่งซึ่งศึกษากลุ่มคนที่ทำงานเป็นกะ กับอาสาสมัครอื่นๆ พบว่า คนที่ได้งีบหลักวันละ 20 นาที จะมีความตื่นตัว ประสิทธิภาพ ทักษะ และอารมณ์ดีขึ้น

ดังนั้น การนอนกลางวันจึงเป็นตัวเสริมชั้นดีสำหรับคนที่จำเป็นต้องนอนน้อย หรือนอนกลางคืนไม่พอ เพราะการนอนกลางวัน 30 นาที จะมีค่าเท่ากับการนอนกลางคืน 2 ชั่วโมง ดังนั้น หากรู้สึกเหนื่อย เมื่อยล้า สมองใช้ทำงานมาก ควรนอนกลางวันสักหน่อยเพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แต่การนอนหลับวิธีนี้ร่างกายจะไม่ได้สร้างโกรทฮอร์โมนเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ดังนั้น การนอนกลางวันจึงไม่ใช่เป็นการนอนเพื่อซ่อมแซมร่างกาย แต่เปฺ็นการนอนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เป็นการชาร์จแบตสมอง
ช่วงเวลานอนกลางวันที่เหมาะสมคือเวลา 13.00 – 16.00 น. หากนอนกลางวันเกิน 1 ชั่วโมงและนอนหลัง 16.00 น. จะทำให้เกิดความเฉื่อย และส่งผลต่อระบบสมดุลการนอนหลับ ทำให้นอนตอนกลางคืนไม่หลับ
เทคนิคนอนกลางวัน แบบเจ้านายไม่ว่า
- งีบหลับประมาณ 20-25 นาที เพื่อให้ร่างกายได้รู้สึกว่านอนพอสมควร ซึ่งสามารถทดแทนการนอนได้ถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
- บอกหัวหน้างานว่า ช่วงเวลาพักของีบหลับที่โต๊ะสัก 20 นาที เพื่อให้หัวหน้าได้รับทราบ หรือแปะโน้ตไว้ที่โต๊ะ ว่าจะตื่นขึ้นมาภายในเวลากี่โมง เพื่อแจ้งให้คนอื่นๆ ได้ทราบด้วย
- มีหมอนเล็กๆ ผ้าห่มเล็กๆ สักผืนติดโต๊ะไว้เพื่อให้การนอนกลางวันของคุณสบายมากขึ้น
- อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เพื่อจะได้ไม่นอนเกินเวลาพัก
- ควรงีบก่อนแล้วจึงกินข้าวกลางวัน เช่น งีบตั้งแต่เวลา 12.00 -12.20 แล้วหลังจากนั้นจึงไปกินข้าว
- ไม่ควรนอนราบกับพื้นหรือใช้บริเวณรับรองแขกของแผนกนอน แนะนำว่านอนฟุบกับโต๊ะจะดีกว่า