คำถามชวนดราม่า

คำถามชวนดราม่า ที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากกลายเป็นคนผิดกาลเทศะ

คำถามชวนดราม่า ที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากกลายเป็นคนผิดกาลเทศะ

คำถามบางคำถามอาจกลายเป็น ” คำถามชวนดราม่า ” ได้ หากเลือกใช้ผิดที่ ผิดเวลา ผิดกาลเทศะ มาดูกันว่ามีคำถามอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้เรากลายเป็นคนที่เสียมารยาทและล่วงละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วคุณจะพบว่าหลายคำถามคือคำถามที่เราได้ยินกันบ่อยครั้งในชีวิตประจำวันนี่เอง

 

::: น้ำหนักเท่าไหร่ / อ้วนขึ้นหรือเปล่า / เมื่อไหร่จะผอม :::

หากเรากำลังรู้สึกไม่มั่นใจกับน้ำหนักของตัวเอง และถูกถามคำถามนี้ เราคงรู้สึกอึดอัดใจที่จะตอบใช่ไหมล่ะคะ

บางคำถามไม่จำเป็นต้องถามก็ได้ หรือหากต้องการแนะนำหรือให้คำปรึกษา ก็ควรเลือกใช้คำให้เหมาะสม สุภาพ และไม่เป็นการล่วงเกิน หรือสร้างความอึดอัดลำบากใจให้กับผู้ฟัง

การถามเกี่ยวกับน้ำหนัก หรือการแสดงความคิดเห็นถึงรูปร่างหน้าตาของผู้อื่นนั้น จึงเป็นสิ่งที่ต้องระวังให้มากค่ะ

 

::: ไปทำอะไรมา ทำไมดำขึ้น / ทำไมสิวขึ้น / ทำไมโทรม :::

นอกจากการถามเรื่อง “รูปร่าง” แล้ว คำถามเกี่ยวกับ “หน้าตา” ก็เป็นคำถามยอดนิยมที่ทำให้ผู้ถูกถามรู้สึกเสียความมั่นใจ

 

::: ชอบผู้ชายใช่ไหม / เป็นตุ๊ดใช่ไหม / ชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย / “เป็น” ใช่ไหม :::

คำถามแนวนี้นอกจากจะเสียมารยาท สร้างความอึดอัดลำบากใจให้ผู้ตอบแล้ว ยังเป็นการไม่เปิดกว้างให้กับความหลากหลายทางเพศอีกด้วย

 

::: ทำไมถึงยังไม่มีแฟน :::

คนเรามีสิทธิและเสรีภาพที่จะเลือกใช้ชีวิตตามแบบที่เราต้องการได้ อย่านำบรรทัดฐานของตัวเองมาตัดสินและตีกรอบการใช้ชีวิตของคนอื่น คนทุกคนไม่จำเป็นต้องมีแฟน คนที่ไม่มีมีแฟนก็ไม่ใช่คนที่ไม่สวย หน้าตาไม่ดี หรือนิสัยแย่ คนเรามีสิทธิ “เลือก” ว่าจะมีหรือไม่มีแฟนก็ได้ และสามารถมีความสุขกับความโสดนั้นได้ค่ะ

 

::: ทำไมถึงคบกับแฟนคนนี้ / ทำไมถึงเลิกกับแฟนเก่า / ลืมแฟนเก่าได้หรือยัง / แฟนเก่ามีคนใหม่หรือยัง :::

คู่รักบางคู่จบความสัมพันธ์กันไปด้วยดี แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่จากกันด้วยความเจ็บปวดเสียใจ การหยิบยกประเด็นละเอียดอ่อนนี้ขึ้นมาพูดถึงอีก อาจจะเป็นการกวนน้ำให้ขุ่น ทำให้ความรู้สึกที่ดีขึ้น สงบนิ่งขึ้นแล้ว กลายเป็นขุ่นมัวขึ้นมาอีก

ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องระหว่างคนสองคนต่อไปดีกว่าค่ะ ถ้าเขาไม่ได้ยกประเด็นนี้ขึ้นมาปรึกษาเรา หรือไม่ได้ขอความคิดเห็นจากเรา หลีกเลี่ยงการถามเรื่องนี้ดีกว่านะคะ

 

::: เมื่อไหร่จะแต่งงาน :::

ทุกสิ่งทุกอย่างมีเวลาที่เหมาะสมของมันเอง เรื่องการแต่งงานก็เช่นกัน คู่รักทุกคู่ไม่จำเป็นจะเดินไปสู่จุดหมายที่การแต่งงานเสมอไป และการแต่งงานก็ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ว่าความรักจะยั่งยืนตลอดไปอีกด้วย คู่รักทุกคู่มีสิทธิที่จะเลือกใช้ชีวิตตามแบบที่ตนเองต้องการ เลือกที่จะแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ และสามารถเลือกช่วงเวลาที่อยากแต่งงานด้วยตนเอง

การถามว่า “เมื่อไหร่จะแต่งงาน” ซ้ำแล้วซ้ำอีก บางครั้งอาจกลายเป็นการกดดันคู่รักไปเสียอีกค่ะ

 

::: เมื่อไหร่จะมีลูก :::

เราไม่อาจคาดเดาคำตอบได้เลยว่าเพราะเหตุคู่รักคู่นี้จึงไม่มีลูกด้วยกันเสียที อาจเกิดจากความไม่พร้อม เกิดจากปัญหาด้านสุขภาพ หรืออาจเกิดจากเหตุผลว่า “ไม่อยากมีลูก” การถามซักไซ้ เซ้าซ๊้บ่อยครั้งว่าเมื่อไหร่จะมีลูก บางครั้งอาจกลายเป็นคำถามที่น่ารำคาญ และสร้างความอึดอัดใจให้ผู้ฟังได้ค่ะ

 

::: ทำไมต้องประหยัดขนาดนั้น / ทำไมเงินเดือนน้อย / ทำไมเงินเดือนไม่พอใช้ล่ะ / เงินเดือนพอใช้หรือเปล่า / เป็นหนี้เหรอ :::

บางบริษัทมีการออกกฎไม่ให้เปิดเผยเงินเดินหรือค่าตอบแทนให้กับผู้อื่น เนื่องจากเรื่องเงินเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และเป็นข้อมูลส่วนตัว หลายคนจึงไม่อยากเปิดเผยจำนวนเงินให้ใครทราบ บางคนมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่ก็อาจจะไม่อยากให้ใครรู้ ไม่อยากให้ใครถามถึง คำถามประเภทนี้จึงเป็นอีกคำถามที่ต้องระมัดระวังค่ะ

 

แต่ละคำถามมีความอ่อนไหว เลือกถามคำถามตามความเหมาะสม ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกาลเทศะ และอย่าลืมนึกถึงใจเขาใจเราให้มากๆ ให้มากๆ นะคะ

 

บทความที่น่าสนใจ

6 คำพูดติดปาก ที่ควรคิดก่อนใช้เพื่อ รักษาความสัมพันธ์

ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น

 

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.