ลิขิตชีวิตเอง

True Story : เราคือผู้ ลิขิตชีวิตเอง เรื่องจริงของผู้หญิงที่กำลังต่อสู้อยู่กับกรรม

 

เมื่อไปถึงก็จริงดังคาด ฉันเห็นสามีอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ ฉันทั้งตกใจ และเสียใจแต่จำต้องกลั้นน้ำตา และเดินเข้าไปหาสามีเพื่อจะพูดคุยกันให้เข้าใจ ฉันให้เขาเลือกว่าอยากใช้ชีวิตอยู่กับใคร หากยังรักฉันและลูก ฉันก็พร้อมให้อภัย แต่ถ้าหากหมดรัก ฉันเองก็จะไม่รั้งไว้ และขอเป็นคนรับผิดชอบลูกๆ เอง ท้ายที่สุดเขาก็เลือกอยู่กับฉันและลูก พร้อมทั้งกล่าวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ และสัญญาว่าจะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก

เรากลับมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันดังเดิม เขาพยายามกลับบ้านบ่อยขึ้น ส่วนฉันก็พยายามดูแลตัวเอง ไม่โหมงานหนักจนผิวหนังกร้านดำไม่น่าดูเหมือนเมื่อก่อน หลังจากนั้นไม่นานฉันก็ให้กำเนิดลูกคนที่สาม สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวเราจึงยิ่งตึงเครียด

ฉันต้องประหยัดอดออมและตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในทุกด้าน ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงไม่มีเงินไปซื้อของเล่นและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ลูก ฉันสงสารพวกเขาจับใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องเก็บเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นกว่า

ครั้นจะให้ลูกไปแบ่งของเล่นกับลูกๆ ของพี่ชาย เขาก็รังเกียจ เพียงแค่เห็นลูกของฉันเดินไป พวกเขาก็เก็บของเดินหายกันไปหมด ครั้งหนึ่ง ฉันเห็นลูกๆ เดินผ่านรถคันใหม่ของพี่เขย ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเดินพ้นรถ พี่เขยก็ยกน้ำขึ้นมาสาดรถ พลางตะโกนต่อว่าดังลั่นว่าอย่าเดินผ่านรถของเขาให้เสียราศี เหตุการณ์นี้ทำให้ฉันต้องปรึกษากับสามีว่าเราคงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ เพราะนอกจากแม่ของสามีแล้ว ก็ดูเหมือนว่าทุกคนรังเกียจฉันและลูกๆ กันหมด

 

ลิขิตชีวิตเอง

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันจึงขออนุญาตแม่สามี พร้อมกับบอกเหตุผลให้ท่านเข้าใจก่อนพาลูกๆ และสามีออกมาเช่าบ้านอยู่กันเพียงลำพัง

สามีของฉันออกมาทำงานรับจ้างทั่วไป ส่วนฉันก็รับผ้าโหลมาเย็บ เพื่อหาเงินส่งลูกเรียน เราทั้งคู่ทำงานหนัก แทบไม่ได้พักผ่อน เพราะอยากให้ลูกทุกคนได้รับสิ่งที่ดีที่สุดนั่นคือ การศึกษา

แม้จะทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่เงินที่ได้กลับไม่พอเพียงกับค่าใช้จ่ายที่รังแต่จะเพิ่มมากขึ้น กระนั้น เราก็สามารถส่งลูกคนแรกเข้ามหาวิทยาลัยได้สำเร็จ

แต่แล้ว ครอบครัวของเราก็ต้องเผชิญกับพายุลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง เมื่อสามีคู่ทุกข์คู่ยากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด เนื่องจากเขาเป็นคนสูบบุหรี่จัด หมอบอกว่าเขาอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน วินาทีนั้น เหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมาต่อหน้า ที่ผ่านมาเราอยู่เคียงข้างกันมาโดยตลอด เพียงแค่คิดว่าในอนาคตจะไม่มีเขาอีกแล้วก็เหมือนมีใครมากระชากหัวใจออกจากร่าง

ฉันกลับบ้านมาด้วยอาการมึนงงจนลูกๆ ถาม เมื่อเห็นว่าการปิดบังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ฉันจึงบอกความจริงให้ลูกๆ ทราบ แต่พวกเขาเข้มแข็งเกินคาด อาจเพราะเขาเห็นว่าแม่กำลังอ่อนแอ จึงพยายามเป็นหลักให้กับแม่ที่กำลังโงนเงน

จริงดั่งคำที่ว่าสภาพจิตใจ ส่งผลโดยตรงกับสภาพร่างกาย พอสามีรู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง จากคนที่เคยแข็งแรงกำยำ ทำงานได้ปกติ ก็กลับผอมแห้ง นอนซมไม่เป็นอันทำอะไร เพราะหวาดกลัวความตายที่รออยู่เบื้องหน้า

 

คลิกเลข 4 ด้านล่างเพื่ออ่านหน้าถัดไป

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.