ลิขิตชีวิตเอง

True Story : เราคือผู้ ลิขิตชีวิตเอง เรื่องจริงของผู้หญิงที่กำลังต่อสู้อยู่กับกรรม

 

เมื่อกลับถึงบ้าน น้ำตาที่สะกดกลั้นไว้ก็ไหลหลั่งพรั่งพรู ฉันจ้องมองตัวเองในกระจกพร้อมตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันเหมาะสมกับชายคนรักหรือไม่ ฉันควรเดินออกไปจากชีวิตเขาเสีย เพราะไม่อยากเป็นต้นเหตุให้เขาต้องทะเลาะกับครอบครัว แต่อีกใจก็อยากฮึดสู้ให้พ่อของเขารู้ว่าต้นทุนชีวิตอันน้อยนิดของฉันไม่ใช่ตัวกำหนดอนาคต ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจอะไร วันรุ่งขึ้น ฝ่ายชายก็พาแม่ของเขามาหาฉันกับป้าที่บ้านพร้อมกับบอกว่า เขาบอกว่าพ่อของเขาเข้าใจแล้วและอนุญาตให้เราคบกันต่อไปได้

ความรักของเราเป็นไปอย่างราบเรียบไม่หวือหวา เราช่วยกันเก็บเงินสร้างครอบครัวได้ 5 ปี ก็แต่งงานกัน ฉันย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ร่วมกับครอบครัวของฝ่ายชายตามธรรมเนียม เราทั้งคู่ต้องอาศัยอยู่ร่วมกับครอบครัวของพี่ชายของเขาอีกสองคน คนเหล่านี้ดูไม่ถูกชะตากับฉันเท่าใดนักเพราะเขามองว่าฉันไม่คู่ควรจะมาเกี่ยวดองเป็นเครือญาติด้วย แต่ฉันก็ไม่สนใจ และยึดถือเอาความรักของสามีเป็นพลังในการดำเนินชีวิต

หลังจากผ่านไปเพียง 1 ปี ฉันก็ตั้งท้องลูกคนแรก เป็นช่วงเดียวกันกับที่กิจการของครอบครัวสามีต้องเผชิญกับวิกฤต ทำให้สามีต้องออกไปขายของตามต่างจังหวัด ส่วนฉันก็ต้องช่วยงานที่โรงงานเสมือนพนักงานคนหนึ่ง แม้ว่าแม่สามีจะบอกให้ฉันพักผ่อน และดูแลตัวเองเพื่อลูกในท้อง แต่ฉันก็ไม่สามารถหยุดทำงานได้เพราะไม่อยากเอาเปรียบใคร ทั้งยังไม่อยากให้บรรดาคนที่คอยเพ่งเล็งยิ่งได้ใจ

 

ลิขิตชีวิตเอง

 

หลังจากคลอดลูกคนแรกได้ไม่นาน ฉันก็ตั้งท้องลูกคนที่สอง คราวนี้สามีต้องทำงานหนักกว่าเก่า เพราะวิกฤตการณ์ทางการเงินที่พวกเราเผชิญไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ฉันได้เจอหน้าสามีเดือนละไม่กี่วัน แต่ก็พยายามทำหน้าที่ภรรยาไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ทั้งดูแลบ้านแทนพี่ๆ สะใภ้ ทั้งช่วยงานในโรงงาน และดูแลลูกชายคนแรก

ความยุ่งเหยิงในชีวิตทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว หลังจากนั้นไม่นานฉันก็ให้กำเนิดลูกคนที่สอง ทำให้รายจ่ายในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ฉันต้องแบ่งเงินที่เก็บไว้เลี้ยงดูลูกไปช่วยพยุงกิจการของครอบครัว

หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี ฉันก็ตั้งท้องลูกคนที่สาม เวลานั้นสามีต้องไปขายของต่างจังหวัด แทบไม่ได้กลับบ้าน ฉันจึงต้องต่อสู้กับสายตาและคำพูดเหยียดหยามของบรรดาพี่เขยและพี่สะใภ้ตามลำพัง

จำได้ว่า ตอนที่ฉันตั้งครรภ์ลูกคนที่สามได้ 5 เดือนก็ต้องเผชิญกับเรื่องราวสะเทือนใจอย่างที่สุด เมื่อสามีนอกใจไปมีผู้หญิงอีกคน ฉันทราบเรื่องเพราะเพื่อนของสามีที่ไปขายของด้วยกัน เล่าให้ฟังว่า สามีของฉันไปติดผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งทำงานเป็นช่างตัดผม หน้าตาจิ้มลิ้ม แต่งตัวสะสวย ทั้งยังช่างเอาอกเอาใจ ทั้งคู่รู้จักกันตอนที่สามีของฉันไปตัดผมที่ร้าน และคบหาดูใจกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ตอนนั้นฉันก็ถึงบางอ้อ รู้ทันทีว่าเหตุใดสามีถึงไม่ยอมกลับบ้าน ฉันร้องไห้ฟูมฟาย เสียใจที่คนรักซึ่งต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคกันมากลับหักหลังกันอย่างเลือดเย็น ฉันพยายามคิดหาทางออกด้วยสติที่ยังหลงเหลืออยู่ ว่าจะเดินออกไปจากชีวิตของเขาแล้วปล่อยให้ลูกเป็นกำพร้าอย่างที่เราเคยเป็น หรือจะให้อภัยและประคับประคองชีวิตคู่ไว้ให้ยาวนานที่สุด

คำตอบที่ได้ คือ ฉันเลือกที่จะให้อภัย เพราะไม่อยากให้ลูกขาดพ่อ เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันจึงไปหาแม่สามีเพื่อฝากให้ท่านช่วยเลี้ยงลูกสักวันสองวัน โดยไม่ได้บอกว่าฉันจะไปไหน แล้วก็รีบขึ้นรถไปตามที่อยู่ที่เพื่อนสามีให้ไว้

 

คลิกเลข 3 ด้านล่างเพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.