นิพา เดชมา

นิพา เดชมา เศรษฐินีร้อยล้าน “ฉันมีความจนเป็นแรงบันดาลใจ”

ทราบมาว่าตอนสร้างโรงงานก็วิกฤติอยู่ไม่น้อย

โอ ที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ เคยคิดฆ่าตัวตายเลยเพราะเครียดมาก เริ่มจากซื้อที่ดินเปล่าราคา 15 ล้าน ซึ่งเราซื้อเงินสดไปก่อน เพราะแบงก์ไม่ปล่อยกู้ให้ที่ดินเปล่า จากนั้นก็จ้างบริษัทเดคโค ซึ่งเป็นบริษัทคอนซัลท์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยมาออกแบบโรงงานให้เรา โดยเรากำหนดว่าทุกอย่างต้องเป็นของที่ดีที่สุดทั้งหมด สรุปเบ็ดเสร็จเขาคิดราคามาเกือบร้อยล้าน โดยโรงงานจะต้องสร้างเสร็จภายใน 8 เดือน ตอนนั้นกู้แบงก์ผ่านแล้ว เราก็เบิกค่างวดจากแบงก์มาจ่ายได้ 5 งวด แล้วก็มาสะดุดเพราะลืมเผื่อเงินไว้สำหรับซื้อวัตถุดิบในการผลิตสินค้าด้วย ตอนนั้นขาดเงินอยู่ประมาณ 20 ล้าน พอถึงดีลเจ้าหนี้ก็มาทวง แต่เราไม่มีเงินแล้ว ไปคุยกับแบงก์เพื่อขอกู้เงินเพิ่ม แบงก์ก็ไม่อนุมัติ ช่วงนั้นมันวิกฤติที่สุดในชีวิต พูดกับใครก็ไม่ได้ มีแต่ผู้จัดการฝ่ายการเงินเท่านั้นที่รู้ เขาก็ร้องไห้กับเราทุกวัน เพราะรู้ว่าเราเงินหมดแล้ว

จนวันหนึ่งเราคิดว่าเราทำประกันไว้เยอะมาก ถ้าเราตายไป ลูกจะได้เงินร้อยกว่าล้าน พอคิดได้อย่างนั้นก็เดินขึ้นไปตรวจงานที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นลอยที่จะขึ้นป้ายโฆษณา ตอนนั้นจิตตกมาก ก็มองลงไปข้างล่างแล้วคิดว่า ในชีวิตนี้เรามีทุกอย่างหมดแล้ว ในครอบครัวเราก็มีเรานี่ละที่เจ๋งที่สุดแล้ว ขอเวลาอีก 2 วัน ถ้าไม่มีทางออกจริง ๆ ตรงนี้จะเป็นที่ตายของเรา จากนั้นก็เดินหันหลังลงมา แล้วก็เรียกบัญชีให้เอาบัญชีหนี้สินและบัญชีลูกหนี้ทั้งหมดมาดู ปรากฏว่าบัญชีลูกหนี้มีกว่า 40 ล้าน แต่ยังไม่ถึงกำหนดชำระหนี้ เราเลยตัดสินใจโทร.ไปคุยกับลูกค้า เลือกเฉพาะวีไอพี 5 - 6 เจ้าว่าตอนนี้คุณยังไม่ถึงดีลนะ แต่ตอนนี้เราจำเป็นต้องใช้เงิน ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจ โอนเงินให้เราเลย ทำให้เรามีเงินเข้ามา 5 - 6 ล้านภายในวันเดียว ความเครียดก็บรรเทาลงไปได้โดยเราค่อย ๆ โทร.ไปขอประนอมหนี้ทีละเจ้า พอทำได้อย่างนั้น ชีวิตเราพลิกเลยนะ ถือเป็นที่สุดในชีวิต

ปุ๋ยจึงอยากบอกคนที่กำลังคิดสั้นว่า ปุ๋ยเข้าใจคนที่คิดจะฆ่าตัวตายว่ามันเป็นแค่เสี้ยววินาทีจริง ๆ แต่ถ้าเราผ่านมาได้ เราจะไม่คิดฆ่าตัวตายอีกเลย ขอให้ใช้สติ ค่อย ๆคิด ถ้าเราคิดได้ ชีวิตจะพลิกเลย เหมือนที่ปุ๋ยเคยผ่านมาแล้ว

ตอนที่คุณปุ๋ยมีความทุกข์ สิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจคืออะไรคะ

ตอนที่คิดฆ่าตัวตาย เราคิดถึงลูก กลัวลูกจะลำบาก แล้วปุ๋ยก็คิดถึงแม่ เพราะแม่เป็นแรงผลักดันที่ทำให้สามารถผ่านปัญหาต่าง ๆ มาได้ทุกครั้ง แม่เป็นแรงบันดาลใจ เพราะท่านไม่ได้จบอะไรเลย แต่เป็นคนที่มุ่งมั่นมากลำบากแค่ไหนก็สู้ เพราะอยากให้ลูกได้เรียนสูง ๆ ตอนจะฆ่าตัวตายก็คิดเหมือนกันว่าแม่อุตส่าห์ตะเกียกตะกายส่งเราเรียน แล้วทำไมถึงจะคิดสั้น ถ้าเราตาย แม่คงเป็นทุกข์มาก อีกอย่างเราก็เคยปฏิบัติธรรมมา เมื่อก่อนเวลาใครพูดอะไรให้รู้สึกเครียด เราจะกลั้นหายใจแล้วค่อย ๆ ปล่อยลมหายใจออกมาทีละน้อย ก็จะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ปุ๋ยจะสวดมนต์โดยไม่คิดอะไร จะปล่อยวางทุกอย่างโดยเฉพาะเมื่ออ่านบทสวดมนต์ยาก ๆ ไปสักครึ่งชั่วโมงนี่เราจะลืมความทุกข์ไปเลย จากนั้นก็จะนั่งสมาธิ ดูลมหายใจเข้า - ออก หรือเวลาเครียดแล้วนอนไม่หลับ ปุ๋ยก็จะกำหนดว่า หลับหนอ ๆ แล้วค่อย ๆ หายใจเข้าหายใจออกช้า ๆ ก็จะรู้สึกสงบ สบายขึ้นและค่อย ๆ หลับไปได้เอง นี่คือสิ่งที่ปุ๋ยทำ

อยากทราบว่าการปฏิบัติธรรมมีส่วนช่วยในการทำงานให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไรบ้างคะ

ปุ๋ยเพิ่งมาเริ่มสนใจปฏิบัติธรรมตอนอายุ 30 ที่ต้องทำการตลาดในประเทศไทยเพราะตอนนั้นเครียดเนื่องจากเราเจอปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้องบริหารคน การปฏิบัติธรรมก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (หัวเราะ) เพราะเราต้องเข้าใจลูกน้องว่าเขาต้องการอะไร ต้องรู้ว่าเมื่อเขาพูดกับเราอย่างนี้ เขารู้สึกอย่างไร คิดอะไร เพราะความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

การปฏิบัติธรรมทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และความสุขของพนักงานนี่เองที่เป็นเป้าหมายของบริษัท เราต้องการให้บริษัทของเราเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเขา เรามีข้าวและกับข้าวให้เขากินฟรี เพราะเราเคยผ่านโรงงานที่เขาให้แต่ข้าวแต่ไม่มีกับข้าว จึงรู้ว่ามันลำบากอย่างไร มีเหมือนกันที่บางคนมาขอเปลี่ยนข้าวเป็นเงินแต่ปุ๋ยก็ไม่ยอม เพราะรู้ว่าเวลาที่คนไม่มีข้าวกินนี่มันที่สุดของชีวิตแล้ว ปุ๋ยจึงตั้งใจให้บริษัทของเราเป็นระบบดูแลกันแบบครอบครัวโดยผสมผสานการบริหารงานแบบอินเตอร์เข้าด้วยกัน โดยปุ๋ยต้องการให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยให้ความสำคัญเรื่องความสุขเป็นหลัก

เคล็ดลับอะไรที่ทำให้เด็กยากจนคนหนึ่งกลายเป็นเศรษฐินีอย่างทุกวันนี้คะ

ความซื่อสัตย์และความคิดค่ะ ความคิดของคนเรายิ่งใหญ่ที่สุด ความคิดเป็นแรงผลักดันทำให้เราเป็นได้ทั้งคนจน คนรวย คนเลว คนดี สำหรับตัวปุ๋ย ปุ๋ยไม่เคยคิดเล็ก เมื่อเราคิดมันจะเกิดกระบวนการทางความคิดเป็นขั้นเป็นตอนเป็นวิธีการออกมาเอง เมื่อเราบอกว่าเราอยากรวย เราก็จะทำในวิถีสู่ความเป็นคนรวย เช่น ต้องทำงาน ต้องหาเงิน ต้องเก็บเงิน ต้องรู้วิธีใช้เงินให้เป็น แล้วเราก็จะรวยจริง ๆ หรืออย่างตอนที่ชีวิตปุ๋ยผิดพลาดจนครอบครัวไม่ยอมรับ ปุ๋ยก็คิดว่าเราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อแม่กลับมายอมรับเราให้ได้ เราจะต้องสู้ด้วยตัวเองเพื่อให้ครอบครัวยอมรับเราอีกครั้งแล้วเราก็ทำได้จริง ๆ ตอนนั้นปุ๋ยกลับไปเยี่ยมบ้านพร้อมเงินเก็บ 20 - 30 ล้าน ตอนนั้นพ่อเป็นมะเร็ง ปุ๋ยก็พาไปรักษาตัว หมดเงินไปเกือบสองล้านบาท ซึ่งพ่อภูมิใจในตัวปุ๋ยมาก เราทำให้ท่านมีความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิต เรากลับมาเป็นที่ยอมรับ ทำสิ่งดี ๆ ให้ครอบครัวได้อีกครั้ง ทำให้ทุกคนมองผ่านความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น ความคิดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่กำหนดชีวิตของเรา และที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องซื่อสัตย์ต่อตนเองและคนอื่น เมื่อมีความซื่อสัตย์ เราจะเกิดความคิดด้านบวกในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นกับชีวิต เหมือนดังคำที่ว่า “คิดดี พูดดี ทำดี” นั่นเองค่ะ

คุณปุ๋ยคิดว่าทุกวันนี้เราอยู่บนจุดสูงสุดของชีวิตแล้วหรือยังคะ

ต้องตีความคำว่าสูงสุดคืออะไร ถ้าหมายถึงโครงการที่จะขายสินค้านั่นยังไม่สูงสุด เพราะยังสามารถต่อยอดไปได้อีก แต่ถ้าหมายถึงทางธรรม ปุ๋ยคิดว่าถ้าเราต้องตายวันนี้ก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว เพราะปุ๋ยผ่านชีวิตจากเด็กยากจนที่ต้องต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ มาจนมีวันนี้ มันทำให้ปุ๋ยเข้าใจคำว่าสุขและทุกข์ ปุ๋ยรู้ว่าในชีวิตคนเราไม่ได้ต้องการเงินทองหรือร่ำรวยอะไรมากนักแต่ทุกคนต้องการแค่ความสุข ปุ๋ยจะพูดกับลูกเสมอว่า ถ้ามี้ตาย มี้ไม่เสียดายชีวิตเพราะได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดในทุก ๆ วัน เหมือนพรุ่งนี้คือวันตายของเรา อย่างวันนี้ปุ๋ยก็จะทำทุกอย่างเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว เมื่อคิดอย่างนี้ปุ๋ยก็มีความสุข

 

นิพา เดชมา

 

คุณปุ๋ยตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างไรคะ

ปุ๋ยวางแผนในบั้นปลายชีวิตไว้ว่าจะทำรีสอร์ตเล็ก ๆ ในที่นาของพ่อแม่ สร้างประโยชน์ให้กับบรรดาพนักงานและบุคคลทั่วไป ปุ๋ยอยากให้พนักงานของเรามีที่พักผ่อนประจำปีที่อยู่กับธรรมชาติ และเป็นที่สำหรับให้เยาวชนหรือกลุ่มคนที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน เราจะทำแปลงนาสาธิตเพื่อให้คนที่เข้ามาได้เรียนรู้วิถีการทำนาของชาวนา และได้รับรู้ถึงความยากลำบากของชาวนาว่า กว่าจะเป็นข้าวที่พวกเรากินกันทุกวันนี้จะต้องมีกระบวนการอย่างไรบ้าง และปุ๋ยก็อยากจะทำแปลงพืชผักสวนครัวให้ผู้ที่เข้ามาได้ทดลองลงมือปลูกผักด้วยตนเอง และพอเวลาผ่านไป 5 – 6 เดือนคุณก็สามารถกลับมาเก็บผลผลิตหรือชื่นชมผลผลิตของพวกคุณได้ นี่คือโปรเจ็กต์สุดท้ายในชีวิต แต่ยังไม่เคยบอกใคร นี่คือสิ่งดี ๆ ที่ปุ๋ยตั้งใจจะทำค่ะ

โปรเจ็กต์ของคุณปุ๋ยเยอะแยะเลยแล้วเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าจะต้องกลับไปจนอีกจะทำอย่างไร

ปุ๋ยไม่กลัวความจนนะ เพราะทุกวันนี้ปุ๋ยไม่คิดว่าตัวเองรวย ปุ๋ยยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม อย่างเสื้อตัวนี้ปุ๋ยก็ใส่มาหลายครั้งแล้วปุ๋ยไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ หรือกระเป๋าที่ปุ๋ยใช้อาจราคาแพง แต่ก็ใช้มาเป็นสิบปีแล้ว และปุ๋ยก็ไม่กลัวว่าปุ๋ยจะกลับไปจนอีก เพราะปุ๋ยไม่เคยคิดว่าปุ๋ยจะจน มันไม่อยู่ในความคิดของเรา อย่างที่บอกว่าความคิดนี่สำคัญมากเพราะเป็นตัวกำหนดและควบคุมความเป็นไปของเราทุกอย่าง ถ้าคุณมีความฝัน แต่มัวแต่คิดว่าฉันทำไม่ได้ คุณก็จะไม่ทำมัน แต่ถ้าคุณบอกว่าฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันทำได้ด้วยความซื่อสัตย์ คุณก็จะเป็นอย่างนั้น เหมือนอย่างที่ปุ๋ยตั้งเป้าหมายไว้ว่า โรงงานของเราจะต้องเป็นโรงงานแรกที่ได้ GMP ภายใน 6 เดือน ซึ่งก็ได้มาจริง ๆ มันอยู่ที่เราตั้งเป้าและลงมือทำอย่างทุ่มเท ทำจนสำเร็จอย่างไม่ย่อท้อ หากยังไม่สำเร็จ เราจะไม่เลิกทำ

เพราะความคิดนี่เองคือเป้าหมายที่ตัวปุ๋ยเองได้พิสูจน์แล้วว่าทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนจนทำให้เรามีวันนี้

 

Secret BOX

ความคิดของมนุษย์นั่นแหละที่กำหนดชะตาชีวิต

นิพา เดชมา

 

ที่มา  นิตยสาร Secret ฉบับที่ 193

เรื่อง  ธันยาภัทร์ รัตนกุล

ภาพ  วรวุฒิ วิชาธร

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine


บทความน่าสนใจ

ฉัตรชัย วชิระเธียรชัย จากพ่อค้าห้องแถว สู่ธุรกิจพริก กระเทียมร้อยล้าน

ดร.อิทธิกร ศรีจันบาล ในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสใหม่ๆ เสมอ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.