นิพา เดชมา

นิพา เดชมา เศรษฐินีร้อยล้าน “ฉันมีความจนเป็นแรงบันดาลใจ”

แล้วบริษัทพี.โอ.แคร์เริ่มต้นได้อย่างไรคะ

ระหว่างทำงานที่โรงแรมมีโอกาสออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ เพราะโรงแรมมีอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ได้เห็นโลกกว้างมากขึ้น วันหนึ่งปุ๋ยสังเกตเห็นว่ามีสินค้าชนิดหนึ่งที่ฝรั่งชอบซื้อกันมาก นั่นคือ อโลเวราเจล ซึ่งปุ๋ยรู้สึกมหัศจรรย์มาก เพราะมันเป็นแค่เจลว่านหางจระเข้ซึ่งเป็นของพื้น ๆ ของบ้านเรา แต่ฝรั่งชอบมาก จึงเกิดปิ๊งไอเดียว่าเราจะผลิตสินค้าตัวนี้ขาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือนักท่องเที่ยว จากนั้นก็เปิดสมุดหน้าเหลืองหาที่ผลิต ก็เจอบริษัทกรีนสวิลล์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทโอสถสภา ตอนสั่งผลิต ปุ๋ยนำตัวอย่างสินค้าของฝรั่งที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งไปให้โรงงานดู บอกว่าจะเอาสเป็คที่ดีกว่าตัวนี้เพราะเราต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น ตอนนั้นปุ๋ยอายุ 25 ปี ตั้งใจตั้งบริษัทของตัวเองโดยจะไม่ลาออกจากที่เก่า มองว่าต้องเอาความมั่นคงไว้ก่อน เพราะเรามีลูกที่ต้องดูแล

ช่วงเริ่มทำธุรกิจตัวนี้ ไม่ทราบว่าเจออุปสรรคอะไรบ้างคะ

เรื่องเงินทุนในการผลิตค่ะ เพราะสินค้าล็อตแรกต้องสั่งขั้นต่ำที่จำนวน 5,000 หลอดเป็นเงิน 450,000 บาท ตอนนั้นมีเงินแค่ 300,000 บาท ยังขาดอีก 150,000 บาท ปุ๋ยก็หาทุกวิถีทางที่จะกู้เงินเพิ่ม แต่ไม่สามารถกู้ที่ไหนได้ สุดท้ายได้เพื่อนช่วยกู้ให้ จึงได้เงินมาจ่ายค่าสินค้า พอได้ของมา ปุ๋ยดีใจมากภูมิใจมาก มองสินค้าด้วยความสุขทุกครั้ง

พอถึงตอนขาย เดือนแรกยังขายไม่ได้ เดือนที่สองเราเอาของไปฝากขายตามร้านขายยาที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ อย่างเช่น สมุย พะงัน พังงา ภูเก็ต เพราะฝรั่งจะไม่ซื้อเวชสำอางในซูเปอร์มาร์เก็ตเหมือนบ้านเรา ปุ๋ยก็ตระเวนขับรถกระบะไปฝากสินค้าขายเป็นร้อย ๆ ร้าน ปรากฏว่าได้ผลตอบรับดีมาก สินค้าขายดี เดือนที่สองปุ๋ยได้เงินสี่หมื่นบาท ดีใจมาก ตอนนั้นเราออกตลาดจนไม่มีเวลาให้งานประจำ จึงตัดสินใจลาออกมาวิ่งขายของอย่างเดียวเลย สินค้าของเราขายดีติดอันดับเบสต์เซลเลอร์มาเรื่อย ๆ จนปีที่สองมีลูกค้าจากเบลเยียมโทร.มาขอสั่งซื้อสินค้า ปุ๋ยเลยได้กลายเป็นผู้ส่งออกตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมาค่ะ

ตอนเปิดบริษัทใหม่ คุณปุ๋ยทำงานคนเดียว ไม่ทราบว่ามีเรื่องสนุกเล่าสู่กันฟังไหมคะ

ครั้งหนึ่งปุ๋ยไปส่งของร้านขายยาที่ภูเก็ต เจ้าของร้านเห็นเรายกของอยู่คนเดียวเขาก็ออกมายืนว่าหน้าร้านว่า “ดูสิ ไอ้เจ้าของบริษัทนี้มันแย่มาก ๆ ใช้ผู้หญิงมายกของ” เราก็ยิ้มบอกว่า “ไม่นะพี่ เจ้าของเขาใจดีค่ะ” แต่เขาก็ยังว่าไม่หยุด ตอนหลังพอเราเริ่มสนิทกันเขาถึงรู้ว่าเราเป็นเจ้าของ เวลาคุยกันเรื่องนี้ยังขำกันอยู่เลย

ปุ๋ยประทับใจคนใต้มาก คนใต้นี่รวยนะและเป็นคนดีมีน้ำใจ อย่างตอนไปสมุย ปุ๋ยได้รู้จักเจ้าของโรงแรมเฉวง คาบาน่า พอเขาเห็นเราเป็นผู้หญิงทำงานตัวคนเดียว เราเลยเหมือนสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเขา เขาบอกว่า “ปุ๋ยเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว แกดั้นด้นมาได้ยังไงเนี่ย” แล้วพี่เขามีสามีเป็นนายตำรวจใหญ่ เขาให้สามีไปรับเราที่ท่าเรือเฟอร์รี่ ปุ๋ยประทับใจมาจนทุกวันนี้ว่าเราได้พบเจอคนดีที่เขาให้ความสำคัญเรา

 

นิพา เดชมา

 

คิดว่าอะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้กิจการโตเร็วคะ

ปุ๋ยโชคดีที่เจอแต่คนดี ๆ เมื่อเราติดต่อกับร้านขายยาก็ทำให้ได้เจอคุณหมอ เจอเภสัชกร ซึ่งตอนหลังกลายมาเป็นเพื่อนเป็นที่ปรึกษาให้ในการขยายและพัฒนาไลน์สินค้า สิ่งที่สำคัญมากคือเรื่องความซื่อสัตย์ซึ่งเป็นสิ่งที่ปุ๋ยยึดมั่นในการทำงานมาตลอด เราต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า ซื่อสัตย์กับดีลเลอร์ ความซื่อสัตย์ทำให้ปุ๋ยยืนอยู่ได้จนทุกวันนี้

เคยมีเหมือนกันที่โรงงานผลิตสินค้าผิดสเป็ค ปุ๋ยก็ไม่ยอม ไปร้องเรียนถึงซีอีโอของโรงงานเพื่อให้เปลี่ยนสินค้าให้เรา เพราะปุ๋ยรับประกันกับลูกค้าทุกเจ้าเลยว่าคุณจะได้ของดีที่สุด ดังนั้นลูกค้าวางใจได้ และเมื่อเราทำของดีขาย ก็ส่งผลให้เราได้ส่งออก เพราะลูกค้าที่สั่งซื้อก็คือลูกค้าฝรั่งที่เคยซื้อของเราไปใช้ตอนมาเที่ยวเมืองไทย แล้วเขาพึงพอใจในคุณภาพสินค้าจึงสั่งไปขายที่ประเทศของเขา ประเทศแรกที่ซื้อเราคือเบลเยียม ต่อมาก็คือสวีเดน เยอรมัน ช่วงแรก ๆ ทำส่งออกไม่เป็น ต้องให้บริษัทชิปปิ้งทำให้ แล้วก็ค่อย ๆ เรียนรู้จากเขา ปุ๋ยเป็นคนชอบเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เมื่อรู้แล้วก็จะเอามาพัฒนาตัวเรา พนักงาน และบริษัท แต่สิ่งที่ไม่เคยลืมและถือเป็นจุดที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ ต้องทำสินค้าที่ดีที่สุด ต้องเป็นอันดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเรายึดมั่นมาตลอดแล้วก็ทำให้เรารวยได้จริง ๆ ในการทำธุรกิจปีที่ 8

คุณปุ๋ยตั้งตัวได้จากการขายอโลเวราเจลให้ลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก แล้วลูกค้าคนไทยล่ะคะ ตอบรับอย่างไรบ้าง

เมื่อค้าขายให้ต่างประเทศจนเริ่มอยู่ตัว ปุ๋ยก็หันมาให้ความสำคัญกับลูกค้าคนไทยเพราะอยากให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดีและมีคุณภาพบ้าง จึงเริ่มเอาสินค้าไปฝากขายตามโมเดิร์นเทรดอย่าง ท็อปส์ วัตสัน บิ๊กซี แต่ก็ต้องเจอปัญหาที่ต่างจากการขายให้ชาวต่างชาติอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ต้องยอมรับว่าในบ้านเรามีคู่แข่งเยอะ และที่สำคัญต้องประโคมทำโฆษณาให้เป็นที่รู้จัก แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ คนไทยไม่ชอบใช้ของที่คนไทยทำ จึงเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยาก แถมตอนหลังโรงงานก็ดีลยากขึ้น เพราะเราจ้างคนอื่นผลิต ทำให้เริ่มไม่มั่นใจว่าของที่เขาผลิตให้เราได้สเป็คตามที่เราต้องการจริงหรือเปล่า เพราะมีสินค้าร้อยกว่าชนิด แล้วพอเราไม่มั่นใจโรงงานผลิต ก็เริ่มเข้มงวดกับเขา โดยถามหาใบรับประกันคุณภาพสินค้าทำให้เขาไม่อยากทำงานเรา จึงเป็นที่มาให้เราคิดสร้างโรงงานของตัวเอง คือบริษัทดี คิว โอโล่ แอสเซท จำกัด ในปัจจุบันนั่นเองค่ะ

 

คลิกเลข 3 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป>>>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.