เรียบง่าย

แสตมป์ อภิวัชร์ ผู้ชายเรียบง่ายกับธรรมะที่เรียบง่ายยิ่งกว่า

แสตมป์ อภิวัชร์ ผู้ชาย เรียบง่าย กับธรรมะที่ เรียบง่าย ยิ่งกว่า

อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข คือชื่อจริงนามสกุลจริงของ แสตมป์ เขาเป็นนักดนตรีคุณภาพที่มีบุคลิกขี้เล่น เป็นนักร้องเสียงนุ่มที่สร้างความอบอุ่นใจให้คนฟังได้เสมอเป็นชายหนุ่มที่มีรอยยิ้มสดใส เรียบง่าย  และสำหรับเรา เขาเป็น Idol Secrets ที่ให้สัมภาษณ์แบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ  แต่…ไม่รู้ทำไมยิ่งพูด ยิ่งคุยก็ยิ่งประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้!

 

เริ่มเข้าสู่วงการเพลงได้อย่างไรครับ

ผมชอบดนตรีตั้งแต่เด็กแล้วครับดนตรีเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ผมมุ่งมั่นเลยนะตอนเด็กผมเรียนหนังสือไม่เก่ง  อ่อนแอขี้แย ชอบร้องไห้  ทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ค่อยจะได้เรื่องสักอย่าง  ชีวิตวัยเด็กของผมอยู่ในระดับปานกลางแทบทุกเรื่อง  อาจเพราะผมไม่เคยพยายามทำอะไรจริงจังก็ได้มั้งครับยกเว้นเรื่องเดียว คือ  ดนตรี  ผมเริ่มเล่นเปียโนตั้งแต่เด็ก ๆ  พอขึ้นมัธยมต้นก็หัดเล่นกีตาร์และเล่นจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ผมเคยตั้งวงดนตรีกับเพื่อนเข้าประกวดหลายเวที  แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน  ต้องแยกย้ายกันไป  ใคร ๆก็มักดูถูกว่า  “เฮ้ย!  มึงคิดยังไงถึงได้มาร้องเพลงวะ’’  ทีนี้ผมเป็นคนคิดมากอยู่แล้วยิ่งได้ยินเพื่อนพูดอย่างนี้ ผมก็ยิ่งท้อ  และชอบบ่นกับตัวเองว่า  “เออว่ะ  กูไม่น่ามาอยู่ตรงนี้เลย”  แล้ววันหนึ่งผมก็ได้เจอกับพี่บอยโกสิยพงษ์  ช่วงเวลานั้นพี่บอยเป็นคนเดียวในโลกใบนี้ที่เชื่อมั่นในตัวผม  พี่บอยมักจะบอกกับผมว่า  “เราเป็นคนมีความตั้งใจ  พี่เชื่อว่าเราต้องทำได้”  ความรู้และกำลังใจที่ได้รับจากพี่บอยในวันนั้น  ทำให้ผมเดินมาได้จนถึงวันนี้ครับ

 

นอกจากกำลังใจจากคุณบอยแล้วมีใครคอยอยู่เคียงข้างคุณอีกไหมครับ

ครอบครัวและคุณพ่อคุณแม่ครับแต่ท่านจะไม่ค่อยพูดจาหวาน ๆ นะ  เอาเข้าจริง ๆ  เราแทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าท่านเป็นห่วงผมมากมาตลอดจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งสมัยยังเป็นวัยรุ่น  ตอนนั้นผมอกหัก  คิดว่าทนไม่ไหวแล้ว  มันเจ็บปวดทรมานสุด ๆ  วันนั้นแทบจะเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ผมเข้าไปขอคำปรึกษาจากแม่  แม่ฟัง
เรื่องราวทั้งหมดแล้วบอกสั้น ๆ ว่า  “แม่ไม่ได้เลี้ยงลูกให้มาทรมานนะ  แม่ตั้งใจเลี้ยงลูกให้มีความสุข”  สิ้นเสียงแม่  ผมตาสว่างเลย  ก้มลงกราบเท้าท่าน  และขอโทษที่ผมทนทุกข์ทรมานใจเพราะคนอื่น

นอกจากเล่นดนตรีแล้ว  คุณแต่งเพลงรักที่ลึกซึ้งกินใจออกมาเยอะมาก  ในชีวิตจริง  ความรักโรแมนติกเหมือนในบทเพลงไหมครับ

ไม่หรอกครับ  อาจเพราะผมเป็นคนที่ไม่ยึดติดกับตัวเองหรืออะไร  ผมมองว่าทุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์  และ
ความรักก็เป็นไปตามสถานการณ์เหมือนกันความคิดของผมตอนสิบโมงเช้าอาจจะไม่เหมือนกับตอนสี่โมงเย็นก็ได้  ดังนั้น  ผมจะไม่มีวันบอกว่า  เราจะรักกันจนวันสุดท้ายของชีวิต  เพราะผมไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น  แต่ผมเชื่อในความผูกพันและเชื่อว่าถ้าวันหนึ่งผมขาดความรักครั้งนี้ไปชีวิตของผมคงต้องแย่แน่ ๆ  แม้ผมจะไม่กล้าคาดหวัง ว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า  รักของเราจะยังหวานเท่าวันนี้หรือเปล่า  หรือจะยังรักกันอยู่ไหม  แต่สิ่งที่เชื่อคือ  เราจะยังอยู่ด้วยกันในฐานะใดฐานะหนึ่งแน่นอน

 

เคยมีทุกข์ที่หนักหนาที่สุดในชีวิตไหมครับ  แล้วคุณฝ่าฟันมาได้อย่างไร

ผมมีทุกข์เข้ามาในชีวิตเรื่อย ๆ ครับแต่ผมก็ไม่เคยมานั่งคิดว่าปัญหานี้ร้ายแรงกว่าปัญหานั้น  จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าช่วงไหนที่รู้สึกทุกข์ที่สุดในชีวิตเพราะเวลาที่ผ่านความทุกข์มาได้  ผมมักจะรู้สึกว่าทุกข์ครั้งนั้นช่างจิ๊บจ๊อยเหลือเกิน  แต่ช่วงที่กำลังเผชิญทุกข์อยู่นี่คนละเรื่องเลยนะ

เวลามีปัญหา  ผมก็คิดแทบทุกครั้งเหมือนกัน  ว่าครั้งนี้เป็นทุกข์ที่หนักหนาที่สุดในชีวิตแล้ว  แต่พอเอาเข้าจริง  ไม่นานเราก็ผ่านไปได้  มันเลยทำให้ผมมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ได้แค่แป๊บเดียวจริง ๆ  ต่อให้เราจมอยู่กับปัญหาหนักสักแค่ไหน  ก็จะจมอยู่ได้เพียงแค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น  แล้วมันก็จะผ่านไป  ผมมีหน้าที่แค่ปล่อยให้มัน
ผ่านไป  ทุกข์ไม่เคยอยู่กับเราได้นานกว่าที่เราคิดว่ามันจะอยู่หรอกครับ

 

พุทธศาสนาในความคิดของคุณเป็นอย่างไร  

ผมมองว่าธรรมะคือธรรมชาติครับเป็นความจริง  เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกบางครั้งเวลาที่เกิดปัญหาขึ้น  หรือบางครั้งที่เราหาคำตอบในชีวิตไม่ได้  ธรรมะนี่แหละที่ช่วยให้คำตอบกับเราได้  ผมเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุและมีผลเป็นของตัวเองทั้งนั้น

 

แล้วคุณมีโครงการที่จะบวชเรียนไหมครับ

ผมตั้งใจจะบวชสักครั้งในชีวิต  แต่ไม่ได้คิดจะบวชเพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่นะ  เพราะทางครอบครัวไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนี้  แต่ผมอยากบวชเพื่อศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ  สาเหตุที่ผมอยากศึกษาเรื่องศาสนามากขึ้น  เพราะผมรู้สึกได้ถึงความทุกข์ที่เข้ามาในชีวิต  และผมเห็นว่าศาสนาช่วยเยียวยาเราได้เช่นเดียวกับการได้แต่งและร้องเพลงดี ๆ

 

ทุกวันนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วหรือยังครับ

เกินกว่าคำว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ  ผมได้แต่งเพลงได้เล่นดนตรี  ได้ร้องเพลงอย่างทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว  ทุกครั้งที่ขึ้นเวทีผมจะคิดว่า  ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้  หลังจากที่ผมอดทนรอมานานแสนนาน  เคยคิดด้วยซ้ำว่าเราอาจจะต้องเลิกเล่นดนตรีแล้วมั้ง  พอมาถึงวันนี้  ได้ร้องเพลงอย่างที่ฝันไว้  ผมเลยรู้สึกว่า  ตอนนี้เป็นกำไรชีวิตแล้ว  ไม่มีอะไรจะดียิ่งไปกว่านี้อีกแล้วถ้าแม้ว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้ร้องเพลง  ไม่ได้แต่งเพลงอีก  ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้วครับ (ยิ้มกว้าง)

 

Secret Box

ชีวิตไม่ได้เดินทางเป็นเส้นตรง อาจซิกแซ็ก อาจท้อแท้บ้าง เราอาจจะวางแผนไม่ได้ แต่เราวางจุดหมายได้
แสตมป์ - อภิวัชร์  เอื้อถาวรสุข
เรื่อง พีรภัทร  โพธิสารัตนะ,  ชลธิชา  แสงใสแก้ว
ภาพ วรวุฒิ  วิชาธร  ผู้ช่วยช่างภาพ รมิดา  ธนานวพรรษ
สไตลิสต์ รุจิกร  ธงชัยขาวสอาด
แต่งหน้าและทำผม ภัทรานิษฐ์  จันทรกุลเศรษฐ์

 


บทความน่าสนใจ

อัญมณีแห่งชีวิต ของ ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ เจ้าของร้าน GEM PEACE by Chuchai

ดนตรีสร้างชีวิต สงกรานต์-รังสรรค์ ปัญญาเรือน

ถ้าไม่ถูก “หลอก” วันนั้น ผมก็คงไม่มีวันนี้ อั้ต อัษฎา พานิชกุล

“ชีวิตผมเหมือนเป็นหนี้พระพุทธศาสนา” ฤทธิพร อินสว่าง (1)

“ชีวิตผมเหมือนเป็นหนี้พระพุทธศาสนา” ฤทธิพร อินสว่าง (จบ)

ปาน-ธนพร แวกประยูร นักร้องเสียงสวยผู้ไม่ต้องการกลับมาเกิดอีก

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.