นักโทษ

นักโทษหญิงผู้ผ่านมรสุมร้ายคืออดีต ซินเดอเรลล่า คือชีวิตจริงในปัจจุบัน

นักโทษ บทเรียนที่เคยทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง

นี่คือแรงผลักให้ฉันก้าวไปข้างหน้า พร้อมกับบอกตัวเองว่า

ไม่มีวันย้อนกลับไปสู่เส้นทางนรกนั้นอีกเป็นอันขาด

 

ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อแม่ ทั้งสองแยกทางกัน ฉันจึงต้องไปอยู่กับปู่และย่าตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ท่านส่งให้เรียนโรงเรียนเอกชนหญิงล้วนประจำจังหวัด พอเข้าช่วงวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อฉันเริ่มติดเพื่อนและไม่ตั้งใจเรียน ช่วงนั้นสื่ออินเทอร์เน็ต โปรแกรมแชตต่าง ๆ เริ่มเข้ามาในไทย ทำให้ฉันได้รู้จักเพื่อนต่างโรงเรียนเพื่อนในสังคมออนไลน์มากขึ้น

ฉันเริ่มคบเพื่อนต่างเพศและมีแฟน ทำให้เกเรไม่ยอมเข้าเรียน จนชั่วโมงเรียนไม่พอและไม่มีสิทธิ์สอบ จึงต้องลาออกมาเรียน กศน. เพื่อให้ได้วุฒิชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และไปต่อชั้น ปวช. ซึ่งทำให้ฉันได้เจอเพื่อนอีกกลุ่มและมีแฟนใหม่ ฉันเริ่มไม่อยากอยู่บ้าน อยากมีชีวิตอิสระ จึงออกจากบ้านมาเช่าห้องอยู่กับแฟน

แฟนของฉันพัวพันเรื่องยาเสพติดทั้งเสพยาและขายยา ความเป็นอยู่ของเราหรูหราอู้ฟู่ มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือจากการขายยา เงินที่ได้มาก็นำไปซื้อรถ ซื้อทอง ซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ฉันหลงไปกับภาพความสุขจอมปลอมนี้ แต่ไม่นานนักความจริงอันโหดร้ายก็ค่อย ๆ เผยโฉมออกมา

วันหนึ่งมีตำรวจมาล่อซื้อ ฉันและแฟนถูกจับข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ฉันถูกตัดสินพิพากษาให้รับโทษจำคุก 3 ปี ส่วนแฟนถูกจำคุก 25 ปี เพราะมียาเสพติดในครอบครองปริมาณมาก ความสุขสบายจากเงินทองที่ได้มาอย่างไม่สุจริตมลายหายไปกับตา ตอนนั้นฉันกลัวมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้

ระหว่างถูกดำเนินคดี ที่บ้านประกันตัวฉันออกมา ฉันได้เจอกับแฟนใหม่และตั้งครรภ์ เมื่อต้องไปรับโทษในเรือนจำจึงต้องอุ้มท้องเข้าเรือนจำ

เมื่อต้องเข้ามาใช้ชีวิตในเรือนจำ ฉันถูกแยกจากผู้ต้องขังทั่วไป มาอยู่ในกลุ่มผู้ต้องขังตั้งครรภ์ เพราะพื้นที่ต้องสะอาดกว่าปกติ ลำพังแค่ท้องแล้วใช้ชีวิตธรรมดาก็เป็นเรื่องยากลำบากแล้ว แต่ท้องในขณะที่ต้องโทษอาหารการกินก็ไม่สามารถเลือกได้ ความยากลำบากยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่มีใครดูแลต้องดูแลตัวเอง ประคองตัวเองและลูกในท้องให้ดีที่สุดจนถึงวันครบกำหนดคลอด

ความฝันของผู้หญิงทุกคน ถ้าได้แต่งงานมีครอบครัว มีลูกคนแรก ต่างอยากมีชีวิตที่ดี อยากเลือกฝากท้องกับโรงพยาบาลดี ๆ เดินเลือกของใช้ให้ลูก เตรียมข้าวของเครื่องใช้รอวันที่ลูกลืมตามาดูโลก แต่ฉันไม่มีโอกาสได้ทำเรื่องเหล่านั้น แค่มีโรงพยาบาลเล็ก ๆ ใกล้เรือนจำให้คลอดก็นับว่าเป็นบุญแล้ว

ระหว่างพักฟื้น ทางเรือนจำจะล่ามโซ่ตรวนที่ข้อเท้าไว้ ฉันพักร่วมกับคนไข้รายอื่น ๆ และมักได้ยินญาติคนไข้คนอื่นพูดจาถากถางตลอดเวลา

“ดูซิเนี่ย ยังเด็กอยู่เลย มาขายยาบ้าแถมยังท้องอีก เฮ้อ”

ฉันทั้งอับอาย ทั้งเจ็บปวด ปวดทางกายยังพอทน แต่เจ็บปวดทางใจนี่สุดจะทานทน ฉันนอนร้องไห้จนหลับไปทุกคืนเป็นสภาพที่ไม่มีวันลืม และจะไม่ขอกลับมาอยู่ในวงจรแบบนี้อีก

เมื่อคลอดลูกแล้ว ฉันตัดสินใจไม่เลี้ยงลูกในเรือนจำ เพราะข้างในไม่สะอาด สิ่งแวดล้อมก็ไม่ดี จึงให้ญาติมารับลูกไปเลี้ยงแทน แม้จะคิดถึงลูก อยากให้ลูกได้กินนมเราแต่ก็ได้แค่คิดถึงและก้มหน้ารับโทษ ชดใช้กรรมในคุกต่อไป ฉันทำใจและเฝ้ารอให้ครบกำหนดพ้นโทษ เพื่อจะได้ออกไปเจอหน้าลูก

ชีวิตในเรือนจำของฉันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไปไหนไม่ได้ เลือกกินไม่ได้ เรือนจำกลางที่ฉันอยู่แออัดยัดเยียดไปด้วยนักโทษมากหน้าหลายตา เวลานอนต้องนอนเบียดกัน แค่พลิกตัวยังทำได้ลำบาก และนับวันก็ยิ่งมีจำนวนนักโทษเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ

โชคดีที่เรือนจำสอนวิชาชีพต่าง ๆ ให้นักโทษ ทั้งเย็บปักถักร้อย ทำก๋วยเตี๋ยว งานหัตถกรรมต่าง ๆ ระหว่างที่ฝึกทำงานเหล่านี้ ฉันมีเวลาคิดตรึกตรองชีวิตมากขึ้นจึงเริ่มวางแผนชีวิตหลังพ้นโทษว่าจะทำอะไร ฉันปฏิญาณกับตัวเองว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก จะไม่สร้างทางลัดรวยเร็วแบบนั้นอีกแน่นอน เพราะฉันไม่อยากตายในที่แบบนี้

และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันที่ฉันพ้นโทษและกลับมาใช้ชีวิตในสังคมอีกครั้ง เวลา 3 ปีที่ผ่านไป สำหรับคนในโลกภายนอกคงเป็นเวลาที่รวดเร็วมาก แต่สำหรับฉันและอีกหลาย ๆ คนในเรือนจำ มันคือช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างเนิบช้าและยาวนาน โลกภายนอกเปลี่ยนแปลงไปมาก ฉันต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก เมื่อตั้งหลักได้จึงเริ่มต้นสมัครงาน

หากย้อนเวลากลับไปได้ ฉันคงตั้งใจเรียนและไม่เกเร แต่เมื่อไม่สามารถย้อนไปแก้ไขสิ่งเหล่านั้นได้ จึงต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ถึงจะไม่มีความรู้มากมาย แต่ฉันก็ทำงานทุกอย่างที่สุจริตและได้เงินมาเลี้ยงปากท้อง ทั้งยืนแจกใบปลิวตามห้างสรรพสินค้า ทั้งเรียงสินค้าและยืนขายของทั้งวัน

ฉันกลับมาอยู่กับสามี ตั้งใจทำงานเพื่ออนาคตของลูก แต่ชีวิตครอบครัวที่ฉันวาดฝันไว้ไม่เป็นไปตามที่หวัง สามีคนนี้ก็พัวพันกับยาเสพติดเช่นเดียวกัน ฉันไม่อยากกลับไปมีชีวิตแบบนั้นอีก จึงตัดสินใจเลิกรากันอย่างเด็ดขาด พ่อแม่ของอดีตสามีขอลูกฉันไปเลี้ยง โชคดีที่ทั้งสองเป็นคนดีฉันจึงไม่ห่วงอะไรมาก ได้แต่ทำงานและส่งเงินไปให้เป็นค่าเลี้ยงดู และไปมาหาสู่ลูกอยู่บ่อย ๆ ส่วนอดีตสามี ถ้าเลือกจะเดินเส้นทางนั้น ฉันก็ลาขาดอย่างถาวร

ฉันกลับมาอยู่กับแม่ เช่าห้องแถวเล็ก ๆ อยู่ด้วยกันตามมีตามเกิด และมุ่งมั่นตั้งใจทำงานหามรุ่งหามค่ำ ฉันเปลี่ยนงานหลายครั้ง จนมีโอกาสได้ทำงานเป็นพนักงานขายอาหารเสริม เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ที่ร้านขายยาแห่งหนึ่ง ได้ค่าแรงวันละ 250 บาท เริ่มงานสิบโมงเช้า เลิกงานสามทุ่ม และเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่ทำให้ฉันมีทุกวันนี้

เมื่อมีสินค้าใหม่ ๆ บริษัทอาหารเสริม เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์เหล่านี้จะเรียกพนักงานไปอบรมเพื่อให้ความรู้และข้อมูลกับลูกค้าที่มาซื้อผลิตภัณฑ์ ฉันต้องรู้รายละเอียดยาและเวชภัณฑ์ทั้งหมดในร้าน ที่นี่เปรียบเสมือนคลังความรู้มหาศาล ซึ่งฉันได้ซึมซับเรียนรู้ทุกวัน จนรู้จักตัวยาและส่วนประกอบต่าง ๆ เป็นอย่างดี

ทำงานไปได้สักพัก ฉันเริ่มวางแผนจะมีธุรกิจของตัวเอง แต่ก็ยังไม่ลาออกจากงาน ฉันเลือกทำงานหนักขึ้นเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้ ตอนเช้าฉันตื่นแต่เช้ามาขายข้าวกล่อง หลังจากนั้นจึงกลับบ้านอาบน้ำแต่งตัวไปเป็นพนักงานขาย และใช้เวลาช่วงพักกลางวันทำงานเสริม คือขายครีมออนไลน์ เป็นแบบนี้ทุกวันจนลูกค้าทางออนไลน์เริ่มเยอะมากขึ้น จึงลาออกมาทำธุรกิจของตนเอง

ฉันลาออกมาขายก๋วยเตี๋ยวเรือตามหลักสูตรที่ได้ร่ำเรียนจากเรือนจำ ควบคู่กับการขายครีมออนไลน์และใช้ความรู้เรื่องตัวยามาสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่สุดท้ายร้านก๋วยเตี๋ยวเรือของฉันก็ไปไม่รอด เจ๊งไม่เป็นท่า เหลือเงินติดตัวอยู่แค่ 500 บาท ฉันเครียดมาก ธุรกิจออนไลน์ก็พลอยไม่ดีไปด้วยเพราะไม่มีทุนไปซื้อของมาเข้าร้าน

แล้วก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ฉันได้พบรักกับหนุ่มนักธุรกิจชาวไนจีเรียโดยบังเอิญ เราติดต่อกันมาเรื่อย ๆ โดยที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นนักธุรกิจร่ำรวย แค่รู้สึกมีความสุขที่มีเพื่อนคุย หลังจากนั้นเราก็ตกลงคบกัน แต่ความรักก็มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะฉันสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้มากนัก จึงทะเลาะกันบ่อย ๆ

ระหว่างนั้นเขาให้เงินมา 1 แสนบาท ฉันงงมากว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ฉันก็ใช้เงินก้อนนั้นมาบริหารจัดการกับธุรกิจขายครีมออนไลน์ สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ สุดท้ายจึงได้รู้ว่าเขาต้องการทดสอบว่าฉันจะนำเงินก้อนนี้ไปทำอะไร ถ้าฉันเลือกหาความสุขให้ตัวเองด้วยการจับจ่ายใช้สอยจนหมด ฉันคงไม่มีทางเป็นอย่างทุกวันนี้

หลังจากดูใจกันมา 3 ปี ผ่านอุปสรรคหลายอย่างมาด้วยกัน เขาจึงขอฉันแต่งงานซึ่งทำให้ฉันได้รู้ว่าเขาเป็นคนมีฐานะร่ำรวย ตอนนั้นฉันตกใจมาก ชีวิตเหมือนฝันไป จากคนที่ล้มเหลว เป็นคนที่สังคมไม่ต้องการ แต่กลับมีชีวิตที่พลิกผันจากหลังมือเป็นหน้ามือ

ทุกวันนี้ฉันมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาก เป็นทั้งเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมความงามและสปา มีเงินใช้ มีบ้าน มีรถขับ ทุกอย่างหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงและเป็นเงินที่ได้มาโดยสุจริต ฉันภูมิใจที่ทำให้แม่มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลูกของฉันก็มีอนาคตที่ดีไปด้วย ไม่ต้องอายใครว่ามีแม่ขี้คุก และสามีก็รักฉันมาก ฉันมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์เกินกว่าที่วาดฝันไว้มาก

ฉันอยากบอกกับผู้ต้องขังทุกคนว่าหากคิดว่าเป็นผู้ต้องขังแล้วชีวิตไม่เหลืออะไร สังคมจะไม่ยอมรับ นั่นเป็นเพราะว่ายังพยายามไม่มากพอ ถ้าหากขยัน คิดดีทำดี สักวันต้องประสบความสำเร็จไม่มากก็น้อย ถึงจะไม่เด่นดังหรือรวยล้นฟ้า แต่อย่างน้อยก็ไม่อับจน

ที่สำคัญคือ ไม่ต้องกลับไปใช้ชีวิตในแดนซึ่งไร้อิสรภาพอีกต่อไป

 

ข้อคิดทางธรรมโดยพระครูธรรมธร ดร.สาคร สุวฑฺฒโน

ขออนุโมทนาในตัวของคุณโยมที่คิดดี ทำดี ได้ดี หลังผ่านมรสุมชีวิต บางคนเคยทำไม่ดีมาก่อน ดั่งเช่น องคุลิมาลที่เคยเป็นมหาโจร ยังสามารถกลับตัวกลับใจจนกระทั่งได้บรรลุธรรม เมื่อทุกข์เข้ามาเยือนย่อมเห็นธรรม เมื่อเห็นธรรมก็เย็นใจ การอยู่ในเรือนจำแล้วทำให้มีห้วงเวลาที่คิดได้และได้ใช้ชีวิตในเรือนจำอย่างมีเป้าหมาย ตั้งใจฝึกฝนอาชีพ และวางแผนการใช้ชีวิตหลังพ้นโทษ โดยไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเพียงวัน ๆ นั่นคือการเรียนรู้ที่เกิดจากความทุกข์ ทำให้รู้ว่าควรอยู่กับปัจจุบัน และจำเพื่อเป็นบทเรียนว่าจะไม่กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีก อย่าจำไว้เพื่อตอกย้ำความผิดพลาดของชีวิต

จงนำอดีตมาเป็นบทเรียนที่ดีเพื่อใช้เป็นประสบการณ์ และนำเอาประสบการณ์ที่ดีมาเป็นแนวทางที่ดีที่จะนำชีวิตไปสู่สิ่งที่ดี พบคนดี ชีวีย่อมสดใส

 

ที่มา  คอลัมน์ True Story นิตยสาร Secret

เรื่อง มาดามโบวี่  เรียบเรียง อรอุมา ศิลป์วัฒนานุกูล

ภาพ นิตยสาร Secret

Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ

True Story : ชีวิตนี้… ผมติดหนี้ ”ผ้าเหลือง ”

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.