รวิศ หาญอุตสาหะ

เคล็ดลับพลังใจเปลี่ยนชีวิต “รวิศ หาญอุตสาหะ” ผู้พลิกตำนานแป้งศรีจันทร์

คิดว่าอะไรคือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการรีแบรนดิ้งครั้งนี้

ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือ “การลองผิดลองถูก” ของเราทำให้รู้ว่าควรจะเดินไปทางไหน เพราะว่าลองผิดลองถูก ช่วงแรกเปอร์เซ็นต์ในการถูกกับผิดอาจพอ ๆ กัน แต่พอผ่านไปเรื่อย ๆ โอกาสในการถูกต้องมันจะเยอะขึ้น ๆ  เพราะฉะนั้นการที่เราลองผิดลองถูกมากกว่าคนอื่นทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าเช่นกัน

อย่างช่วงแรก ๆ ผมลองทำมาแล้วหลายอย่าง  เช่น ทำวิจัยให้ลูกค้าทดลองใช้สินค้า  ช่วงแรกเราค่อนข้างเชื่อผลวิจัยมาก ๆ  แต่พอทำบ่อยเข้าก็พบว่าเชื่อได้แค่ 30 - 40เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง เพราะลูกค้าคนไทยมักไม่กล้าตอบสิ่งที่ตัวเองคิด  เพราะฉะนั้นตอนหลังเราจึงเริ่มสังเกตพฤติกรรมอื่น ๆ ร่วมด้วย

ดังนั้นผมไม่ได้เป็นคนที่เก่งหรือมีความรู้มากกว่าคนอื่นแต่อาจลองผิดลองถูกมากกว่าคนอื่น  ผมเคยแม้แต่กระทั่งวาดสตอรี่บอร์ดทำโฆษณาทีวีเอง  ซึ่งปกติไม่มีใครทำ  เขาใช้เอเจนซี่ทำให้  สุดท้ายโฆษณาอันนั้นก็ล้มเหลว  ทำให้รู้ว่างานที่ควรใช้มืออาชีพ  ก็ควรให้เขาทำ  ไม่อย่างนั้นจะเกิดอาการเสียน้อยเสียยาก  เสียมากเสียง่าย  ซึ่งต่อมากลายเป็นพื้นฐานในการทำงานของผมด้วย

นอกจากนั้นการทำธุรกิจสอนให้ผมเรียนรู้ว่า “ล้มเหลวไม่มี  มีแต่ล้มเลิก” ซึ่งเป็นสุภาษิตจีนที่ผมชอบ  ความหมายคือ  เราต้องทนต่อความรู้สึกล้มเหลวในช่วงที่ล้มให้ได้  เพราะจริง ๆ แล้วความล้มเหลวมันไม่มีอยู่จริง  แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในใจเรา  จริง ๆ แล้วความล้มเหลวคือกระบวนการไปสู่ความสำเร็จ  เพียงแต่คนส่วนใหญ่ก้าวไม่ถึงความสำเร็จสักทีเพราะล้มเลิกไปก่อน  ผมก็เคยเป็นอย่างนั้น  แต่เดี๋ยวนี้รู้แล้วว่าความล้มเหลวเป็นเพียงบันไดที่จะก้าวสู่ความสำเร็จ  หากไม่เจอความล้มเหลวก่อน  ก็ยากมากที่จะประสบความสำเร็จ

 

เคยพบอุปสรรคหนัก บ้างไหมคะ  และผ่านตรงนั้นมาได้อย่างไร    

มีตลอดครับ  อย่างช่วงแรกที่ยอดขายไม่ดีเลยเป็นอย่างนั้นอยู่หลายเดือน  ผมทั้งเครียดและกดดัน  เพราะต้องจ่ายเงินเดือนลูกน้อง  พอเครียดปุ๊บก็นอนไม่หลับ ทุกอย่างดูแย่ไปหมด  บางครั้งผมเครียดถึงขนาดซึมเศร้าเลย อย่างก่อนโฆษณาแป้งศรีจันทร์ออกฉาย  ผมเครียดมากเพราะลงทุนไปเยอะ  ทุ่มไปเต็มที่  จึงเครียดว่าผลตอบรับจะออกมาแบบไหน

เวลารู้สึกแย่ ๆ  วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดของผมคือออกกำลังกาย เช่น  วิ่ง  ปั่นจักรยาน  ถ้าเครียดมาก ๆ ก็ไปนั่งสมาธิ  ถือเป็นการชาร์จแบตตัวเอง

ผมยอมรับว่ายังไม่สามารถบริหารความเครียดได้ดีนัก เวลาเครียดมักนอนไม่หลับ  บางทีนอนไม่หลับติดกันเป็นอาทิตย์  ทำให้ร่างกายทรุดโทรม  จึงพยายามนั่งสมาธิก่อนนอนเหมือนเป็นการปิดสวิตช์สมอง  พยายามนั่งไปเรื่อย ๆ ประมาณ 20 - 25 นาที  เวลาฟุ้งซ่านอะไรก็จะพยายามดึงกลับมาที่ลมหายใจ  พอทำแล้วรู้สึกโอเคขึ้น

ผมคิดว่าความรู้เรื่องวิปัสสนาเป็นความรู้สูงสุดมากกว่าองค์ความรู้ใด ๆ ที่สอนอยู่บนโลกนี้  ใครที่เข้าใจเรื่องนี้ได้นับเป็นมนุษย์ที่โชคดีมาก  เกิดมาไม่เสียชาติเกิดจริง ๆ  แต่ผมอาจยังยึดติดกับกิเลสทางโลกเยอะ  จึงยังไม่เข้าใจเรื่องนี้มากนัก  แต่ก็พยายามศึกษาอยู่

 

ทราบว่าเขียนหนังสือด้านการตลาดมาแล้วหลายเล่ม

ก่อนมาทำงานที่ศรีจันทร์  ผมไม่มีความรู้เรื่องมาร์เก็ตติ้งมาก่อนเลย  เพราะไม่ได้เรียนมาและไม่เคยทำงานสายนี้ แต่พออ่านหนังสือมาร์เก็ตติ้งเยอะ ๆ พบว่าศาสตร์ด้านนี้สนุกในแง่ของการพลิกแพลง  เป็นศาสตร์ที่ไม่มีอะไรตายตัวและเปลี่ยนแปลงตลอด  ผมจึงสนใจและศึกษาเรื่องมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น ยิ่งศึกษายิ่งพบว่ามีความสนุกสนานซ่อนอยู่ในนั้น  จึงลองเขียนบทความขึ้นมา  จนตอนหลังกลายมาเป็นพ็อกเก็ตบุ๊ก

ตอนนี้ผมเขียนพ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้วหลายเล่ม เช่น  Marketing Everything!,  คิดจะไปดวงจันทร์  อย่าหยุดแค่ปากซอย,  มาร์เก็ตติ้งลิงกลับหัว

 

รวิศ หาญอุตสาหะ

 

คลิกเลข 4 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.