ชีวิตที่ต้อง “พอดี” เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์

ชีวิตที่ต้อง “พอดี” เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์

ชีวิตที่ต้อง “พอดี” เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์

ว่ากันว่า “สถานการณ์มักสร้างวีรบุรุษ”  ชีวิตของเจี๊ยบก็ดูจะเข้าข่ายนี้เหมือนกัน เพราะเดิมที เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ ก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป  มีหน้าที่เรียนก็เรียน  พอมีโอกาสได้ทำงานในวงการบันเทิงก็ลองดู  ไม่เคยมีความคิดว่าจะเป็น “ต้นแบบ” ให้ใครมาก่อน

แต่อะไร ๆ เกิดขึ้นได้  เมื่ออยู่ ๆ คุณพ่อที่สุขภาพแข็งแรงมาตลอดเกิดป่วยหนักจนหายใจไม่ออก  หลังจากมาถึงโรงพยาบาลคุณพ่อก็หลับสนิทและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

พอรู้ข่าวทุกคนในบ้านเจี๊ยบรวมทั้งญาติ ๆ ต่างเสียอกเสียใจกันใหญ่  จะมีก็แต่แม่  ผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างพ่อมาตลอดชีวิตเท่านั้นที่วิ่งวุ่นจัดการทุกสิ่งทุกอย่างได้เรียบร้อยโดยไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวซึ่งไม่ได้แปลว่าท่านไม่เสียใจ  เพียงแต่คุณแม่ “เข้มแข็ง” กว่าที่ใคร ๆ คิดต่างหากเพราะหากท่านมัวแต่ร้องไห้เสียใจ  ลูก ๆทั้งสามคนจะเป็นอย่างไร  ไม่พลอยขวัญเสียชีวิตเป๋ไปด้วยหรอกหรือ

ตอนนั้นเจี๊ยบเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยราวปี 1 หรือปี 2  ยังไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจใด ๆ เลย  ครั้นจะมาช่วยงานคุณแม่ก็กลัวว่าจะทำให้วุ่นวายเปล่า ๆ

สิ่งเดียวที่เจี๊ยบทำได้ดีที่สุดก็คือ “เป็นตัวอย่างที่ดี” ให้น้องชายและน้องสาว

คำว่าตัวอย่างที่ดีของเจี๊ยบคือ  ตั้งใจเรียน  มีระเบียบวินัย  ไม่กินเหล้า  สูบบุหรี่และรู้จักคุณค่าของเงิน  เรียกว่าทำยังไงก็ได้ให้น้อง ๆ เห็นว่า “ต้องเป็นแบบนี้นะ” คุณแม่จะได้หมดห่วง  แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่าย  เพราะน้องของเจี๊ยบทั้งสองคนแสบไม่เบาเลยค่ะ

วีรกรรมน้องทั้งสองมีตั้งแต่ขั้นเบา ๆ อย่างไม่ช่วยทำงานบ้าน  กลับบ้านดึกมากขั้นหนักก็คือ  โดดเรียนไปอยู่ร้านเกมทั้งวันจนต้องไปตาม  หนีไปเที่ยวต่างจังหวัด  จนถึงขั้นหนักที่สุดอย่างเล่นพนันบอล  ทำให้เจี๊ยบและคุณยายต้องใช้หนี้ให้เป็นแสน ๆ มาแล้ว

ช่วงนั้นยอมรับว่า “เหนื่อยมาก” ที่ต้องคอยตามล้างตามเช็ดเรื่องเหล่านี้  เพราะเจี๊ยบเริ่มมีเวลาน้อยลง  ไหนจะเรียนด้วย  ทำงานด้วย ก่อนหน้านี้เจี๊ยบทำงานแค่เอาสนุกแต่พอเกิดเรื่องคุณพ่อขึ้นมา  รายได้เข้าบ้านที่เคยมีก็ลดลงไปพอสมควร  เจี๊ยบจึงต้องหันมาตั้งใจทำงานอย่างจริงจังมากขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระคุณแม่

ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน  “งานความเป็นพี่” ของเจี๊ยบก็ต้องทำต่อไปไม่มีวันหยุดถึงวันนี้เขาสองคนยังไม่ได้เป็นแบบที่เจี๊ยบต้องการ  แต่ก็ขอให้ไม่เกเรไปกว่านี้  และรู้ว่าการทำความดี  เป็นเด็กดีเป็นอย่างไรก็พอแล้ว

จนราวปี 2551  เจี๊ยบก็เริ่มเห็นว่าความพยายามของเจี๊ยบไม่ได้สูญเปล่าจากเดิมที่คิดว่าน้องไม่สนใจ  ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม เพราะน้องทั้งสองเริ่มหันมาสนใจทำงานทำการ  มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น สิ่งเหล่านี้เจี๊ยบถือว่า “เป็นความโชคดีอย่างที่สุด”

เหมือนที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่มีผิดคือ  ทำอะไรต้องอยู่บนทางสายกลาง  เพราะตั้งแต่เด็กมาแล้ว  เวลาทำอะไรก็ตาม  เจี๊ยบจะเป็นคนที่ “เป๊ะมาก” ซึ่งทำให้เครียดโดยไม่รู้ตัว

ลำพังแค่เครียดแล้วปวดหัวน่ะไม่เท่าไหร่  เป็นโรคกระเพาะ  ผมร่วง  ก็ยังไม่ถือว่ารุนแรงมาก  ที่พูดมาเนี่ยเจี๊ยบเป็นมาหมดแล้วค่ะ  แต่สำหรับเคสที่ใหญ่ที่สุดของเจี๊ยบก็คือ  การผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์บริเวณปีกมดลูกด้านขวาเมื่อปี 2554  และปี 2556 ก็ต้องผ่าช็อกโกแลตซีสต์ขนาดเท่าไข่เป็ดที่ปีกมดลูกด้านซ้าย

อาการครั้งล่าสุดเริ่มจากปวดท้องอย่างรุนแรงตลอดเวลาค่ะ  เหมือนคนกินข้าวแล้วไม่ย่อย  ท้องอืด ๆ เจี๊ยบเป็นอย่างนี้อยู่นาน 3 - 4 วัน  รีบไปหาคุณหมอ  แต่พอตรวจเจอปั๊บ  เจี๊ยบก็ถามคุณหมอตรง ๆ ว่า  หลังผ่าตัดครั้งแรกไปแล้ว  เจี๊ยบก็กินยาฉีดยาตามที่คุณหมอบอกทุกอย่าง แต่ทำไมยังเป็นอีก

คำตอบของคุณหมอทำเอาเจี๊ยบอึ้งเพราะคาดไม่ถึง  นั่นก็คือ  เกิดจากความเครียด  พักผ่อนน้อยของเจี๊ยบเอง  ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนไปหมด  ยาที่ไหนก็ช่วยไม่ได้

พอลองคิดตามก็เห็นว่าจริง  เพราะช่วงนั้นเจี๊ยบถ่ายละครทุกวันไม่มีวันหยุดนอนน้อย  แต่ก็มีข้อขัดแย้งอยู่คือ  เจี๊ยบออกกำลังกายทุกวัน  ร่างกายก็น่าจะแข็งแรงคุณหมออธิบายว่า  การออกกำลังในช่วงนั้นแทบไม่มีประโยชน์เลย เพราะร่างกายอ่อนแอจึงไม่มีฤทธิ์ด้านเสริมสร้างป้องกันนัก  ทางที่ดีต้องหันมาดูแลสุขภาพแบบองค์รวมดีกว่า

วันนั้นพอกลับไปถึงบ้าน  เจี๊ยบก็เริ่มเศร้า  นอยด์  ร้องไห้ อดกลัวไม่ได้ว่าเนื้องอกที่ว่าจะเป็นเนื้อร้าย  ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดแต่ก็พยายามให้กำลังใจตัวเองว่า  “เราต้องไม่เป็นอะไร”  สุดท้ายพอคุณหมอนำชิ้นเนื้อไปตรวจแล้วผลออกมาว่าไม่ใช่เนื้อร้าย  เป็นแค่ช็อกโกแลตซีสต์ก็เบาใจ

การป่วยครั้งนี้ทำให้รู้ว่า  “ห้ามใช้ความรู้สึกตัวเองมาตัดสินเรื่องสุขภาพเด็ดขาด”

ที่ผ่านมาเจี๊ยบมักคิดว่าตัวเองแข็งแรงไม่ได้เป็นอะไรเลย  มัวแต่ดูแลคนรอบข้างให้กินวิตามินตัวนั้นตัวนี้  แต่ตัวเองกินแค่วิตามินซีอย่างเดียว  แต่พอครั้งนี้คุณหมอถือโอกาสเจาะเลือดไปตรวจอย่างละเอียดก็พบว่า  เจี๊ยบขาดวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายตัว  ไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คิดเลย

ทุกวันนี้เจี๊ยบจึงต้อง “พยายาม” ปรับวิถีชีวิตใหม่  รับงานแต่ “พอดี”  ดูแลสุขภาพให้มากขึ้น  ส่วนเรื่องใจก็ต้องปล่อยวางให้ได้บ้าง  ไม่ต้องเป๊ะหรือตึงเกินไปกับทุก ๆเรื่อง  ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าเจี๊ยบอาจไม่โชคดีอย่างครั้งนี้ก็เป็นได้

Secret BOX

ความพอดีเป็นสิ่งสำคัญ  แม้แต่การคิดถึงคนอื่นก็ต้องพอดี

อย่าให้มากจนลืมคิดถึงตัวเอง

เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ เรื่อง วรลักษณ์  ผ่องสุขสวัสดิ์  ภาพ สรยุทธ  พุ่มภักดี


บทความน่าสนใจ

Dhamma Daily : สามีคบชู้ ควรปรับใจอย่างไร ไม่ให้โกรธทั้งสามีและผู้หญิงคนใหม่

ปรับความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน เรื่องราว “การปรับความคิด” ของดาราหนุ่มทั้ง 3 คน

ปรับเปลี่ยนทัศนคติ เอาชนะ “ความท้อแท้”

5 คำสอนจากพระ ที่ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.