ภารกิจสุดท้าย

ภารกิจสุดท้ายของป้าแจ๋ว

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ  (ภารกิจสุดท้าย)

ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลังก็ดี ที่ได้พลาดพลั้งล่วงเกินต่อคุณแม่ทอน ขอให้คุณแม่ทอนได้โปรดอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอตั้งตนไว้ชอบในประพฤติที่ถูกต้องดีงาม ขอบุญบารมีที่เคยสั่งสมบำเพ็ญในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี และที่จะกระทำในอนาคตก็ดี จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและแม่ทอน ตลอดญาติมิตร บริวาร ลูกหลาน เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสาร ธรรมสารสมบัติทุกประการ ขึ้นชื่อว่าทุกข์หรืออุปสรรคแลโรคภัยใด ๆ อย่าได้มีมากล้ำกรายปรากฏ ที่มีทุกข์อยู่แล้วขอให้หายมลายสิ้นไป…

สิ้นเสียงสวดเป็นภาษาบาลี ตามด้วยคำกล่าวขออโหสิกรรม ฉันบอกให้ลูก ๆ ทั้งสี่คนของคุณยายทอนก้มลงกราบที่เท้าแม่ พร้อมกับกระซิบบอกข้างหูคุณยายว่า “ลูก ๆ ขอขมาและขออโหสิกรรมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยล่วงเกิน ขอให้คุณยายยกโทษและให้อภัยต่อลูก ๆ ด้วยนะคะ”

คุณยายที่ขณะนี้ดูกระสับกระส่าย แม้แต่เรี่ยวแรงที่จะหายใจก็ดูจะอ่อนล้าลงทุกที เปล่งเสียงออกมาก็แทบจะไม่เป็นคำ แต่เมื่อรู้ว่าลูก ๆ มาขอขมา คุณยายกลับสามารถพูดออกมาเป็นประโยคได้ “บุญวันนี้ที่ได้ทำขอยกให้ลูก ๆ ทุกคน ขอขมาก็ให้อภัยแล้ว” ว่าพลางพยายามที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นประนม ฉันช่วยคุณยายยกมือขึ้นประนมและพยายามเอ่ยคำว่าสาธุ

“แม่คงไปได้แล้วคราวนี้ นี่คือสิ่งสุดท้ายที่แม่อยากทำ แม่หมดห่วงแล้ว” เสียงลูกสาวคนหนึ่งแทรกขึ้นมาท่ามกลางลูก ๆ ทั้งสี่คนและทีมการพยาบาล

ภารกิจของฉันและทีมวันนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทำให้กับคนไข้ระยะสุดท้ายที่อยู่ในโปรแกรมของเรา แต่เราได้ทำภารกิจนี้อยู่เนือง ๆ ก่อนที่จะมีกิจกรรมวันนี้ ทีมของเรานำโดย อาจารย์หมอศรีเวียง คุณปาริชาต ได้พุดคุยกับครอบครัวถึงการวางแผนล่วงหน้าและค้นหาความต้องการของครอบครัวแล้ว สิ่งที่ครอบครัวต้องการคือให้คุณยายเสียชีวิตในโรงพยาบาล ไม่ขอใส่ท่อช่วยหายใจ ไม่ปั๊มหัวใจ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทีมจะช่วยขั้นต่อไปคือเริ่มให้ยาเพื่อให้คุณยายหลับจะได้ลดความทุกข์ทรมานจากการหายใจหอบ แต่ก่อนที่จะเริ่มให้ยา ลูก ๆ อยากให้แม่ได้ทำพิธีถวายสังฆทานและต้องการขอขมาแม่ และเมื่อใดที่ได้มีโอกาสพาคนไข้ทำพิธีกรรมขอขมา ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคนไข้และครอบครัวแรก ๆ ที่เราได้ดูแล

ภารกิจสุดท้าย
Photo by rawpixel.com from Pexels

ป้าแจ๋ว… ฉันนึกถึงป้าแจ๋ว หญิงวัยกลางคนรูปร่างสูงท้วม น้ำเสียงห้าวหนักแน่น ทีมเรามีโอกาสได้รู้จักป้าแจ๋วเพราะป้าแจ๋วคือภรรยาลุงปุ๊ก คนไข้มะเร็งท่อทางเดินน้ำดีระยะสุดท้ายที่ทีมได้มีโอกาสดูแล

ป้าแจ๋วเล่าให้เราฟังว่า แกกับลุงปุ๊กรักกันมาก อยู่ด้วยกันมา 40 ปีแล้ว ไม่เคยแยกจากกันไปไหน เจอป้าแจ๋วที่ไหนเป็นต้องมีลุงปุ๊กติดสอยห้อยตามไปด้วย เป็นคู่ทุกข์คู่ยากร่วมฝ่าฟันร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา วันที่รู้ว่าลุงปุ๊กป่วยหนักจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แกไม่คิดเลยว่าการป่วยของลุงครั้งนี้จะหนักถึงขั้นสุดท้าย ป้าแจ๋วเองทำใจลำบากยิ่งนักที่จะยอมรับ ทุกคนได้ทำเต็มที่ รักษาสุดความสามารถแล้ว เมื่อไม่หายก็ต้องยอมพ่ายแพ้ให้กับเจ้ามะเร็งร้ายแต่โดยดี แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นในความเป็นป้าแจ๋วคือความเข้มแข็งต่อการเผชิญปัญหาต่าง ๆ และแม้จะรู้ว่าความพลัดพรากจากคนที่ป้าแจ๋วรักกำลังรออยู่เบื้องหน้า แต่ป้าแจ๋วก็ไม่แสดงอาการหวาดหวั่นหรือตีโพยตีพายให้เห็น จึงไม่แปลกใจเลยว่าผู้หญิงแกร่งคนนี้เธอคืออดีตผู้ใหญ่บ้านหญิง

ในวันที่ทีมของเราซึ่งมีฉันกับปาริชาติ พยาบาลหน่วยการุณรักษ์อีกคน (หน่วย Palliative Care) ได้นั่งคุยกับป้าแจ๋วและวางแผนการดูแลลุงปุ๊กร่วมกัน สิ่งที่ครอบครัวต้องการที่สุดคือช่วยไม่ให้ลุงทุกข์ทรมานจากอาการปวดท้อง

การควบคุมความปวดของลุงในวันแรก ๆ ถึงแม้จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องให้ยาอย่างระมัดระวัง เพราะขณะนี้ลุงมีปัญหาตับล้มเหลว อาจารย์หมอศรีเวียงจึงพิจารณาให้ยาลดปวดคือมอร์ฟีน จากที่เคยให้ทุก 4 ชั่วโมงตามปกติ เป็นปรับให้ห่างออกไปทุก 8 ชั่วโมง หลังเริ่มยาลดปวด ในช่วงกลางคืนลุงสามารถนอนหลับพักได้ ซึ่งทำให้ครอบครัวพอใจ เมื่อจัดการอาการทางกายได้ดีแล้ว สิ่งที่ครอบครัวขอให้ช่วยก็คืออยากทำพิธีขอขมา “ป้าก็เคยทำไม่ดีต่อลุงปุ๊กมากเหมือนกัน และลุงปุ๊กแกก็เคยทำไม่ดีต่อป้า สมัยป้าเป็นผู้ใหญ่บ้านเคยทะเลาะกันครั้งหนึ่ง ลุงเอาปืนไล่ยิง เอาชุดผู้ใหญ่บ้านไปเผา ป้าก็ไม่ถือโทษ ให้อภัยแล้ว แต่ป้าก็อยากทำต่อหน้า อยากขอขมากันและกัน ช่วยป้าได้ไหม” พวกเรารับปากที่จะช่วยป้าแจ๋วให้ได้ทำในสิ่งที่ต้องการในวันรุ่งขึ้น

เช้าวันต่อมาทีมเราพร้อมกันที่หอผู้ป่วย สว.12 เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจแรกของวันนี้ด้วยหัวใจเบิกบาน พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า “ส่วนหนึ่งของการให้ทานในพระพุทธศาสนาคือ อภัยทาน อานิสงส์ของการอโหสิกรรมและการแผ่เมตตาให้ผู้อื่นนั้นมีมากกว่าถวายอาหารแด่พระองค์และพระอรหันต์ 100 องค์”

ไม่นานนักเราทุกคนก็มาพร้อมกันข้างเตียงลุงปุ๊กพร้อมขัน 5 ใบสำหรับพิธีขอขมา ฉันทำหน้าที่ผู้นำกล่าว ภาพแห่งความประทับใจปรากฏขึ้นเมื่อการกล่าวคำขอขมาจบลง นั่นคือพวกเราช่วยกันเชียร์ให้ป้ากับลุงหอมแก้มกัน “โอย! ป้าไม่เคยทำหรอก หอมก้งหอมแก้มอะไรน่ะ ป้าไม่เคยจริง ๆ” สุดท้ายป้าแจ๋วทนแรงยุของพวกเราไม่ไหว ค่อย ๆ เอียงแก้มให้ลุงปุ๊กหอมหนึ่งฟอดสลับกับให้ป้าแจ๋วหอมลุงกลับคืนบ้าง เสียงเฮดังลั่นห้องพร้อมกับรอยยิ้มแรกของลุงปุ๊ก พลอยทำให้ทุกคนอมยิ้มไปด้วย

ภารกิจของฉันกับทีมในวันนี้คงไม่ใช่ภารกิจสุดท้ายในการลงพื้นที่ช่วยเหลือบริบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย แต่สำหรับป้าแจ๋วแล้ว ภารกิจนี้คงเป็น ภารกิจสุดท้าย ที่ภรรยาพึงกระทำต่อสามีอันเป็นที่รัก และเมื่อวันที่ลุงปุ๊กได้ละจากโลกนี้ไป คงไม่มีอะไรติดค้างในใจป้าแจ๋ว หรือแม้กระทั่งลุงเองก็คงไม่มีอะไรติดค้างเช่นเดียวกัน

ภาพสุดท้ายที่ปรากฏในวันที่ลุงปุ๊กจากไปคือ ลุงหลับตาพริ้มเหมือนคนนอนหลับธรรมดา มิหนำซ้ำยังเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มุมปาก เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าลุงปุ๊กจากไปอย่างไม่มีอะไรห่วงแล้ว

ลุงปุ๊กเป็นคนไข้คนแรกที่สอนให้ฉันได้รู้จักว่า “ตายยิ้ม” เป็นอย่างไร

หลับให้สบายนะคะลุงปุ๊ก ฉันมั่นใจว่าจิตดวงสุดท้ายของลุงปุ๊กเป็นจิตที่ผ่องใส เป็นกุศลจิตอย่างแน่นอน

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

เรื่อง  สุธีรา พิมพ์รส

Photo by Silas from Pexels

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine


บทความน่าสนใจ

ชาติหน้าดีแค่ไหน กำหนดได้ด้วย จิตดวงสุดท้าย โดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.