โค้ชฟุตบอลไร้แขนขา

โค้ชฟุตบอลไร้แขนขาสยบเสียงหัวเราะเยาะด้วยการพาทีมเข้าถึงรอบชิงแชมป์

โค้ชฟุตบอลไร้แขนขา สยบเสียงหัวเราะเยาะด้วยการพาทีมเข้าถึงรอบชิงแชมป์

“ใครว่าฉันทำไม่ได้?” นี่คือประโยคเด็ดของทีมฟุตบอลโรงเรียนมัธยมศึกษา Prospect High School เอาไว้ร้องกู่ก้องสร้างความฮึกเหิม โค้ชฟุตบอลไร้แขนขา

ผู้ที่สอนวลีนี้ให้ทีมคือโค้ชของทีม โรเบิร์ต เมนเดซ จูเนียร์ (Robert Mendez, Jr.) ตั้งแต่วันที่มาคุมทีมครั้งแรก และกลายเป็นสิ่งสอนใจลูกทีมยามที่อยู่ในสนามทุกวัน โดยโค้ชโรเบิร์ตจะถามลูกทีมว่า “ใครว่าฉันทำไม่ได้?” ลูกทีมจะร้องตะโกนตอบอย่างพร้อมเพรียงทันทีว่า “ไม่มี!”

โค้ชฟุตบอลไร้แขนขา
ESPN

สำหรับโรเบิร์ต นี่ไม่ใช่แค่วลีเอาไว้ให้เด็ก ๆ ร้องตะโกนเพื่อสร้างพลังใจก่อนลงแข่งขัน แต่ยังเป็นคติประจำใจในการดำเนินชีวิตของเขาอีกด้วย

โรเบิร์ตเกิดมาในสภาวะที่หายาก เรียกว่า กลุ่มอาการเตตรา-อะมีเลีย (tetra-amelia) คือเกิดมาไม่มีแขนและขา ซึ่งเด็กลักษณะนี้จะเกิดมาปีละไม่ถึง 100 คน ในเวลานั้นพ่อแม่ของโรเบิร์ตนึกไม่ออกเลยว่า ลูกชายจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

โค้ชฟุตบอลไร้แขนขา

ต้องขอบคุณสวรรค์ที่โรเบิร์ตเกิดมาพร้อมกับทัศนคติอันยอดเยี่ยมที่อยู่เหนือสภาพร่างกายของเขา ในไม่ช้าพ่อแม่ของเขาก็ได้เรียนรู้ว่า ลูกชายเป็นคนกระตือรือร้นและมองโลกในแง่ดีสุด ๆ ด้วยแรงขับจากการต้องการบรรลุเป้าหมายโดยไม่สนเรื่องสภาพร่างกายที่เป็นอยู่ ถึงแม้จะถูกบรรดาคนแปลกหน้าจ้องมองเขาเหมือนตัวประหลาดมาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ได้ทำให้โรเบิร์ตย่อท้อ

ซึ่งโรเบิร์ต เมนเดซ ซีเนียร์ พ่อของโรเบิร์ตบอกว่า ลูกชายกลับมองสายตาของคนเหล่านั้นเป็นโอกาสอีกอย่างในชีวิต

โค้ชฟุตบอลไร้แขนขา

ด้วยแรงสนับสนุนจากครอบครัว ในไม่ช้าโรเบิร์ตก็พบวิธีที่ทำให้เขาสามารถทำทุกสิ่งที่ต้องการได้ ในฐานะคอกีฬาตัวยง เรื่องที่โรเบิร์ตเสียใจจริง ๆ มีอยู่เรื่องเดียวคือ เขาไม่สามารถเล่นกีฬาได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีความมุ่งมั่น วิถีทางย่อมปรากฏให้เห็น และเมื่อโรเบิร์ตเข้ามาที่โรงเรียนมัธยม เขาก็พบหนทางสู่การเป็นส่วนหนึ่งของทีมฟุตบอลโรงเรียน

โค้ชสกิ๊ป บลูม เล่าว่า ทันทีที่ทางโรงเรียนแต่งตั้งให้โรเบิร์ตเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล ก็ได้เห็นอย่างชัดเจนทันทีว่า โรเบิร์ตมีทักษะในเกมการแข่งขันอย่างแท้จริง

โรเบิร์ตหัดเล่นเกม Madden ซึ่งเป็นวิดีโอเกมแข่งขันอเมริกันฟุตบอลยอดฮิต และเขาก็ได้แสดงศักยภาพและความสามารถในการศึกษาเกมการแข่งขัน แล้วยังสามารถถ่ายทอดให้เด็ก ๆ เข้าใจได้ดี แตกต่างจากโค้ชอื่น ๆ ที่สกิ๊ปเคยรู้จักมาก่อน

โรเบิร์ตอุทิศชีวิตในการฝึกสอนนักฟุตบอลรุ่นเยาว์ถึงแม้เขาจะมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีม แต่ด้วยความพิการทำให้เขาชวดงานเป็นโค้ชเสมอไม่ว่าจะยื่นใบสมัครไปที่ไหน หลังจากฝึกสอนเด็กมานาน 13 ปี เขาก็ยื่นใบสมัครเป็นโค้ชที่โรงเรียน Prospect High School ในแคลิฟอร์เนีย และเขาก็ได้งานเป็นหัวหน้าโค้ชที่นั่น!

เพื่อนร่วมงานและนักกีฬานักเรียนของโพรสเป็คท์ไฮยอมรับว่า ทุกคนไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรเมื่อเห็นโรเบิร์ตลงสนามครั้งแรก แต่เมื่อใช้เวลาอยู่กับโรเบิร์ตเพียง 2 นาที ทุกคนก็กระจ่างว่า โรเบิร์ตรู้หน้าที่ของตัวเองดี และมีทัศนคติที่จะพาทีมคว้าแชมป์ให้จงได้

นักกีฬาคนหนึ่งบอกว่า “เขาอาจดูไม่เหมือนโค้ช แต่การปฏิบัติตัวของเขาคือโค้ชอย่างแน่นอน” ตลอดฤดูการแข่งขัน โรเบิร์ตสอนพื้นฐานการเล่นฟุตบอลให้กับทีม ควบคู่ไปกับความเห็นอกเห็นใจและการให้เกียรติอย่างอบอุ่น โรเบิร์ตได้อุทิศตนให้นักกีฬาของเขาอย่างแท้จริง ดูได้จากตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุร่วงลงมาทำให้กระดูกเบ้าตาและโหนกแก้มแตก แต่โรเบิร์ตก็รีบรักษาตัวและกลับมาคุมทีมไม่กี่สัปดาห์ต่อมา

ในช่วงปีแรกที่โรเบิร์ตคุมทีม ทีมของเขาไม่แพ้ติดต่อกัน 7 เกมรวด ก่อนที่จะพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ ถึงแม้ว่าเด็ก ๆ จะเสียอกเสียใจอย่างหนัก แต่ทุกคนก็รู้สึกว่าเพียงแค่ได้รู้จักผู้ชายที่ชื่อโรเบิร์ต ก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชนะที่แท้จริงไปแล้ว

ควอเตอร์แบ็คของทีมบอกว่า ทีมคู่ต่อสู้มักจะสงสัยในตัวโค้ชโรเบิร์ตเสมอเพราะมองยังไงก็เป็นผู้ชายนั่งวีลแชร์ แต่สำหรับลูกทีมทุกคนมองเห็นโค้ชที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบคนหนึ่งเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันลูกทีมอีกคนก็บอกว่า การได้เป็นคนเข็นรถวีลแชร์ของโรเบิร์ตออกจากสนามหลังจบเกม ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจที่มีโรเบิร์ตเป็นโค้ช

ฝ่ายบริหารของโรงเรียนบอกว่า ทางโรงเรียนได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ในหมู่นักกีฬารุ่นเยาว์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอบคุณอิทธิพลที่ได้รับจากโรเบิร์ต ไม่เพียงช่วยลดแนวโน้มที่เด็ก ๆ จะมัวนั่งเสียใจกับตัวเอง แต่โรเบิร์ตยังเป็นแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ มุมานะบากบั่นให้มากเท่ากับโค้ชของพวกเขาเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้

ล่าสุดในงาน ESPY Awards ซึ่งเป็นงานแจกรางวัลที่สำคัญงานหนึ่งของคนในวงการกีฬา โรเบิร์ตได้รับรางวัล Jimmy V Award เพื่อยกย่องในความมุมานะและอุทิศตนอย่างที่สุดในวิชาชีพของเขา ซึ่งในปีนี้ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าโรเบิร์ตอีกแล้ว

ABC7 News

โรเบิร์ตขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัลอันทรงเกียรติ จากนั้นเขากล่าวขอบคุณผู้คนมากมายที่ช่วยให้เขามาถึงจุดนี้ รวมทั้งคุณแม่ของเขาที่เพาะเมล็ดพันธุ์ของการมองโลกแง่บวกให้เขา คุณพ่อผู้ฟูมฟักความหลงใหลในกีฬาให้แก่เขา นักเรียนและผู้บริหารของโรงเรียนโพรสเป็คท์ไฮที่ให้โอกาสเขา

โรเบิร์ตกล่าวบนเวทีว่า “เมื่อคุณอุทิศตนให้บางสิ่งและเปิดใจรับความเป็นไปได้ที่แตกต่าง จงให้ความสนใจกับสิ่งที่คุณทำได้แทนที่จะไปสนใจในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ คุณก็จะสามารถไปยังสถานที่ใด ๆ ในโลกได้อีกมากมาย

สิ่งที่ดีที่สุดของการเป็นโค้ชคือ การได้เห็นศักยภาพของคน ๆ หนึ่ง และทำให้เขาตระหนักถึงความเป็นไปได้ ดังนั้น สำหรับใครก็ตามที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้…ผมอยู่ตรงนี้เพื่อบอกคุณว่าคุณทำได้ มันเกิดขึ้นได้ และผมยังไม่จบ ผมทำมาได้ไกลถึงเพียงนี้ ใครว่าผมจะไปไกลกว่านี้ไม่ได้?”

สุนทรพจน์ของโรเบิร์ตเรียกน้ำตาจากเหล่าคนดังในวงการกีฬาที่มาร่วมงานในวันนั้น ทุกสายตาจับจ้องมองร่างเล็ก ๆ บนเวทีอย่างตื้นตัน

เขาคือแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคนที่กำลังทดท้อ หรือแม้แต่คนร่างกายปกติอย่างเราก็ตาม

 

เรียบเรียง  ชนาฉัตร

ที่มา  Inspiremore

ภาพ  ESPN

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine


บทความน่าสนใจ

โมนีค ฟาน เดอ ฟอร์ส ปาฏิหาริย์นักกีฬาพิการกลับมาเดินได้อีกครั้ง

“คุณตาไม้กวาด” พิการแต่มุ่งมั่นทำไม้กวาดขาย เพื่อช่วยทุนการศึกษาเด็กยากไร้

คู่รักใจบุญ รับเลี้ยงเด็กป่วยระยะสุดท้ายและเด็กพิเศษที่ถูกทอดทิ้ง – SECRET

อาชแมด ซัลการ์นาอิน เกิดมาไร้แขนขา มุ่งมั่นจนได้เป็น ช่างภาพ มืออาชีพ

เบธานี แฮมิลตัน ถึงแม้พิการ แต่ไม่อาจดับความฝันได้

อิสเมล ซัลฟิค เด็กพิการ แขนขาวัย 6 ขวบคว้าแชมป์ว่ายน้ำ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.