อย่างไรก็ดี ตรงข้ามกับสภาพร่างกายที่ทรุดโทรม สมองของเขากลับผลิตผลงานทางวิชาการชิ้นสําคัญได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การอธิบายลักษณะของ “หลุมดํา” ซึ่งแต่เดิมเชื่อว่าเป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในจินตนาการเท่านั้น และนําเสนอความคิดที่ว่า “บิ๊กแบง” เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาลและกาลเวลาได้อย่างชัดเจน จนไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดสามารถล้มล้างทฤษฎีนี้ได้กระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ที่สําคัญงานของสตีเฟ่นถือเป็นจุดเริ่มต้นของ ทฤษฎีของทุกสิ่งทุกอย่าง (Theory of Everything) ที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติได้ทุกอย่าง ซึ่งไอน์สไตน์ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อค้นหา แต่ก็ทําไม่ได้ แต่สตีเฟ่นสามารถนํามาสานต่อจนเห็นผล ทําให้เขาได้รับฉายาว่า “ทายาทของไอน์สไตน์”
นอกจากนี้เขายังเขียนหนังสือเรื่อง ประวัติย่อของกาลเวลา (A Brief History of Time) ซึ่งมียอดขายขึ้นอันดับหนังของ ซันเดย์ไทมส์ (Sunday Times) นานถึง 237 สัปดาห์ นับเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในโลก จะเป็นรองก็แต่พระคัมภีร์ไบเบิลและวรรณกรรมของเชกสเปียร์เท่านั้น ทําให้สตีเฟ่นได้รับรางวัลทรงเกียรติจากสถาบันต่าง ๆ มากมาย และเดินสายไปบรรยายหรือสัมมนาทางวิชาการตามคําเชิญจากทั่วโลก
ตัวช่วยที่ทําให้สตีเฟ่นทํางานได้ราวกับคนปกติก็คือคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมสําหรับเลือกคําและเรียบเรียงประโยค กับโปรแกรมสําหรับแปลงตัวหนังสือให้เป็นเสียง ซึ่งเขาสามารถสั่งการได้ด้วยนิ้วเพียงสองนิ้วเท่านั้น
สตีเฟ่นกล่าวถึงการใช้ชีวิตของตัวเองว่า “แม้ว่าผมจะต้องรับมือกับโรคกลไกประสาทเสื่อมมาตลอดช่วงวัยผู้ใหญ่ของผม แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการมีชีวิตครอบครัวที่น่ารักหรือการประสบความสําเร็จในหน้าที่การงานแต่อย่างใด นี่เป็นเพราะผมได้รับความช่วยเหลือจากเจน ลูก ๆ ทั้งสาม และผู้คนจํานวนมาก ตลอดจนหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ผมคิดว่าตัวเองโชคดีที่อาการของโรคทรุดลงช้ากว่าปกติมาก ซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนเราไม่ควรสิ้นหวัง”
ในร่างกายที่ผอมแห้งราวกับจะเปื่อยสลายได้ในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง แต่เมื่อหลับตา…จักรวาลอันตระการไปด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
แท้จริงแล้ว… ชีวิตของสตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง ไม่ใช่ชีวิตที่น่าเสียดายแม้แต่น้อย
Secret Box
Intelligence is the ability to adapt to change.
ความฉลาดทางปัญญา
คือความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลง
-สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง Violet
ภาพ University of Cambridge, ilbe.com, teday.org, Vanity Fair
บทความน่าสนใจ