ดีพัก โชปรา

ชีวิตที่ไม่คาดหวังของ ดีพัก โชปรา

“นักเขียนส่วนใหญ่จะรู้สึกทุกข์ทรมานเมื่อต้องเจอกับช่วงเวลาที่ความคิดตีบตัน เมื่อเขานั่งลงเขียน แต่กระดาษตรงหน้ากลับว่างเปล่า ไม่มีความคิดที่ดีพอ และถ้อยคำที่ผ่านเข้ามาในหัวก็ล้วนน่าเบื่อและไร้ประโยชน์ ช่วงเวลาเช่นนั้นเป็นช่วงเวลาแห่งความหายนะ และนั่นคือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ฆ่าตัวตาย”  ดีพัก โชปรา

ดีพัก โชปรา (Deepak Chopra) ยกเรื่องของเฮมิงเวย์เป็นตัวอย่างของคนที่ล้มเหลวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเครียด ซึ่งจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับดีกรีของความคาดหวัง

ก่อนหน้าวันที่ 2 กรกฎาคม 1961 คงไม่มีใครคาดคิดว่าเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ (Ernest Hemingway ค.ศ. 1899 – 1961) นักเขียนเจ้าของรางวัลโนเบลจะมีจุดจบเช่นนี้ มันสืบเนื่องมาจากความกลัดกลุ้ม เพราะเขาได้รับมอบหมายให้เขียนคำสดุดีในงานฉลองรับตำแหน่งของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้

เฮมิงเวย์รู้สึกถูกกดดันจากชื่อเสียงของตัวเอง ทำให้เขาเขียนไม่ออกและตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง รวมกับประวัติส่วนตัวที่มีอาการติดเหล้าและมีคนในครอบครัวเคยฆ่าตัวตาย เฮมิงเวย์จึงตัดสินใจจบชีวิตด้วยการยิงตัวตาย

ดีพักอธิบายว่า การคาดการณ์ไม่ได้ (unpredictability) และความไม่แน่นอน (uncertainty) เป็นเหมือนด้านสองด้านของเหรียญอันเดียวกัน คือเมื่อพูดถึงสิ่งหนึ่ง คนก็มักจะนึกถึงอีกสิ่งหนึ่งโดยอัตโนมัติ ทว่าทั้งสองอย่างนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง

“คนที่คาดหวังก็มักจะเจอกับความผิดหวัง แต่คนที่ใช้ชีวิตไปตามปกติบนความไม่แน่นอน (ที่ใครๆ ก็ต้องเจอเหมือนกัน) มักจะประสบความสำเร็จ”

คนที่อยู่กับความคาดหวังมีโอกาสเป็นโรคเครียดสูงมาก เพราะคิดว่าชีวิตคือสูตรสำเร็จ ใส่ส่วนผสมแบบนี้ต้องได้ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ ทั้งที่จริงๆ แล้วชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องคาดเดาไม่ได้

ส่วนคนที่อยู่กับความไม่แน่นอนอาจจะไม่รู้ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า ซึ่งทำให้เกิดความเครียดได้เช่นกัน แต่ความไม่แน่นอนก็จะกลายเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาด้วย เพราะถ้ามนุษย์รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง คงไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น โลกนี้คงน่าเบื่อ และสิ่งเดียวที่มนุษย์ต้องใช้ในการแปรเปลี่ยนความไม่แน่นอนให้กลายเป็นโอกาสคือ ความคิดสร้างสรรค์

เรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ดีพักไม่ได้พูดขึ้นลอยๆ แต่เพราะเขาได้เห็นชีวิตของคนอื่นมามาก แม้แต่ชีวิตของเขาเองก็หนีไม่พ้นความไม่แน่นอนเช่นกัน

 

ดีพัก โชปรา
@washingtonpost.com

 

ดีพัก โชปรา เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1946 ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย พ่อของเขาเป็นศัลยแพทย์โรคหัวใจที่เก่งมาก

ครอบครัวโชปราตัดสินใจย้ายไปตั้งรกรากที่สหรัฐอเมริกาในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ตอนนั้นดีพักเรียนจบแพทยศาสตร์จาก All India Institute of Medical Sciences แล้ว เขาเริ่มเป็นหมอฝึกหัดที่โรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และผ่านการฝึกงานในโรงพยาบาลอื่นๆ อีกหลายแห่ง จนในที่สุด เขาได้รับใบประกอบโรคศิลปะครั้งแรกในรัฐแมสซาชูเซตส์เมื่อปี 1973 และต่อมาได้รับใบประกอบโรคศิลปะที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2004

ดีพักเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง ด้วยวัยเพียง 30 ปี เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะแพทย์ที่โรงพยาบาล New England Memorial Hospital ในรัฐแมสซาชูเซตส์

 

ดีพัก โชปรา
@punjabigram.com

 

ถ้าความแน่นอนมีจริง คุณหมอหนุ่มน่าจะมีความสุขกับชีวิตมาก ทว่าความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม ภาระหน้าที่ที่หนักหน่วงทำให้ดีพักใช้ชีวิตอย่างไม่ใส่ใจ ดื่มกาแฟทีละกา สูบบุหรี่วันละหลายซอง และนอนไม่หลับเลยถ้าไม่ได้ดื่มเหล้าสก็อตช์

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางชีวิตที่วุ่นวายยุ่งเหยิง เขาก็เริ่มเห็นสิ่งที่แพทย์ด้วยกันมองข้าม นั่นคือ การแพทย์สมัยใหม่ไม่สามารถช่วยคนไข้ได้อย่างแท้จริง

“ทั้งหมดที่ผมทำคือการดูแลอาการของผู้ป่วยคนแล้วคนเล่า และเขียนใบสั่งยาราวกับว่าเป็นเซลส์ที่ปั่นยอดใบสั่งยาเท่านั้น”

วันหนึ่งในปี 1983 ดีพักได้เจอหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการทำสมาธิแบบทีเอ็ม* ซึ่งคิดค้นโดย มหาริชี มเหช โยคี (Maharishi Mahesh Yogi) หลังจากอ่านจบ ดีพักก็ปฏิบัติตามวิธีที่บอกไว้ในหนังสือ และยังชวนภรรยาให้ปฏิบัติด้วย จนในที่สุดสามารถเลิกพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบเก่าได้ภายในเวลาแค่ 2 เดือน

 

ดีพัก โชปรา
ดีพัก โชปรา กับ มหาริชี มเหช โยคี ในปี 2008   @bienfaits-meditation.com

 

เขาและภรรยาตัดสินใจเดินทางไปที่ประเทศอินเดีย เพื่อศึกษาศาสตร์การรักษาแบบอินเดียโบราณ ดีพักได้เข้าคอร์สของมหาริชี มเหช โยคี และได้ร่ำเรียนศาสตร์การรักษาแบบองค์รวมที่ใช้สมุนไพรและการทำโยคะร่วมกับการทำสมาธิ ซึ่งเรียกรวมกันว่า อายุรเวท กับโยคีท่านนี้

 

ดีพัก โชปรา
@nytimes.com

 

เมื่อกลับมาถึงสหรัฐอเมริกา เขาได้เปิดศูนย์การรักษาแบบอายุรเวท และเป็นตัวแทนขายผลิตภัณฑ์จำพวกสมุนไพรตำรับมหาริชีด้วย (แต่ภายหลังได้แยกตัวเป็นเอกเทศ)

ปี 1985 ดีพักกลายเป็นคุณหมอที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ประสานศาสตร์การรักษาแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันเป็นคนแรก เขาให้ความสำคัญกับจิตใจของคนไข้อย่างที่ไม่เคยมีหมอในโลกตะวันตกคนไหนเคยทำมาก่อน และสามารถช่วยผู้ป่วยให้หายได้จริง แม้แต่คนที่เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายก็รักษาหายมาแล้ว (หรือแม้ไม่หาย คนไข้ก็จะสบายใจขึ้น) ส่วนคนที่ไม่ป่วยกายแต่ป่วยใจ ก็ได้พลังชีวิตจากการอ่านหนังสือหรือฟังการบรรยายของเขา ทำให้ดีพักได้รับรางวัลด้านการแพทย์นับไม่ถ้วน ในปี 1999 นิตยสาร ไทม์ ยกย่องให้ดีพักเป็นหนึ่งในร้อยบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกในศตวรรษที่ 20 แม้แต่ เลดี้กาก้า นักร้องสาวที่ดังที่สุดของปีนี้ก็ยังออกปากว่า ดีพักคือคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเธอมากที่สุด

 

ดีพัก โชปรา
@ladygagamonsterball.blogspot.com

 

ดีพัก โชปรา
@biography.com

 

ในเบื้องต้นดีพักจะสอนให้คนไข้ลดความเครียดของตัวเองด้วยการฟังเสียงเตือนจากร่างกาย เขายังให้คนไข้ปรับวิธีการใช้ชีวิต เช่น กินให้ถูกวิธี ปฏิบัติสมาธิ มองโลกในแง่บวก และที่พูดถึงมากที่สุดคือ ให้มี จิตสำนึกของจักรวาล (Cosmic Consciousness) ดีพักอธิบายว่า เนื้อแท้ของมนุษย์คือจิตสำนึก (Consciousness) ซึ่งทุกคนสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ ถ้าเราอยากให้โลกสงบสุข วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือหาความสงบให้ตัวเอง ไม่ตัดสินคนอื่น ให้อภัย ไม่โกรธแค้น ฯลฯ เพราะเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

 

ดีพัก โชปรา
@en.wikipedia.org

 

“เมื่อใดก็ตามที่คุณตระหนักถึงจิตวิญญาณที่อยู่ในสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว เช่น เมื่อมองดอกไม้ คุณเห็นความงดงามล้ำค่าของมัน เมื่อมองโทรศัพท์สักเครื่อง โต๊ะสักตัว รองเท้าสักข้าง แล้วมองเห็นความไม่สิ้นสุดของมัน เมื่อนั้นความเป็นนิรันดร์จะปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง…คุณจะเห็นโลกทั้งใบที่สร้างขึ้นจากมือของตัวเอง”

ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสับสนในอดีต คลี่คลายมาเป็นชีวิตที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ทำให้ดีพักมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะส่งสารออกไปว่า ชีวิตอยู่ในกำมือของเรา…ชีวิตยุ่งเหยิงได้ ล้มเหลวได้ เครียดได้ ช้าได้ หยุดได้ และพัฒนาได้เช่นกัน…

แต่อย่าลืมว่า เราต้องอยู่ด้วย ความหวัง ไม่ใช่ความคาดหวัง

 

*TM (Transcendental Meditation) เป็นการทำสมาธิรูปแบบหนึ่งที่เน้นการทำจิตให้สงบนิ่งเพื่อการผ่อนคลายและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มีวิธีการฝึก 7 ขั้น แต่ละขั้นมีจุดหมายให้เราปล่อยวาง ไม่ใช้ความคิด และให้เชื่อในศักยภาพที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์

 

Secret Box

In the midst of movement and chaos,
keep stillness inside of you.
ท่ามกลางความวุ่นวายและสับสน
จงรักษาใจตนให้นิ่งสงบ
– ดีพัก โชปรา –

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

เรื่อง  Violet

ภาพ  sun-sentinel.com

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.