คุณเมตตา อุทกะพันธุ์

ประสบการณ์ ลัด สั้น ถูก ตรง สู่การบรรลุธรรม โดย คุณเมตตา อุทกะพันธุ์

ประสบการณ์ ลัด สั้น ถูก ตรง สู่การบรรลุธรรม โดย คุณเมตตา อุทกะพันธุ์

หลายคนคงเคยเกิดคำถามว่า ฆราวาสที่ต้องทำงานเลี้ยงชีพและดูแลครอบครัวอย่างเราๆ จะสามารถบรรลุธรรมได้หรือไม่ และคิดว่าเส้นทางสายธรรมไม่สามารถบรรจบกับการดำเนินชีวิตนอกเพศบรรพชิตได้ คุณเมตตา อุทกะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  ขอไขข้อข้องใจ จากประสบการณ์การปฏิบัติตามแนวสุขาปฏิปทา ซึ่งจะทำให้การดำเนินชีวิตบนพื้นฐานสู่การบรรลุธรรม ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป

เหตุใดคุณเมตตาจึงหันมาสนใจธรรมะและการปฏิบัติธรรมคะ

“ดิฉันเริ่มหันมาสนใจธรรมะเพราะความทุกข์อันเกิดจากการสูญเสียสามีที่รัก คือคุณชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)   ช่วงนั้นทุกข์มาก พอทุกข์หนัก  ก็อยากหาทางออกจากความทุกข์

“เวลานั้นมีทั้งคนรู้จักและไม่รู้จักหลายคนส่งหนังสือธรรมะมาให้พร้อมกำลังใจ พอเริ่มอ่าน ความทุกข์บางอย่างก็คลี่คลายลงได้บ้าง แต่ก็ยังคงทุกข์อยู่

“กระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนสนิทที่ปฏิบัติธรรมมานานแนะนำให้ดิฉันไปปฏิบัติธรรม ตอนนั้นการปฏิบัติธรรมในความรู้สึกของดิฉัน คือ การนุ่งขาวห่มขาว ถือศีลกินเจ จึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่าแล้วเราจะพ้นทุกข์ได้อย่างไร แม้รู้สึกสนใจ แต่ไม่ได้ขวนขวาย กระทั่งวันหนึ่งได้รู้จักกับคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ซึ่งบอกว่ากำลังจะจัดคอร์สปฏิบัติธรรมที่จังหวัดจันทบุรี โดย พระอาจารย์มานพ อุปสโม ดิฉันสนใจจึงชวนลูกสาวไปด้วย นั่นคือจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติธรรม”

ประสบปัญหาในการปฏิบัติธรรมบ้างไหมคะ

“ช่วง 7 คืน 8 วันของการปฏิบัติธรรมครั้งแรก ดิฉันได้เรียนรู้แก่นธรรมของพระพุทธเจ้า และเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทางที่ถูกต้องนั้นไม่ได้มีแค่ศีลเพียงอย่างเดียว แต่ต้องประกอบด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา หรือที่เรียกว่ามรรคมีองค์ 8 ซึ่งเป็นหนทางที่พระพุทธเจ้าให้ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต

“หลังกลับมาจากปฏิบัติธรรมช่วงแรกๆ ดิฉันรู้สึกว่าความโศกเศร้าที่มีนั้นเบาคลายลงไป และมีสมาธิตั้งมั่น ตั้งใจว่าจากนี้จะไม่โกรธอีก อาจเป็นเพราะเรายังอยู่ในปิติอันเกิดจากการปฏิบัติ  หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน พอจิตเริ่มกลับเข้ามาสู่สภาวะปกติในชีวิตประจำวัน เมื่อมีเรื่องมากระทบดิฉันกลับรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  จึงรู้ว่าเรายังต้องฝึกฝนอีกมาก

“ดิฉันพยายามฝึกปฏิบัติด้วยการนั่งสมาธิ สวดมนต์ เดินจงกลม หนึ่งชั่วโมงก่อนนอน  แต่พอช่วงกลางวัน เรากลับหลงลืม ปล่อยจิตให้ไหลไปอยู่กับงานและอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรียกว่าไม่ได้นำเอาสิ่งที่ปฏิบัติในช่วงกลางคืนมาใช้ในตอนกลางวันด้วย

“ระหว่างนี้ ดิฉันก็ไปหาครูบาอาจารย์อยู่เสมอ ทั้งพระอาจารย์มานพ อุปสโม อาจารย์คนแรกผู้ปูพื้นฐานที่ดีให้ดิฉันทั้งในทางปริยัติและปฏิบัติ หลวงพ่อมนตรี ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดุลย์ที่ป่าละอู ผู้ที่สอนเรื่องการดูจิตโดยตรง หลังจากนั้นก็มาศึกษากับพระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ที่สอนเรื่องการดูจิตเช่นกัน ก่อนจะไปศึกษาแนวทางของท่านโกเอนก้าที่เน้นเรื่องการดูเวทนาให้เห็นความเป็นอนิจจัง เพื่อให้จิตของเราตั้งมั่นอยู่ในอุเบกขา

“การปฏิบัติเหล่านี้ เป็นเสมือนรากฐานสำคัญที่ทำให้ดิฉันเข้าใจในธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งดิฉันได้พบธรรมมะและแนวทางการปฏิบัติของท่าน Camouflage ที่มาช่วยเสริม เติม และตอบข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม”

รู้จักท่าน Camouflage ได้อย่างไรคะ

“ต้นปี 2560 คุณวิภา จุลชาติ เพื่อนในกลุ่มปฏิบัติธรรมมอบหนังสือให้ดิฉัน 2 เล่ม คือ  ความปกติ…ที่หายไป และการเดินทาง…ที่ปราศจากผู้เดิน  ภายในมีซีดีธรรมบรรยายของท่าน Camouflage ที่ถอดเทปออกมาเป็นหนังสือทั้งสองเล่มอยู่ด้วย

“ดิฉันเริ่มเปิดฟังซีดีแผ่นแรก ต่อด้วยแผ่นที่สองด้วยความสนใจ ก่อนจะเปิดฟังซ้ำไปมาอีกหลายสิบรอบ เพราะธรรมบรรยายของท่าน Camouflage ช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมที่อยู่ในใจดิฉันมาตลอด 14 ปี

“ท่าน Camouflage เป็นตัวอย่างหนึ่งของฆราวาสที่เข้าถึงธรรมะตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 40 ปี โดยแนวทางของท่านเป็นแบบ “สุขาปฏิปทา” ที่เหมาะสำหรับฆราวาสที่ยังต้องใช้ชีวิตทางโลก ต้องดูแลครอบครัวและทำมาหาเลี้ยงชีพ”

แนวทางการปฏิบัติของท่าน Camouflage เป็นอย่างไรคะ

“วิธีการสอนของท่าน Camouflage เป็นทางลัด สั้น ถูก ตรง สู่จิตเดิมแท้ หรือที่ท่านใช้คำว่า “ความปกติ” ซึ่งครูบาอาจารย์แต่ละท่านอาจเรียกความปกตินี้ด้วยชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น จิตประภัสสร จิตพุทธะ สุญญตา นิพพานชิมลอง หรือนิพพานระหว่างวัน  สภาวะที่มีชื่อเรียกต่างกันนี้ คือ สภาวะเดียวกันที่มีระดับความเข้มข้น หรือความใสสะอาดบริสุทธิ์ของจิตที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเพียร คุณภาพ ความใส่ใจ และระยะเวลาในการฝึกปฏิบัติของแต่ละบุคคล

“ท่าน Camouflage บอกถึงวิธีที่จะเข้าถึงสภาวะ “ความปกติ” ด้วยหลักสำคัญที่ท่านเน้นย้ำและถือเป็นหัวใจของการปฏิบัติ นั่นคือ การหลุดออกจากความคิดปรุงแต่งทั้งปวง ด้วยเครื่องมืออันทรงพลังที่เราทุกคนมีกันอยู่แล้ว คือ ความรู้สึกตัว และสภาวะของใจที่เป็นปกติ ซึ่งเป็นสภาพไร้กิเลส ไร้ราคะ ไร้โทสะ ไร้โมหะ

“เมื่อจิตใจอยู่ในสภาพที่เป็นปกติมากขึ้นเรื่อยๆ ความแส่ส่ายออกไปข้างนอกด้วยวามฟุ้งซ่านอันเกิดจากการรับรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็จะลดลงเองโดยอัตโนมัติ และเมื่อความแส่ส่ายลดลง สัมมาสมาธิหรือจิตตั้งมั่นก็จะเริ่มก่อตัวขึ้น จนเป็นกำลังสำคัญที่จะนำเราไปสู่การเจริญวิปัสสนาญาณ เห็นไตรลักษณ์ เข้าใจปฏิจจสมุปบาท และธรรมะชั้นสูงขึ้นด้วยวิธีการง่ายๆ เช่นนี้”

ร่วมค้นพบความสุขอันประเสริฐที่เกิดจากการบรรลุธรรมบนวิถีสุขาปฏิปทาไปพร้อมกันใน ลัด สั้น ถูก ตรง สู่การบรรลุธรรม แล้วคุณจะรู้ว่าฆราวาสก็สามารถบรรลุธรรมได้


บทความที่น่าสนใจ       

อู๊ด OZEEOOS แร็ปเปอร์ผู้สร้างแรงบันดาลใจ ความกล้า และความเชื่อ บนเวที

ท้อแท้ แต่อย่าท้อถอยกับ 7 ข้อคิด และ คำคมสร้างแรงบันดาลใจ จุดไฟให้ชีวิต

James Kearsley ชายหนุ่มผู้ เอาชนะโรคร้าย กลายมาเป็นนักเพาะกายสร้าง แรงบันดาลใจ

10 ข้อคิดสร้างแรงบันดาลใจจาก แจ็ค หม่า

ออกแบบความคิดพิชิตฝัน แรงบันดาลใจผ่านตัวอักษรของ เอกพนิฏฐ์ นาคนคร

เรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ เริ่มวันนี้ยังไม่สาย! คุณตาวัย 82 ปี เรียนวิทยาลัยพร้อมหลานสาว

 

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.