อาหนิง นิรุตติ์

ชีวิตนอกจอของ อาหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา พระเอกตลอดกาล

ชีวิตนอกจอของ อาหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา พระเอกตลอดกาล

นิตยสารซีเคร็ตเคยได้มีโอกาสสัมภาษณ์ อาหนิง นิรุตติ์ เมื่อตอนปี 2552 ถึงความรักในครั้งนั้น เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เด็ก จนถึงปัจจุบัน และความสุขในแบบของอาหนิง ลองติดตามอ่านกันเลยค่ะ >>>

ท้องฟ้าในคืนหนาว อาจจะไม่มีความหมายอันใดสำหรับใครบางคน แต่สำหรับเขา…นิรุตติ์ ศิริจรรยา ช่วงเวลาที่ได้นั่งนิ่งๆมองดาวบนฟ้าเงียบๆ เพียงลำพังที่ “ไร่ทองจันทร์” กลับนำความสุขใจมาให้อย่างประหลาด

เป็นที่ทราบกันดีว่า คุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา หรือที่ใครต่อใครเรียกขานด้วยความเคารพว่า “อาหนิง” ได้หลีกเร้นหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ไปใช้ชีวิตที่บ้านไร่จังหวัดจันทบุรีมากว่าห้าปีแล้ว

หลังสูญเสียภรรยาผู้เป็นที่รัก คุณอรวรรณ ศิริจรรยา จากอุบัติเหตุเมื่อปี 2539 เขาก็เดินทางไปอยู่สหรัฐอเมริกานานถึงหกปี ก่อนจะกลับมาเมืองไทย โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงอีกครั้ง และครองตัวเป็นโสดตลอดมา

นักแสดงรุ่นน้องหลายต่อหลายคนต่างยึดเขาเป็นแบบอย่างและเรียกเขาว่า “พ่อ” อย่างสนิทใจ ส่วนแฟนคลับของเขามีตั้งแต่รุ่นเล็กจนถึงรุ่นใหญ่ แทบจะเรียกได้ว่า มีนักแสดงน้อยคนนักที่สามารถครองใจทั้งเพื่อนร่วมงานและผู้ชมหลากหลายวัยได้อย่างยาวนานเช่นเขา

ระหว่างการสัมภาษณ์ เขาตอบทุกคำถามอย่างตั้งใจ บางช่วงที่เอ่ยถึงภรรยา น้ำเสียงและแววตาของเขาแสดงให้รู้ว่ายังมีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “ชีวิตมนุษย์ก็อย่างนี้ ไม่มีอะไรนิ่ง แม้แต่น้ำยังพลิ้วไหว”

ใครต่อใครต่างสงสัยว่า ผู้ชายที่ใช้ชีวิตบั้นปลายแต่เพียงลำพังขาดคนรู้ใจ จะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาบ้างเชียวหรือ คำกล่าวที่ว่า “โสด…แต่สุข” นั้นเป็นจริงแค่ไหน คงต้องค้นหาความจริงกันหน่อยแล้ว

ตอนเด็กๆ ดูท่าอาหนิงจะซนเอาเรื่องเหมือนกันใช่ไหมคะ

เรียบร้อยคงไม่ใช่ แก่นไหม ก็พอสมควร ผมเล่นซนแบบเด็กผู้ชาย สมมติวันหยุดไม่ต้องไปโรงเรียนก็จะมีคนสวนที่บ้านพาไปหาปลา จับปลา ว่ายน้ำในคลองเล่นกับเพื่อนแถวบ้าน เมื่อก่อนบ้านผมอยู่หลังสวน คนสวนก็จะสอนเราจับปลา ได้ปลาฉลาด ปลากระดี่ ปลาสลิด ฯลฯ บางครั้งก็ทำจั่นจับปลา ได้ปลาครั้งละตัวสองตัว เราก็เอามาก่อไฟปิ้งกิน

เวลาอยู่กับเพื่อนที่โรงเรียน  (โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก) ก็เล่นฟุตบอลกัน โรงเรียนผมค่อนข้างที่จะเฮี้ยบ ผมจึงค่อนข้างมีระเบียบเพราะถ้าไม่มีระเบียบคงไม่จบ โรงเรียนผมจะไม่มีการอำ แหย่ หรือแกล้งกันอย่างสมัยนี้ เรียนก็คือเรียน เลิกเรียนคือกลับบ้าน…เท่านั้น

ตอนเป็นนักเรียนผมโดนทำโทษบ่อย เพราะความยวนของตัวเอง ผมแกล้งลองดีด้วยการติดกระดุมคอเม็ดบนสุด เลยโดนทำโทษให้ติดอย่างนั้นปีหนึ่งเต็มๆ บางครั้งก็โดนทำโทษให้อยู่เย็น อยู่เย็นหมายความว่าสามโมงสี่สิบทุกคนกลับบ้าน แต่ผมต้องอยู่ถึงห้าโมงเย็น เอาการบ้านมานั่งทำอยู่ปีหนึ่ง หรือไม่ก็โดนทำโทษให้วิ่งรอบโรงเรียน ทั้งโรงเรียนจะเห็นเราวิ่งอยู่คนเดียว นั่นคือโทษที่รุนแรงที่สุด แบบเซียนที่สุดแล้วถึงจะโดน

แล้วคุณแม่คุณนิรุตติ์มีวิธีการสอนลูกอย่างไรบ้างคะ

แม่ของผมเป็นทั้งแม่ ทั้งเพื่อน ทั้งพ่อ ทั้งพี่ เป็นทั้งพยาบาลทั้งหมอ ที่ผมทำกับข้าวเป็นทุกวันนี้ก็เพราะแม่ เริ่มจากเจียวไข่ ถ้าตีไข่ฟองอากาศยังไม่ขึ้นแล้วส่งให้แม่ แม่จะร่อนออกทางหน้าต่างไปเลย หรือถ้าน้ำมันยังไม่ร้อน แม่ก็จะว่าว่าอย่างนี้เทไข่ลงไปแล้วไข่จะฟูได้ยังไง ตำน้ำพริกอะไรต่ออะไรแม่ก็สอนหมด น้ำพริกเผาทำอย่างไร เอาพริกแห้ง หอม กระเทียม มาผ่าล้างอย่างไร ต้องบอกว่าระเบียบในชีวิตเริ่มต้นมาจากครอบครัวก่อน แล้วจึงไปต่อที่โรงเรียน

คุณแม่ดุไหมคะ

ไม่มีแม่คนไหนที่ไม่ดุ แต่ไม่ใช่ดุเหมือนเสือจะกินลูก คือดุหรือตีเพราะต้องการให้ลูกได้ดี เวลาแม่จะตีก็ให้ไปเด็ดก้านมะยมมาก่อน รูดใบออกให้หมด ก่อนตีท่านจะถามว่า จะให้ตีกี่ที แล้วถึงจะตี สำหรับผม แม่ถือเป็นครู แม่คือผู้ที่อบรมสั่งสอนผมให้อยู่ในระเบียบวินัย คำโบราณที่สอนว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี นั้นผมยังเชื่ออยู่

สมมติวันหนึ่งมีลูก คิดว่าจะสอนแบบไหนคะ

คิดว่าจะสอนด้วยเหตุและผล การตีคงน้อย ต้องคุยให้เข้าใจส่วนตัวแล้วผมเชื่ออยู่บ้างว่า “ไม้เรียวสร้างคน” ถ้าจะให้เด็กมีระเบียบวินัยด้วยการตี ก็ต้องฝึกเขาตั้งแต่อายุ 7 – 12 ปี ถ้าเข้าวัยรุ่น13 ปีขึ้นไปต้องใช้คำพูด ใช้เหตุผล ไม่อย่างนั้นเด็กจะมุทะลุไปเลยซึ่งทั้งหมดมาจากการอบรมของครอบครัว

แม่ของผมเป็นครูที่ดีที่สุดในโลก แถมเรียนโรงเรียนนี้ (คือเรียนที่บ้านโดยมีแม่เป็นครู) ยังได้สตางค์อีกด้วย เพราะแม่ให้สตางค์ทุกวัน แต่ทุกวันนี้โรงเรียนนี้กำลังเสื่อม สภาพสังคมกำลังเสื่อม มีเด็กติดยาบ้า เด็กฆ่าแท็กซี่ เด็กซ้อนมอเตอร์ไซค์บิดแว้นๆ

สมัยนี้พ่อแม่ไม่ได้อบรมลูกเหมือนเมื่อก่อน เพราะใช้เงินเลี้ยงใช้ต่างชาติเลี้ยง ไม่กล้าดุลูก กลัวลูกไม่รัก เมื่อโรงเรียนนี้ขาดครูใหญ่ดูแลก็ล่มสลาย

ทำอย่างไรถึงจะอยู่คนเดียว แต่ก็ยังมีความสุขได้ล่ะคะ

ผมมีความรักและความเข้าใจจากเพื่อนร่วมงาน เวลาไปกองถ่ายแค่ได้ซื้อขนมมากินด้วยกันก็มีความสุขแล้ว บางครั้งผมอยู่โป่งน้ำร้อนจังหวัดจันทบุรี มีงานถ่ายที่เมืองกาญจน์ก็ได้ไปเจอผู้ร่วมงานใหม่ๆหรือไปเขาใหญ่ก็ได้เจอเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง ขับรถกลับบ้านโป่งน้ำร้อนเจอเจดีย์ 3 องค์ เป็นเจดีย์เก็บอัฐิของคุณแม่ คุณย่า คุณอรวรรณผมก็มีความสุขที่ได้นั่งคุยกับเขา เขาจะได้ยินผมหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมไม่ได้ยินเขาแน่ (หัวเราะ) แค่มีหมาอีกตัวนั่งอยู่ข้างๆ ก็มีความสุขแล้ว

ผมไม่ยึดติดว่าความสุขต้องเป็นเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วทำให้ยิ้มได้เท่านั้น ความสุขของผมเกิดขึ้นได้ทุกวันทุกเวลา แล้วแต่ว่าจะไปเจอะเจอใครหรือทำอะไร หรือไปอยู่ในสถานที่ไหน ความสุขที่ผ่านมาผมไม่เคยจำ ส่วนความทุกข์ที่ผ่านมาก็ทิ้งไปหมด

ทุกวันนี้เราก็มีความสุขได้ แค่ตื่นเช้าขึ้นมา ได้ดื่มน้ำดีๆ ดื่มกาแฟอร่อยๆ หอมๆ ก็มีความสุขแล้ว ต้องเข้าใจสัจธรรมว่า ความสุขความทุกข์ไม่อยู่กับเรานาน ถ้าทุกข์นานก็ฆ่าตัวตายไปแล้วสุขอยู่กับเรานานอาจจะหัวเราะคนเดียวจนต้องเข้าโรงพยาบาลบ้า  เพราะฉะนั้นชีวิตเราจึงปนไปด้วยสุขและทุกข์ ไม่มีอะไรจีรัง ไม่มีอะไรจะอยู่กับเราได้ตลอดไป แม้กระทั่งตัวเราเอง

ผมคิดว่าความสุขมีได้เยอะแยะ เห็นอะไรก็มีความสุขได้อย่างหน้าหนาวที่ไร่ทองจันทร์ กลางคืนผมก็นั่งมองดาวบนฟ้า คนถามว่า ไม่เหงาเหรอ…ไม่นะ เพราะเวลาผมนั่งมองดาว ผมเห็นอะไรมากมาย คนที่มองไม่เห็นหรือเห็นแต่ดาวสิเหงา แต่ผมมองดาวแล้วเห็นเป็นภาพมากมาย พอมีเมฆมาบังเป็นแบบนี้ มีภูเขาอยู่ข้างหลังดาวสวยแบบนี้ มีภาพเกิดขึ้นตลอดเวลา พอง่วงผมก็นอนจึงอยู่ได้

บางคนบอกว่า “งานทำให้มีความสุข” ผมว่าไม่ใช่หรอก งานไม่ได้ทำให้เรามีความสุข แต่เราต่างหากที่บังคับจิตใจของเราให้“มีความสุขกับงาน” ตัวงานจริงๆ มีความเครียด ต้องคิด มีปัญหาให้เราแก้ไข แต่เราจะมองงานนั้นอย่างไร อย่างหมอผ่าตัดลงไปในเนื้อคน เลือดพุ่งจี๊ด ถามว่าตอนนั้นหมอมีความสุขไหม…คงไม่ แต่จะมีความสุขต่อเมื่อคนไข้หายป่วย ผลจากงานมากกว่าที่ทำให้เรามีความสุข เพราะได้ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น

 

Secret Box

เคล็ดลับของการอยู่เป็นโสด…แต่มีความสุข ในแบบของนิรุตติ์ ศิริจรรยา

  • รู้จักเก็บเกี่ยวความสุขเล็กๆ จากสิ่งใกล้ตัว เช่น อาหารอร่อยๆ เพื่อนร่วมงานดีๆ ธรรมชาติที่สวยงาม
  • ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเพื่อรบกวนตัวเองและคนอื่นให้น้อยที่สุด
  • แบ่งเวลาทำประโยชน์เพื่อสังคม
  • เข้าใจสัจธรรมของชีวิตว่าทุกข์สุขไม่จีรัง เพื่อละวางจากความยึดติด
  • ใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบวินัย เพื่อความสำเร็จของงาน
  • ให้ความสำคัญและมีความสุขกับผลของงานมากกว่าตัวงานที่ต้องทำ

กดคลิกอ่านเรื่องราวชีวิตทางธรรมของอาหนิงนะคะ

กดคลิกที่นี่ได้เลยค่ะออเจ้า

เรื่อง อุษาวดี สินธุเสน, เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ

ภาพ ณัฐวุฒิ เพ็งคำภู, อนุพงศ์ เจริญมิตร

ภาพปก ch3Thailand, นิตยสาร Secret


บทความน่าสนใจ

โสด แต่สุข บทบาทที่เลือกเอง ของ นิรุตติ์ ศิริจรรยา ออกญาโหราธิบดี ใน บุพเพสันนิวาส

6 พฤติกรรม ที่มิควรเอาแบบอย่าง จากละครบุพเพสันนิวาส

เปิดความลับ คุณพี่หมื่นสุนทรเทวา ในชีวิตจริง กับเรื่องราวที่ไม่ค่อยมีใครรู้

ล้วงลึกถึงหัวใจ โป๊บ ธนวรรธน์ อ่านแล้วจะตกหลุมรัก

จงปล่อยวาง ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ธรรมะสอนใจ จากพระไพศาล วิสาโล

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.