อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

ความสุขคือการมุ่งไปข้างหน้า ของ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

It’s just a life.

สี่ห้าปีก่อนผมมีปัญหากับการจัดการอารมณ์ตัวเองเยอะมาก เอะอะอะไรก็ใช้อารมณ์นำ ขนาดเล่นหนังเสร็จผมก็ยังเอาวิญญาณของตัวละครกลับบ้านด้วยเลย หนักเข้าก็ฟุ้งซ่านและหมกมุ่นจนนอนไม่หลับ

อาการนอนไม่หลับนี้เคยเล่นงานผมอยู่นานเป็นเดือนๆ จนช่วงนั้นผมเหนื่อยมาก ร่างกายอ่อนเพลียจนแทบไม่ไหวแล้ว ขณะเดียวกันผมก็เริ่มคิดว่า “เราทำได้แทบทุกอย่างในโลก แต่ทำไมแค่การนอนหลับง่ายๆ เรากลับทำไม่ได้”

ผมตัดสินใจไปหาจิตแพทย์ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายจึงบอกกับตัวเองว่า ถ้านอนไม่หลับก็ไปอ่านหนังสือ เล่นเกม หรือออกวิ่ง วิ่งและวิ่ง ใช้พลังให้หมดกันไปเลย ไม่นอนก็ไม่เป็นไร ผมทำอย่างนี้อยู่สักพักจนเริ่มรู้สึกว่า “ลองเลิกสู้กับร่างกายตัวเองดีไหม ปล่อยไปตามธรรมชาติ แล้วกลับมาดูที่วิธีคิดของเราเองดีกว่า”

ผมค่อยๆ ทบทวนสิ่งที่ผ่านมาและคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดคือ ต้องปิดสวิตช์ตัวเองให้เป็น แยกแยะเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวให้ออกไม่เอามาปะปนกัน จากนั้นก็ต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง เพราะโลกนี้ไม่มีใครที่จะเพอร์เฟ็คท์ไปทุกอย่าง มีได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่เห็นเป็นอะไร อย่าคิดหมกหมุ่น

หลังจากนั้นไม่ว่าเจอกับอะไร ผมก็บอกกับตัวเองว่า “It’s just a life.” ทิ้งเรื่องยุ่งๆ ไว้ข้างหลังแล้วย่ำไปข้างหน้า ด้วยหลักง่ายๆอย่างนี้ ทุกวันนี้การนอนไม่หลับจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมอีกต่อไป

 

เปลี่ยนความคิดด้วยโปรเจ็คท์ 99 วัน

ช่วงที่ผมมอเตอร์ไซค์คว่ำ เดินไม่ได้อยู่เกือบ 6 เดือน นอกจากต้องเลื่อนงานทุกอย่างออกไปหมดแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ผมได้อยู่นิ่งๆ โดยไม่มีอะไรทำเลย (ลากเสียงยาว) อีกด้วย

ผมจึงลองเขียนไดอะรี่ดู เขียนในสิ่งที่เราต้องการจะเห็น อยากจะทำ และอยากจะไปหลังจากที่หายดีแล้ว แต่สุดท้ายจากไดอะรี่ธรรมดาๆ ก็กลายเป็นโปรเจ็คท์แรกของผมไปจริงๆ แถมยังเป็นโปรเจ็คท์ที่เล่าเรื่องด้วยภาพถ่ายที่ผมถ่ายเองด้วย เพราะผมคิดว่าแค่เขียนถ่ายทอดความคิดอย่างเดียวคงไม่ดีพอ

หลังเริ่มโปรเจ็คท์ได้สักพัก สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมก็คือ

“พอเราเดินทางไปเรื่อยๆ เราจะไม่สามารถกำหนดภาพอย่างที่ต้องการได้ เพราะสิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุดไม่ใช่ความคิดเรา แต่เป็นสิ่งที่เราได้เห็นและได้สัมผัส ณ ช่วงเวลานั้นจริงๆ”

เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจึงเปลี่ยนมุมมองให้กว้างขึ้น หันมานำเสนอเรื่องราวของคนไทยทั่วๆ ไปแทน ไม่ได้เกี่ยวกับตัวผมอย่างเดียวเหมือนที่คิดไว้ตอนแรก การได้ถ่ายภาพตามติดผู้คนหลากหลายอาชีพมีผลต่อความคิดผมมากขึ้นไปอีก จากเดิม ที่ผมเคยคิดว่าชีวิตต้องเป็นอย่างนี้เท่านั้น คนทำงานอย่างนี้ ต้องมีบุคลิกอย่างนี้…แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย

“เสน่ห์ของชีวิตคือความแตกต่าง” ความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเราจะไม่มีวันรู้เลยถ้าหากไม่ได้สัมผัสคนคนนั้นด้วยตัวของเราเอง เพราะคนส่วนมากมักตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่เห็น หรือข้อมูลที่รับรู้มา หรือจากความคิดที่ปรุงแต่งเอาเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

เรื่อง  วรลักษณ์ ผ่องสุขสวัสดิ์

ภาพ  ฝ่ายภาพ อมรินทร์พริ้นติ้งฯ

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine


บทความน่าสนใจ

อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส “วันนี้ฉันคือ ผู้ปรารถนานิพพาน”

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.