เผยตัวจริงของแคทรียา อิงลิช ดาราสาวที่ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อ “พ่อ”

สาวสวยคนนี้ เรามักคุ้นเธอในฐานะนักร้องลูกครึ่งเสียงใส  ผู้มีบุคลิกน่ารักอ่อนหวานครองหัวใจแฟนเพลงมานานกว่ายี่สิบปี  แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่า  เบื้องหลัง แคทรียา  อิงลิชคือลูกสาวที่อุทิศทุกเวลานาทีเพื่อดูแลรักษาพ่อที่ป่วยหนัก  ด้วยหัวใจเข้มแข็งและเปี่ยมไปด้วยความหวังว่า  สักวัน…พ่อจะกลับมาแข็งแรงดังเดิม

 

ทราบว่าเมื่อไม่นานนี้คุณพ่อของคุณแคทป่วยหนัก  ต้องรักษาตัวอยู่ทีโรงพยาบาล  ท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ

ใช่ค่ะ  ตอนนี้คุณพ่อแคทป่วยเป็นมะเร็งสมอง  เพิ่งผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกจากสมองข้างขวาเมื่อปลายเดือนกันยายนนี้เอง  จริง ๆ แล้วคุณหมอนัดตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว  แต่คุณพ่อขอเลื่อน  เพราะเป็นห่วงว่าถ้าผ่าช่วงนั้นแคทจะกังวลจนขึ้นคอนเสิร์ตไม่ไหว  และคุณพ่อก็อยากอยู่ดูคอนเสิร์ตของแคทด้วย  โชคดีที่ได้คุณหมอมือหนึ่งของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ามาช่วยผ่าตัดคุณพ่อ  ตอนนี้อาการของท่านดีขึ้นมากไม่ต้องให้น้ำเกลือหรือห้อยสายระโยงระยางเหมือนคืนแรก ๆ แล้ว  แต่ยังมีอาการเวียนหัวกล้ามเนื้ออ่อนแรงและเกร็งอยู่บ้าง  ซึ่งดูไม่น่าเป็นห่วงถ้าเทียบกับอาการป่วยใจท่านเครียดมาก บ่นว่าไม่อยากอยู่ให้เป็นภาระเลย  บางทีก็น้อยใจว่าตัวเองไม่มีค่า
บ้างละ  ไม่มีประโยชน์บ้างละ  ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิดเลย  พวกเรายอมทำทุกอย่าง ขอแค่ให้คุณพ่อแข็งแรง

 

แล้วใช้วิธีอะไรดูแลอาการป่วยใจของคุณพ่อคะ

ทั้งคุณแม่  น้องชาย  และแคท  จะรู้กันว่า  ต้องทำตัวให้ปกติที่สุด  จะไม่แสดงออกให้คุณพ่อรู้ว่าพวกเราทั้งเครียดและเป็นห่วงท่านมาก

จำได้ว่าวันหนึ่งคุณพ่อบอกแคทว่า“ปล่อยพ่อไปเถอะ  พ่อไม่ไหวแล้ว”แคทตกใจมาก ตอบท่านว่า  “ไม่เอาหรอก
ทำไมพ่อคิดแบบนี้ล่ะ พวกเราสู้เพื่อพ่ออยู่นะ  พ่อก็ต้องสู้ด้วยกันสิ  ไหนพ่อบอกว่าอยากไปล่องเรือสำราญไง”  พ่อร้องไห้แล้วบอกว่า  “พ่อไม่ไหวแล้ว ขอตามไปแบบเป็นวิญญาณแล้วกันนะ”แคทฝืนไม่ร้องไห้ตามแล้วบอกว่า “แล้วถ้าหนูแต่งงาน  ใครจะเดินไปส่งตัวหนูล่ะวิญญาณพ่อเหรอ!”

แล้วแคทก็ทำหน้าทะเล้น  เท่านั้นแหละ คุณพ่อหัวเราะทั้งน้ำตาเลย  แคทรีบพูดต่อว่า  “พ่อไม่อยากเห็นหน้าหลานเหรอแคทว่าหลานคงอยากเห็นหน้าคุณตานะ ก็คุณตาเขาใจดีซะขนาดเนี้ยะ”  คุณพ่อยิ้มแฉ่งแล้วพยักหน้า “อืม ๆ” ซึ่งแค่นี้ก็พอแล้ว

ทุกวันนี้แคทจะชอบทำตัวบ๊อง ๆ ให้คุณพ่อได้หัวเราะ  และแคทก็ไปนอนกับคุณพ่อที่โรงพยาบาลทุกวันด้วย เพราะรู้ว่าท่านรออยู่  มีคืนหนึ่งแคทกำลังนอนเล่นอยู่ข้าง ๆ เตียง  คุณพ่อก็งัวเงียตื่นมามองหาแคท พอเห็นก็ล้มตัวลงไปนอนต่อ  ตอนนั้นแคทสงสัยว่าคุณพ่อเป็นอะไร  จนมารู้จากคุณแม่ว่า  ตั้งแต่มานอนนี่ คุณพ่อหลับไม่ค่อยสนิท  สะดุ้งตื่นมาดูตลอดว่าลูกทั้งสองคนมานอนรึยัง พอครบนั่นแหละคุณพ่อถึงจะหลับ  แคทฟังแล้วร้องไห้เลยจากนั้นไม่ว่าจะเลิกงานดึกดื่น  เลิกเช้าเหนื่อย  หรืออยู่ไกลแค่ไหน แคทก็กลับไปนอนกับคุณพ่อทุกวัน

 

ดูเหมือนคุณแคทจะสนิทกับคุณพ่อมากเลยนะคะ

ใช่ค่ะ  คุณพ่อใจดี  ชอบตามใจไม่ค่อยดุ  ไม่ค่อยตี  ส่วนคุณแม่จะดุบางทีก็ตี  แล้วคุณพ่อก็จะเป็นฮีโร่มาคอย
ปกป้องแคทตลอด (หัวเราะ)  จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เราอยู่กันที่บรูไน  คุณพ่อจะมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ชอบพาไปเที่ยวทะเล  จัดงานปาร์ตี้  หรือไม่ก็ไปเที่ยวที่สมาคมเรือใบ…ไปกันทั้งบ้านเลย  นึกถึงตอนนั้นทีไร แคทก็รู้สึกมีความสุขทุกที…ทุกวันนี้คุณพ่อก็ยังใจดีเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยค่ะ  ปกติท่านเป็นคนไม่ชอบกินขนมหวาน  แต่พอรู้ว่าแคทชอบทำขนมก็จะช่วยชิมให้  ไป ๆ มา ๆก็หมดจานทุกที เมื่อวันก่อนคุณพ่อยังบอกว่าอยากกลับบ้านไปกินแอ๊ปเปิ้ลครัมเบิ้ลฝีมือแคทอยู่เลยค่ะ  แคทก็ได้แต่ภาวนาให้คุณพ่ออาการดีขึ้น  จะได้กลับบ้านเสียที

 

ทราบว่าช่วงนี้คุณแคทมีงานติดต่อเข้ามามาก  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คุณพ่อป่วยพอดี  คิดว่าความกตัญญูมีส่วนช่วยไหมคะ

แคทนับถือพุทธศาสนาค่ะ แต่ไม่เชื่อเรื่องงมงายและไม่คิดพึ่งพาสิ่งที่มองไม่เห็นเพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า จะมีอะไรมาช่วยเราจริง ๆ หรือเปล่า  แคทจะเชื่อเรื่องการทำบุญ  การทำดี  เพราะเห็นผลทันทีที่ทำว่าเรามีความสุข  สบายใจ  บางทีแคทคิดว่าเราคงเป็นคนโชคดีมั้ง  เพราะทุกครั้งที่เจอปัญหาก็มักจะมีสิ่งดี ๆ มาช่วยแก้ไข  หรือ
มาชี้ทางให้แคทลุกขึ้นเดินใหม่ได้เสมอครั้งนี้ก็เหมือนกันค่ะ

 

ใครๆ คงคิดว่าคุณแคทนับถือคริสต์เหมือนคุณพ่อ  ทำไมถึงเลือกนับถือศาสนาพุทธล่ะคะ  

แคทนับถือศาสนาพุทธตามคุณแม่ค่ะตอนเด็ก ๆ แคทชอบตามคุณแม่ไปวัดบ่อย ๆได้ทำบุญ  ตักบาตรตอนเช้า ทำแล้วรู้สึกมีความสุข  อาจเป็นเพราะคุณแม่ปลูกฝังเรื่องนี้มาตลอดด้วยมั้ง  แต่แม่ก็ไม่ได้บังคับนะแคทสมัครใจเอง  ส่วนคุณพ่อไม่ได้นับถือศาสนาอะไรเลยค่ะ  แต่ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าใครที่ได้รู้จักคุณพ่อก็มักจะพูดเหมือน ๆ กัน
ว่า คุณพ่อใจดีและเป็นคนดีมาก

คุณพ่อสอนว่า  “ลูกจะนับถือศาสนาอะไรก็ได้ พ่อแม่ไม่ว่า  เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ชื่อของศาสนา  แต่อยู่ที่ว่าเราเป็นคนดีและไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหรือเปล่า  ถ้าลูกทำได้  จะนับถือหรือไม่นับถืออะไรก็ได้ทั้งนั้นไม่ใช่เรื่องผิด”  แคทก็เลยค่อนข้างมีอิสระในเรื่องนี้มาก  แต่แคทก็ยังเลือกนับถือศาสนาพุทธอยู่ดี  แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาเข้าวัดเหมือนเมื่อก่อน  ปกติแคทชอบไปทำบุญที่ตลาดสด  ซื้อปลาซื้อกบไปปล่อย  เห็นแล้วสงสาร  บางทีมีกบเป็นร้อยตัว  เราช่วยเขาได้ไม่หมด  มันเศร้านะ  แคทเห็นเขาแล้วร้องไห้บ่อยมาก (หัวเราะ)  พอสักพักก็จะคิด
ได้ว่า เราช่วยเท่าที่เราช่วยได้ก็ถือว่าโอเคแล้ว

 

อยู่วงการบันเทิงมานาน  คุณแคทได้ประสบการณ์อะไรเป็นข้อคิดบ้างคะ  

แคทผ่านมาแล้วทั้งช่วงที่ดังมาก ๆและช่วงที่มีงานน้อย  ซึ่งช่วยสอนแคทเรื่องการไม่ยึดติดได้เป็นอย่างดี  โชคดีมากที่แคทเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรเท่าไร  ตอนไม่มีงานแคทก็เลยไม่รู้สึกเศร้าเสียใจอะไร  คิดว่าดีเหมือนกัน  เราจะได้หยุดพักหายใจบ้างแคทเชื่อว่า  คนเราควรถอยหลังบ้างจะได้มีแรงก้าวเดินต่อไป  เพราะถ้าเอาแต่เดินหน้าลูกเดียว สักวันก็คงชนผนัง การได้หยุดพักหายใจ  ทำให้เราได้คิดทบทวนและได้ถอยหลังเพื่อเก็บแรงไว้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงกว่าเดิม  แคทรู้สึกดีนะคะที่ได้พักเพราะไม่อย่างนั้นร่างกายแคทคงแย่ยิ่งกว่านี้เพราะตั้งแต่จบโชว์โหนตัวบนผ้าในคอนเสิร์ตแกรมมี่  แฮ็ปปี้  เฟสติวัล แล้ว  แคทต้องทำกายภาพบำบัดติดต่อกันวันเว้นวันเลย
คุณหมอบอกว่าร่างกายของแคทบอบช้ำมากนี่ขนาดแคทออกกำลังกายเป็นประจำแล้วนะคะ  สงสัยแคทจะแก่แล้วจริง ๆ (หัวเราะ)

 

ถ้าถามว่า ความสุขของแคทรียา  อิงลิชคืออะไร  จะตอบว่า…
ได้ทำในสิ่งที่รักค่ะ  ทั้งได้ทำงานที่รักทำให้คนรอบข้างมีความสุข  ให้เขาได้หัวเราะรวมทั้งได้ดูแลทุกคนในครอบครัวโดยเฉพาะคุณพ่ออย่างเต็มที่ให้ท่านได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกวัน…แค่นี้แหละค่ะความสุขของแคท

 


เรื่อง ชลธิชา  แสงใสแก้ว
ภาพ วรวุฒิ  วิชาธร  ผู้ช่วยช่างภาพ สรยุทธ  พุ่มภักดี,  จรัส  มณีล้อมรัตน์
สไตลิสต์ รุจิกร  ธงชัยขาวสอาด  แต่งหน้า มุทิตา  ประทุมชาติ  ทำผม อนุชา  เหง้าสารี

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.