ช่อผกา วิริยานนท์

ชีวิตมันๆ กับสัจธรรมที่ค้นพบ อุ๊ – ช่อผกา วิริยานนท์ (ตอน 1)

พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า ในโลกนี้มีสิ่งที่ “เป็นไปได้ยาก” อยู่ 4 อย่าง คือ ยากเหลือแสนกว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์ ยากเหลือแสนกว่าจะดำรงชีวิต ยากเหลือแสนกว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติ และยากเหลือแสนกว่าจะได้ฟังสัจธรรมในชีวิต สำหรับ อุ๊ ( ช่อผกา วิริยานนท์ ) แล้ว การเข้าถึงสัจธรรมเป็นสิ่งที่เพิ่งจะได้ค้นพบจริงๆ เมื่อไม่นานมานี้ และสิ่งนี้ก็นำความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมาสู่ชีวิต หนึ่งในนั้นคือ ทำให้อุ๊สะกดคำว่า “ยอม” ในพจนานุกรมเป็น เพราะเมื่อยอมได้ ใจจึงสงบ อานุภาพความเย็นจากการยอมของใจ พลอยช่วยให้คนรอบข้างมีความสุขขึ้นด้วย

แม้อุ๊จะไม่ใช่คนโชคดีที่สุด แต่ตลอดชีวิตที่ผ่านมายังไม่เคยได้เจอกับเรื่องราวที่ทำให้ผิดหวังอย่างรุนแรง จึงไม่แปลกที่เสียงกระซิบภายในจะบอกให้เป็น “หญิงมั่นเกินร้อย” เพราะภูมิใจว่าฉันเป็นผู้หญิงที่พึ่งตัวเองได้ จนกระทั่งวันนั้น…เมื่อเกิดอุบัติเหตุหัวใจ ความรักไม่เป็นไปอย่างที่ใจเคยหวัง อุ๊ต้องยอมรับกับตัวเองอย่างซื่อสัตย์ว่า “นี่คือเรื่องที่ทำให้รู้สึกเสียใจมากที่สุดในชีวิต” นับเป็นความโชคร้ายที่ไม่เคยพานพบ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้กลับกลายเป็นความโชคดี

ด้วยเรื่องแรงๆ ที่เกิดขึ้นได้ช่วยกระตุกให้ต้องหยุดและทบทวน พิจารณาสัจธรรมทั้งหลายในชีวิตที่ได้พานพบ ทั้งการเกิด ความแก่ ความเจ็บป่วย และความตาย จนเชื่อว่า แท้ที่จริงแล้วโลกนี้ไม่มีอะไร มีเพียงใจของเราเท่านั้นที่หลงยึด

แต่กว่าจะหลุดออกมาได้ ก็ต้องผ่านอาการทุรนทุราย อย่างแสนสาหัส…แจ้งเกิดด้วยอาชีพนักข่าว

อุ๊เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง คุณพ่อทำงานธนาคารเป็นมือตรวจสอบเบอร์ต้นๆ ของธนาคารกรุงไทยในยุคนั้น ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้านที่กระฉับกระเฉง ว่องไว พูดเก่ง มีความเป็นนักประชาสัมพันธ์อยู่ในสายเลือด ทั้งแม่ค้าในตลาดหรือคุณครูที่โรงเรียน ทุกคนต้องรู้จักคุณแม่ และถ้าคุณแม่ไปนั่งจ่อมอยู่ที่ไหน ก็จะสามารถสร้าง“เครือข่ายใยแมงมุม” ได้ทันที

อุ๊ลอกเลียนแบบความละเอียดรอบคอบ ความตรงไปตรงมามาจากคุณพ่อ และความมีชีวิตชีวา ช่างพูดช่างคุย และความมั่นใจเกินร้อยมาจากคุณแม่

หลังเรียนจบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อุ๊เริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นนักข่าวโทรทัศน์ ด้วยการให้โอกาสจากดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล และนับแต่นั้นมา ชีวิตเรียบๆ เหมือนผ้าพับไว้ของอุ๊ก็เปลี่ยนไปในบัดดล จากที่ไม่เคยเดินทางไปไหนไกลๆ ก็ได้ออกตระเวนทุกทิศทั่วไทย และไปไกลยังอีกซีกหนึ่งของโลก ต้องขุดคุ้ยหาข่าวที่สดใหม่ให้ถึงที่สุด กลายเป็นชีวิต “ลุยๆ” ที่ยิ่งทำก็ยิ่งมันไม่ต่างจากนักข่าวรุ่นน้องในข่าว สามมิติ ในวันนี้

แล้วชีวิตก็ดำเนินไปตามครรลองของคนบันเทิง จากผู้สื่อข่าว ขยับเป็นผู้ประกาศข่าว แล้วต่อเนื่องไปเป็นพิธีกร นักแสดง นักจัดรายการวิทยุ จนกระทั่งได้ลงทุนทำธุรกิจของตัวเองเมื่ออายุ 25 ปีด้วยการเปิดบริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ รับผลิตรายการโทรทัศน์ ทำงานเบื้องหลังควบคู่เบื้องหน้า และโด่งดังเป็นที่รู้จักจากการเป็นพิธีกรในรายการ “ดาวล้านดวง”

เมื่อย้อนดูชีวิตการทำงาน ต้องบอกว่าอุ๊จัดเป็นบุคคลที่เข้าข่าย“โชคดี” การได้มีโอกาสเป็นช่อผกา วิริยานนท์ ที่ผู้คนรู้จัก จะคิดจะทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จ สามารถจัดการหรือควบคุมให้เป็นไปอย่างที่ใจต้องการได้ คงมีเพียงเรื่อง “ความรัก” เท่านั้นที่อุ๊เพิ่งจะยอมรับเมื่อไม่นานมานี้ว่าไม่สามารถจัดการได้

 

รักออกแบบไม่ได้

ความทุกข์ในอดีตที่กลายเป็นปมแค้นเล็กๆ ในใจ เท่าที่จำได้ก็ตอนเรียนอนุบาล อุ๊โดนเพื่อนผู้ชายแกล้ง เขาใช้หมวกกับโล่ไล่ตีอุ๊ จำได้ว่าอุ๊วิ่งหนีสุดชีวิตเลยและกลัวมากด้วย แต่สุดท้ายอุ๊ก็หกล้มหัวเข่าครูดก้อนหิน เลือดสาด แต่แทนที่จะร้องไห้ อุ๊กลับลุกขึ้นสู้และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยกลัวใครอีกเลย

เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ชีวิตที่เคยเรียบง่ายก็เริ่มสนุกสนานสุดเหวี่ยงท่ามกลางกิจกรรมแสนสนุกเฮฮากับผองเพื่อน ตอนนั้นอุ๊แอบสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน เพราะสัมผัสได้กับภาวะไม่เป็นสุขขนาดเล็กๆรบกวนอยู่ภายใน เพิ่งมารู้คำตอบในช่วงหลังนี้เองว่ามาจากอารมณ์ปรี๊ดปร๊าด ขึ้นเร็ว ลงเร็ว หรือความเว่อของใจ ดีใจก็สุดๆ เสียใจก็สุดๆ จึงทำให้อารมณ์อ่อนไหว ความสุขจึงหล่นหายไปโดยไม่รู้ตัว ตอนนั้นไม่ทราบสาเหตุก็ไปโทษที่บ้านว่ามาวุ่นวายกับชีวิตเรามากเกินไปทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่

แต่แล้ววันหนึ่ง อุ๊ก็ได้รู้จักรสชาติของความทุกข์แบบจังๆ ซึ่งส่งผลตามมาอย่างรุนแรง

อุ๊ก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่คิดว่าวันหนึ่งจะได้แต่งงาน มีลูก มีครอบครัวที่น่ารัก ไม่เคยจินตนาการว่าจะต้องอยู่เป็นโสด ครอบครัวเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับอุ๊ ชีวิตครอบครัวคือความรักและการพร้อมที่จะเสียสละต่อกัน เพราะเป็นสิ่งที่เห็นจากคุณพ่อคุณแม่ว่าท่านเสียสละเพื่อเรามากมาย ครอบครัวเป็นความสุขของชีวิต จึงไม่แปลกที่อุ๊มีแฟนตั้งแต่อายุ 15 ปี เคยเว้นวรรคว่างๆ อยู่แค่ 2 เดือนเท่านั้นตอนอายุ 20 ปีหลังจากนั้นก็ไม่เคยมีเลยสักวันที่จะไม่มีใครในหัวใจ

จนวันที่อายุใกล้สี่สิบ กำลังคิดวางแผนจะแต่งงานกับผู้ชายที่คบกันมาถึง 13 ปี แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิก

อุ๊ตัดสินใจอยู่หนึ่งเดือนก่อนจะกล้าบอกเลิกเขา เพราะวิธีคิดของเรามันไปด้วยกันไม่ได้มานานมากแล้ว แต่ที่ผ่านมาอุ๊ไม่เคยยอมรับว่าสิ่งนี้คือปัญหา จนกระทั่งใกล้กำหนดวันแต่งงาน อุ๊จึงต้องยอมรับกับตัวเองแล้วตัดใจบอกเขาว่า “เราอย่าแต่งงานกันเลยนะพี่ เลิกกันเถอะ”จนถึงวันนี้อุ๊ก็ได้เรียนรู้แล้วว่า ไม่มีบทสรุปที่แน่นอนใดๆ ในเรื่องของความรัก ความรักเป็นเพียงคำอธิบายที่ใช้เฉพาะคนสองคน ณ ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น จึงใช้ไม่ได้กับคนทุกคน

อย่างที่บอก…อุ๊ไม่เคยคิดเลยเรื่องการอยู่เป็นโสด ยอมรับว่าเป็นคนเลือกเยอะ ในวันนี้จึงเริ่มหวั่นไหว เพราะโอกาสในการเลือกของเราน้อยลงทุกวัน แต่คุณสมบัติของคู่ชีวิตที่คิดไว้ในใจกลับไม่เคยลดลงเลย

ไม่ใช่ว่าต้องรวยเป็นร้อยเป็นพันล้านหรือหล่อมากๆ ถึงจะจีบฉันได้ อุ๊ไม่เคยมีสเป็คภายนอก ขอเพียงเป็นเพื่อนกันได้ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ความคิดทันกัน คุยกับเรารู้เรื่อง รักเราอย่างที่เราเป็น และเป็นคนดีไม่พากันไปตกต่ำ คือคบกันแล้วชีวิตเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆแค่นี้ก็โอเคแล้ว

อายมากนะคะที่จะต้องสารภาพว่า การต้องเลิกกับผู้ชายคนที่กำลังจะแต่งงานด้วยคือเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตของอุ๊ตั้งแต่เกิดมา ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนที่ผ่านการทำงานมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่างช่อผกาจะเป็นพวกอ่อนประสบการณ์ อ่อนโลก โดยเฉพาะในเรื่องการสูญเสียและความผิดหวัง แม้ชีวิตจะเคยเจอวิกฤติหรือปัญหาเรื่องงานมาบ้างแต่มันก็เหมือนจะคลี่คลายได้ทุกครั้ง เรื่องผิดหวังก็มีบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ฉะนั้นความสุขความสมหวังในชีวิตที่ผ่านมาจึงมีเหลี่ยมมุมของอันตราย เพราะสุดท้ายมันได้สร้างให้เราอ่อนแอและเปราะบางเกินไป(อย่างไม่น่าเชื่อ)

อุ๊คิดว่าเป็นการดีแล้วที่เกิดเรื่องอย่างนี้กับชีวิตเสียบ้าง เพราะเมื่อเราหนีหัวใจตัวเองออกจากความทุกข์ไม่ได้ เราก็ต้องหันหน้ามาเผชิญเพื่อหาทางแก้ไขจัดการกับมัน “ทุกข์มีไว้ให้เห็น ทุกข์ไม่ได้มีไว้ให้เป็น”คำสอนของคุณแม่ชีศันสนีย์ที่ได้ยินกรอกหูมาเกือบสิบปี แต่ยังไม่เคยทดลองทำจริงจังสักครั้ง จนกระทั่งเกิดเรื่องนี้ขึ้น และท่านยังบอกอุ๊อีกว่า “นี่เป็นโอกาสดีที่เธอจะได้กลับมาทำความรู้จักและเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง มาเป็นนักปฏิบัติจริงๆ เพื่อที่จะถอดถอนความเจ็บปวดในหัวใจตัวเอง ซึ่งเกิดมาจากความคิดผิด หาให้เจอว่าจากเหตุการณ์นี้ เธอคิดผิดเรื่องอะไรบ้าง”

แม้จะเริ่มค้นพบสัจธรรมของชีวิตผ่านแง่มุมที่เคยคิดผิดๆ และเยียวยาจิตใจตัวเองให้กลับมาแข็งแรงได้ไม่นาน แต่แล้วอุ๊กลับพบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง และเป็นมะเร็งชนิดพิเศษแค่เพียง 4 วันเท่านั้นเพราะ…

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

Secret Magazine (Thailand)

ภาพ : วรวุฒิ วิชาธร


บทความน่าสนใจ

ชีวิตมันๆ กับสัจธรรมที่ค้นพบ…อุ๊ – ช่อผกา วิริยานนท์ (ตอนจบ)

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.