มด - ณปภัช

มด – ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ “ธรรมะคือกระจกส่องใจ”

มด – ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ “ธรรมะคือกระจกส่องใจ”

หลังแจ้งเกิดด้วยการเป็นนักร้องคู่ดูโอวง “โฟร์ – มด” กับค่ายเพลงอาร์เอสเมื่อสิบปีก่อน วันนี้คุณมดเป็นนางเอกซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงฝีมือทางด้านการแสดง ความสามารถในการทำงานของเธอพัฒนามากขึ้น พร้อม ๆ กับการพัฒนาทางด้านจิตใจด้วยการเปิดรับธรรมะเข้าสู่ชีวิต

“ครอบครัวปลูกฝังเรื่องบุญ – บาปมาตั้งแต่เด็ก เพราะปกติคุณแม่เข้าวัดปฏิบัติธรรมเป็นประจำ มดก็จะตามคุณแม่ไปด้วยบ่อย ๆ แต่ได้รู้จักธรรมะอย่างจริงจังเมื่อได้พบกับพระอาจารย์อุเทน เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ท่านเป็นผู้เปิดโลกทางธรรมให้กับเรา เพราะเมื่อก่อนร้อยวันพันปีเวลาฟังพระเทศน์หรือสวดมนต์จะรู้สึกเฉย ๆ แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ พอได้ฟังท่านสวดกลับชอบ ฟังแล้วรู้สึกสบายใจและสงบ

“ปกติจะมีชาวบ้านมาปรับทุกข์กับท่านเป็นประจำ วันหนึ่งท่านเรียกไปนั่งฟังด้วย ได้เห็นคนหลากหลายประเภท ได้ยินได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ท่านหันมาพูดกับเราว่า ‘โยมเห็นอะไรไหม เห็นข้อแตกต่างหรือเปล่า โยมบอกว่าเหนื่อย เจอกับปัญหา แต่สิ่งที่โยมเจอมันไม่ได้ครึ่งหนึ่งของบางคนเลยนะ’ ทำให้มดคิดได้ว่า สิ่งที่เราเจอคิดว่าหนักแล้วแต่คนอื่นหนักกว่าเราเยอะ โลกนี้ไม่ได้มีเราคนเดียวที่เป็นทุกข์ ยังมีอีกหลายคนที่ลำบากกว่าเรา

“มดถือว่ามดโชคดีมากที่มีโอกาสได้ทำงานตรงนี้ บางคนทำงานเหนื่อยกว่าเราหลายเท่า แต่ไม่เคยบ่นเลยสักคำ เขายังทำงานต่อไปเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว เพราะฉะนั้นเราต้องพอใจในสิ่งที่มีอยู่ อย่าโลภ ปัญหาหรือเรื่องราวต่าง ๆ ที่เข้ามารบกวนจิตใจ บางทีเราต้องปล่อยวางบ้าง”

การได้พบกับพระอาจารย์อุเทน ทำให้คุณมดได้รู้จักกับการปฏิบัติธรรม ถือศีลแปด และการเดินธุดงค์เป็นครั้งแรก เธอเล่าถึงประสบการณ์ในครั้งนั้นว่า

“การเดินธุดงค์เหมือนเราควบคุมจิตตัวเอง พอเดินไปได้สักระยะหนึ่งจะเริ่มเมื่อย ปวดแขน ปวดขา ไหนจะมีแมลงมาตอม ไหนจะแดดร้อน เท้าก็เจ็บ ไกลก็ไกล ไม่ไหวแล้ว นั่งดีกว่า เหมือนเวลานั่งสมาธิแล้วเป็นเหน็บชา เราจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร มดนึกถึงตอนบวชชีพราหมณ์ มีพระรูปหนึ่งที่วิโมกสิวาลัยสอนว่า ‘ร่างกายไม่ใช่ของเรา จิตต่างหากที่เป็นของเรา ร่างกายเมื่อยเพราะจิต โยมต้องปล่อยแล้วเดี๋ยวจะเบาเอง’ เราก็ทำตาม ปรากฏว่ารู้สึกเบาลงจริง ๆ จึงลองนำความรู้สึกในตอนนั้นมาใช้กับการเดินธุดงค์ ค่อย ๆ ปล่อยจิตให้เบาสบาย ปรากฏว่าเดินได้ตลอดจนกระทั่งถึงที่หมาย การเดินธุดงค์สำหรับมดคือการได้อยู่กับตัวเอง เป็นการทำสมาธิที่ดี ทำให้เราสงบ มีสติ และยังได้บุญอีกด้วย”

จากประสบการณ์ในการถือศีลปฏิบัติธรรมหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา คุณมดได้นำเอาข้อธรรมะมาปรับใช้กับการทำงานและชีวิตประจำวัน ทำให้มีสติ มีสมาธิในการใช้ชีวิตมากขึ้น

“หลังปฏิบัติธรรมทำให้เวลาทำงานเราเข้าใจโลกมากขึ้น เวลาเล่นละครมีสมาธิเต็มที่ มดเห็นบางคนว่อกแว่ก กำลังอ่านบทอยู่ พอมีใครมาคุยข้าง ๆ ก็หันไปสนใจ ธรรมะเป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนกลับมามองตัวเราว่า ‘เมื่อก่อนฉันเป็นแบบนี้นี่นา’ แต่เดี๋ยวนี้รู้ตัว คล้ายกับมีสวิตช์ พอเข้าสู่ช่วงเวลาทำงานจะเป็นอีกภาวะหนึ่งที่ใช้สติกับสมาธิค่อนข้างเยอะมาก แต่พอเลิกงานก็กลับมาอีกภาวะหนึ่งที่ผ่อนคลายมากขึ้น เหมือนเราสามารถควบคุมจิตและสมาธิได้มากขึ้น

“มดรู้สึกว่าเราต้องพกกระจกตลอดเวลา ต้องคิดเสมอว่ามีกระจกอยู่ข้างหน้า ทำอะไรให้ลองมองตัวเองในกระจกก่อนว่าสิ่งที่ทำถูกหรือผิด ก่อนจะไปมองหรือโทษคนอื่น นั่นคือการมีสติ มีสมาธิ ถ้าสติแตกก็คิดว่าฉันเห็นคนบ้าในกระจก ‘เราอยากเป็นคนบ้าเหรอ’ แค่นั้นเอง

ธรรมะทำให้มองเห็นการกระทำของตัวเองมากขึ้น และมีสติทุกลมหายใจ

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

เรื่อง  ธันยาภัทร์ รัตนกุล, กรรณิการ์ ทองคำ

ภาพ  วรวุฒิ วิชาธร

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.