คนไกลบ้าน

ความในใจของคนไกลบ้าน

ฉันคือเด็กสาวบ้านนอกที่จากบ้านมาอยู่ในเมืองกรุง เมืองใหญ่เมืองศิวิไลซ์ที่ใคร ๆ ก็อยากมา คนไกลบ้าน

ฉันชื่อ “นวล” เป็นเด็กบ้านนอก ฐานะยากจน เกิดมาในครอบครัวที่อาศัยอยู่ในกระต๊อบเล็ก ๆ ของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่จำความได้ฉันเห็นพ่อทำงานหนัก รับจ้างทำงานทุกอย่าง ว่างก็เผาฟืน นึ่งข้าวโพดไปขาย เพราะแม่ไม่สบาย นอนซมอยู่กับบ้าน พี่ชายสองคนต้องออกไปทำงานหาเงิน ส่วนฉันมีหน้าที่เลี้ยงน้องสาวตัวเล็ก ๆ แทนแม่

ความเป็นอยู่ของบ้านเราลำบากมาก ต่างจากฐานะความเป็นอยู่ของบ้านตายายอย่างสิ้นเชิง ตายายเป็นผู้มีอันจะกิน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านติดกัน แต่ท่านไม่เคยมาเหลียวแลหลาน ๆ ในบ้านนี้เลยสักครั้ง แม่เล่าว่าตาและยายโกรธแม่ที่มาคบหากับพ่อ แทนที่จะแต่งงานกับคนที่ท่านหมั้นหมายไว้ให้ ตายายไม่ชอบพ่อเพราะพ่อจน มีแต่ตัวท่านทั้งสองจึงโกรธมากที่แม่เลือกมาอยู่กับพ่อ ถึงกับตัดความเป็นพ่อแม่ลูกกันตั้งแต่นั้น

ไม่ว่าท่านจะรู้ว่าลูกสาวและหลานลำบากเพียงใด ตาและยายก็ไม่เคยเหลียวแล มีแต่เพียงคำพูดที่ว่า “ไม่มีกินก็ช่างมึง”

ครอบครัวของเราอยู่กันอย่างอด ๆ อยาก ๆ ข้าวที่ได้ปันมาจากการทำงานเก็บเกี่ยวก็มีน้อยนิด ไม่เพียงพอต่อสมาชิกในครอบครัวที่มีกันอยู่หลายชีวิต บ้านเราจึงไม่เคยได้กินข้าวสวย ข้าวนึ่ง มีแต่ข้าวต้มที่ใส่ข้าวเพียงกำมือแต่น้ำเต็มหม้อเพื่อให้พอแบ่งปันให้ทุกชีวิตในครอบครัวประทังความหิว

ฉันอยู่บ้านดูแลแม่ดูแลน้อง จนอายุ 7 ขวบก็ได้ไปเข้าเรียน ป.1 ที่โรงเรียนใกล้บ้าน เวลานั้นน้องสาวก็ไปโรงเรียนเช่นกัน แต่เรามีชุดนักเรียนเพียงชุดเดียวเท่านั้น จึงต้องสลับกันใส่และสลับกันไปโรงเรียนคนละวัน ฉันชอบเรียนหนังสือมาก เพราะอยากอ่านออกเขียนได้ โตไปจะได้หางานดี ๆ ทำ แต่เมื่อต้องขาดเรียนบ่อย ฉันก็เรียนตามเพื่อนไม่ทัน และสงสารน้องที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน จึงยอมเสียสละให้น้องได้ไปเรียนทุกวัน ส่วนฉันก็อยู่กับบ้านดูแลแม่และช่วยพ่อทำงานหาเลี้ยงครอบครัว

ฉันติดตามพ่อไปทำงานทุกอย่าง ตั้งแต่ปลูกขิง ปลูกข้าวโพด เกี่ยวข้าว ถ้าว่างก็ต้มหน่อไม้ ต้มลูกเดือยขาย ถ้าพ่อไปเผาถ่านก็ไปช่วยพ่อเลื่อยฟืน หาบถ่าน ฉันทำอย่างนี้จนเริ่มโตเป็นสาว และเริ่มมีความคิดอ่านเป็นของตัวเอง ฉันคิดว่า อยู่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรดีขึ้น วันหนึ่งจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อไปทำงานรับจ้างที่เชียงใหม่กับเพื่อน

เพราะความไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออก เขียนได้เพียงชื่อตัวเองและตัวเลข ทำให้ฉันไม่อาจเขียนจดหมายส่งข่าวไปที่บ้านได้ ในเวลานั้นโทรศัพท์ที่บ้านก็ไม่มี ฉันเป็นตายร้ายดีอย่างไร คนที่บ้านก็ไม่ทางรู้เลย ส่วนเงินค่าแรงที่อยากส่งให้พ่อแม่แทบขาดใจก็ต้องเก็บไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะฝากใครที่ไว้ใจได้ไปให้ท่าน ฉันทนทรมานคิดถึงบ้านอยู่สองเดือน ก็ตัดสินใจกลับบ้านไปขอขมาพ่อแม่ และเอาเงินที่เก็บไว้ไปให้ท่าน แต่ไม่นานนักก็ต้องกลับมาทำงานที่เชียงใหม่อีกครั้ง

คลิกเลข 2 เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.