สุขง่าย ๆ

“ดมกลิ่นดอกไม้” สุขง่าย ๆ ของผู้หญิงที่จะทำให้มุมมองความสุขของคุณเปลี่ยนไป

“ดมกลิ่นดอกไม้” สุขง่าย ๆ ของผู้หญิงที่จะทำให้มุมมองความสุขของคุณเปลี่ยนไป

บทความ สุขง่าย ๆ นี้ เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Secret คอลัมน์ Healing Story ชื่อบทความ “แบบฝึกหัดมองหาความสุข” เขียนโดย นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล

เมื่อไม่นานมานี้ มีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งได้ทำงานวิจัยเรื่องของความสุขและการได้มาซึ่งความสุขของคนในยุคปัจจุบัน

ผลการวิจัยนั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งโดยพวกเขาพบว่า การได้รับความสุขแบบใหญ่ ๆ เป็นครั้งเป็นคราวไป ยกตัวอย่างเช่นการได้รับรางวัลจากรายการชิงโชค การได้ของใช้ใหม่ ๆ หรือแม้แต่การได้รับประทานอาหารจากร้านอาหารชื่อดังนั้น เป็นความสุขที่มักจะจางหายไปอย่างรวดเร็วมากกว่าความสุขที่เราได้รับจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน

งานวิจัยนี้ทำให้ผมคิดได้ว่า การมองหาความสุขจากชีวิตประจำวันของเรา แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งอาจทำให้เรารื่นรมย์ได้ไม่มากนักนั้น กลับเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีความสุขอยู่ได้นานมากกว่าการตั้งตารอคอยความสุขจากเรื่องที่ใหญ่โตในอนาคตซึ่งยังเดินทางมาไม่ถึง

ในอีกแง่มุมหนึ่งก็อาจกล่าวได้ว่าการฝึกฝนมองหาความสุขจากเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันนั้น เป็นแบบฝึกหัดที่ดีเยี่ยมในการทำให้เราพร้อมรับกับความทุกข์ที่อาจถาโถมเข้ามาหาเราได้ทุกเมื่อ เพราะหากเราหมั่นฝึกฝนทำแบบฝึกหัดนี้อยู่เสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่จิตใจของเราอ่อนแอลงจากความทุกข์ เราก็สามารถเรียกหาความสุขจากสิ่งใกล้ตัวออกมาช่วยได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคอยความสุขลม ๆ แล้ง ๆ ในอนาคต แบบฝึกหัดนี้เราสามารถเริ่มฝึกทำได้ทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งยามที่ร่างกายเจ็บป่วยดังเรื่องราวที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้

ป้าศรีเป็นชาวสวนที่รักการปลูกและดูแลดอกไม้เป็นอย่างยิ่ง คุณป้าเคยบอกผมว่า วันไหนที่ป้าไม่ได้เห็นดอกไม้ วันนั้นท่านจะรู้สึกหงุดหงิดไปทั้งวัน ความสุขของป้าศรีมาจากการมองเห็นหรือดมกลิ่นดอกไม้สักดอกให้ชื่นใจเพียงเท่านั้น ดูช่างเป็นความสุขที่เรียบง่ายในชีวิตและอาจถูกมองเป็นเรื่องตลกของใครอีกหลายคน แต่คนเหล่านั้นจะรู้หรือไม่ว่า ความสุขง่าย ๆ นี่แหละครับที่ทำให้ป้าศรีผ่านพ้นความทุกข์อย่างแสนสาหัสจากอาการเจ็บป่วยมาได้เป็นอย่างดี

สุขง่าย ๆ
Photo by Amy Shamblen on Unsplash

ผมรู้จักป้าศรีเนื่องจากเคยไปซื้อดอกไม้ที่ร้านของท่านอยู่สักสองหรือสามครั้ง คุณป้าดูเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ท่านมักอยู่ในสวนดอกไม้ขนาดย่อมที่ตัวเองปลูกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติด้านหลังร้าน การได้ไปที่ร้านของป้าศรีนอกจากจะได้ดอกไม้กลับมาตามที่ต้องการแล้ว ผมมักจะได้รับรอยยิ้มของท่านเป็นของแถมอยู่เสมอ

ระยะหลังผมไม่ค่อยได้ไปที่ร้านป้าศรีเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมได้พบท่านโดยบังเอิญในโรงพยาบาล พอได้พบกันอีกครั้งก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะท่านดูผอมลงอย่างชัดเจน ใบหน้าที่เคยประดับด้วยรอยยิ้มกลับมีหน้ากากอนามัยปกปิดอยู่แทน

เมื่อสอบถามก็ได้ความว่า ท่านมีอาการไอเรื้อรังมาหลายเดือนแล้ว น้ำหนักก็ลดลงหลายกิโลกรัม ทั้งยังรู้สึกว่ามีไข้ต่ำ ๆ ช่วงเย็นอยู่ตลอด พอมาตรวจก็พบว่า มีการติดเชื้อวัณโรคที่ปอด วัณโรคเป็นโรคติดเชื้อที่พบบ่อยมากในประเทศไทย ไม่ว่าร่างกายจะแข็งแรงขนาดไหนก็มีโอกาสได้รับเชื้อและป่วยได้ แพทย์ต้องให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยซึ่งอยู่ในช่วงแรกของการรักษาว่า ให้แยกตัวออกจากคนใกล้ชิดเป็นเวลาถึงหกเดือนเต็ม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อในขณะที่ยาต้านวัณโรคกำลังออกฤทธิ์ทำลายเชื้อโรคร้ายนี้อยู่

ป้าศรีเองก็จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ครอบครัวของป้าศรีเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ทั้งยังมีสมาชิกในบ้านหลายคนที่เป็นเด็ก คุณป้าต้องแยกตัวเองจากบุคคลอันเป็นที่รักหลาย ๆ คนระหว่างการรักษาวัณโรค ไม่เพียงทำให้ท่านเจ็บป่วยทางกายเท่านั้น หากทำให้จิตใจที่เคยสดชื่นร่าเริงของท่านกลับห่อเหี่ยวลงจนน่าใจหาย

คุณป้าเล่าให้ฟังว่า ท่านไม่มีเพื่อนคุยด้วย แม้กระทั่งลูกค้าประจำที่มาซื้อดอกไม้อยู่ตลอดก็ห่างหายเมื่อทราบว่าท่านป่วยเป็นวัณโรคปอด แต่แล้ววันหนึ่งท่านก็คิดขึ้นมาได้ว่า ยังมีเพื่อนเก่าที่ไม่เคยทิ้งท่านไปไหน ความทุกข์จากการเจ็บป่วยและความเหงาทำให้ท่านลืมดอกไม้อันเป็นที่รักของท่านไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ และท่านเองก็มีความสุขเสมอเมื่อได้อยู่กับเพื่อนเก่ารายนี้

หลังจากได้รับยาครบตามกำหนดและหายขาดจากวัณโรคปอดแล้ว ป้าศรีได้เล่าให้ผมฟังว่า เพราะดอกไม้ของป้าแท้ ๆ ที่ทำให้ท่านมีกำลังใจต่อสู้โรคร้าย เพียงแค่ได้ตื่นขึ้นมาแล้วพบดอกไม้ที่ท่านชื่นชอบอยู่ใกล้ ๆ ได้มองเห็น ดมกลิ่น และสัมผัสดอกไม้ ก็มอบพลังความสุขให้คุณป้าเพื่อนำไปต่อสู้กับโรคร้ายได้อย่างมากมาย แม้จะต้องแยกตัวอยู่คนเดียว แต่ท่านกลับมีความสุขจนข้ามผ่านมรสุมชีวิตมาได้

ในสังคมที่เร่งรีบ ทุกอย่างเคลื่อนตัวไปรวดเร็วจนหลายคนบ่นว่าแทบไม่มีเวลาหยุดพักผ่อนเพื่อหาความสุข แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า ความสุขที่แท้นั้นรอเราอยู่แล้วทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาตื่นนอนในตอนเช้าแล้วได้ยิ้มและทักทายกับคนที่เรารัก ได้นั่งดื่มกาแฟหรือแม้แต่น้ำเปล่าเพียงสักแก้วหนึ่งให้ชื่นใจ มองเห็นเด็กน้อยแก้มแดงระหว่างทางเดินไปทำงาน ยิ้มให้คนแปลกหน้าที่อุตส่าห์กดลิฟต์รอเรา ได้ทำงานและเลิกงานตรงตามเวลา ไม่ได้เอาเปรียบหรือเสียเปรียบใคร กลับบ้านนั่งพักและอ่านหนังสือดี ๆ สักเล่ม ได้หลับสนิทในที่นอนอันปลอดภัย

เรื่องเรียบง่ายเล็ก น้อยที่ได้พบได้เจอในชีวิตประจำวันเหล่านี้ เพียงแค่เราเปิดใจและมองในแง่มุมใหม่ ความสุขก็จะปรากฏขึ้นได้ในทันที… 

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

บทความน่าสนใจ

10 ความยึดมั่น ที่ทุบทำลายความสุขของคนเรา

คิดให้เป็น เพิ่มความสุขห่างไกลทุกข์

พุทธศาสนาคือศาสนาแห่งความสุข โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.